ตำรวจประกบตามไล่จับเอเยนต์ค้ายารายใหญ่ จนถึงทางลงด่วนพระราม 2 ส่งสัญญานให้หยุดรถ แต่คนร้ายยิงต่อสู้ จำเป็นต้องวิสามัญ ค้นรถเจอยาบ้า 5 หมื่นเม็ดซุกหลังเบาะคนขับ
วันนี้(29 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. พ.ต.ท.ธัชพงษ์ ปิ่นรอด พนักงานสอบสวน(สบ 3) สน.บางมด รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.วิสามัญคนร้าย ที่บริเวณทางลงด่วนเฉลิมมหานคร (ด่วนพระราม 2) ใกล้ปากซอยพระราม 2/23 ตรงข้ามรพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล แขวงบางมด เขตจอมทอง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน.บางมด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ ไฮแลนเดอร์ แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะบียน กง 1186 สุพรรณบุรี จอดอยู่เลนขวา บริเวณเบาะนั่งคนขับพบศพนายมานพ แจ้งคล้ายคม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 10 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหัวคิ้วขวา ต้นแขนขวา หน้าอกและชายโครงขวา รวม 4 แผล ที่เบาะหลังคนขับพบของกลาง ยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ
ที่พื้นถนนข้างรถพบกองเลือด และอาวุธปืนขนาด 11 มม. มีกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กจำนวน 3 นัด ซึ่งของคนร้ายตกอยู่ลักษณะขึ้นลำพร้อมยิง นอกจากนี้ยังพบแว่นตา หมวกแก็ปและปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนบริเวณด้านหน้าและหลังรถของคนร้ายมีรถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส. 3 บช.ปส. จอดประกบอยู่ (ด้านหลังเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน พฮ 8384 กทม. ด้านหน้าเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌท 3128 กทม.)
พล.ต.ท.อติเทพ เปิดเผยว่า การวิสามัญคนร้ายในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ตำรวจบช.ปส.ได้เข้าทลายโรงงานผลิตยาบ้าย่านคลองเตย เมื่อวานที่ผ่านมา (28 ม.ค.)โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก จึงทำการขยายผลพบว่านายมานพคนร้ายรายนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่ย่านคลองเตย เนื่องจากนายมานพได้รับยาบ้ามาจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก. 2 บก.ปส.3 บช.ปส. นำโดยพ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง ผกก.3 กก.ปส.3 บช.ปส. ได้สืบทราบว่านายมานพจะเดินทางไปรับยาบ้าของกลางจากเอเยนต์ที่ห้างบิ๊กซี สาขาบางพลี จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังเฝ้าติดตาม หลังจากคนร้ายรับยาบ้า และคาดว่ากำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งยาให้กับลูกค้า พอมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้สังเกตว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจึงพยายามเร่งรถหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขับรถปาดเข้าประกบหน้าหลัง เมื่อคนร้ายเห็นว่าจวนตัวจึงเปิดประตูลงมายกมือไหว้คล้ายจะยอมมอบตัว
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันที่เจ้าหน้าที่จะเข้าชาร์จจับกุมนั้นคนร้ายจึงได้ชักอาวุธปืนออกมาจะยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจำเป็นต้องวิสามัญคนร้ายดังกล่าว โดยหลังจากที่คนร้ายถูกยิงก็พยายามที่จะขึ้นไปบนรถเพื่อขับหลบหนีแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติคนร้ายรายนี้พบว่าเคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืนที่สน.โคกครามมาแล้ว เมื่อช่วงเดือนม.ค. 2551 อย่างไรก็ดีในช่วงเย็นวันนี้ทาง บช.ปส. เตรียมนำกำลังเข้าทลายแหล่งเอเยนต์ยาบ้าในย่านบางพลีที่ส่งยาให้กับนายมานพต่อไป
ทลายโรงงานผลิตยาบ้ากลางกรุง ยึดแท่นปั๊ม 2 ตัว-ยาบ้า 2 แสน
วันนี้(29 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. พ.ต.ท.ธัชพงษ์ ปิ่นรอด พนักงานสอบสวน(สบ 3) สน.บางมด รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.วิสามัญคนร้าย ที่บริเวณทางลงด่วนเฉลิมมหานคร (ด่วนพระราม 2) ใกล้ปากซอยพระราม 2/23 ตรงข้ามรพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล แขวงบางมด เขตจอมทอง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน.บางมด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ ไฮแลนเดอร์ แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะบียน กง 1186 สุพรรณบุรี จอดอยู่เลนขวา บริเวณเบาะนั่งคนขับพบศพนายมานพ แจ้งคล้ายคม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 10 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหัวคิ้วขวา ต้นแขนขวา หน้าอกและชายโครงขวา รวม 4 แผล ที่เบาะหลังคนขับพบของกลาง ยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ
ที่พื้นถนนข้างรถพบกองเลือด และอาวุธปืนขนาด 11 มม. มีกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กจำนวน 3 นัด ซึ่งของคนร้ายตกอยู่ลักษณะขึ้นลำพร้อมยิง นอกจากนี้ยังพบแว่นตา หมวกแก็ปและปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนบริเวณด้านหน้าและหลังรถของคนร้ายมีรถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส. 3 บช.ปส. จอดประกบอยู่ (ด้านหลังเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน พฮ 8384 กทม. ด้านหน้าเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌท 3128 กทม.)
พล.ต.ท.อติเทพ เปิดเผยว่า การวิสามัญคนร้ายในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ตำรวจบช.ปส.ได้เข้าทลายโรงงานผลิตยาบ้าย่านคลองเตย เมื่อวานที่ผ่านมา (28 ม.ค.)โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก จึงทำการขยายผลพบว่านายมานพคนร้ายรายนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่ย่านคลองเตย เนื่องจากนายมานพได้รับยาบ้ามาจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก. 2 บก.ปส.3 บช.ปส. นำโดยพ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง ผกก.3 กก.ปส.3 บช.ปส. ได้สืบทราบว่านายมานพจะเดินทางไปรับยาบ้าของกลางจากเอเยนต์ที่ห้างบิ๊กซี สาขาบางพลี จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังเฝ้าติดตาม หลังจากคนร้ายรับยาบ้า และคาดว่ากำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งยาให้กับลูกค้า พอมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้สังเกตว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจึงพยายามเร่งรถหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขับรถปาดเข้าประกบหน้าหลัง เมื่อคนร้ายเห็นว่าจวนตัวจึงเปิดประตูลงมายกมือไหว้คล้ายจะยอมมอบตัว
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันที่เจ้าหน้าที่จะเข้าชาร์จจับกุมนั้นคนร้ายจึงได้ชักอาวุธปืนออกมาจะยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจำเป็นต้องวิสามัญคนร้ายดังกล่าว โดยหลังจากที่คนร้ายถูกยิงก็พยายามที่จะขึ้นไปบนรถเพื่อขับหลบหนีแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติคนร้ายรายนี้พบว่าเคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืนที่สน.โคกครามมาแล้ว เมื่อช่วงเดือนม.ค. 2551 อย่างไรก็ดีในช่วงเย็นวันนี้ทาง บช.ปส. เตรียมนำกำลังเข้าทลายแหล่งเอเยนต์ยาบ้าในย่านบางพลีที่ส่งยาให้กับนายมานพต่อไป
ทลายโรงงานผลิตยาบ้ากลางกรุง ยึดแท่นปั๊ม 2 ตัว-ยาบ้า 2 แสน