อัยการยื่นฝากขัง 5 ผู้ต้องหา “แก๊งค้าอาวุธข้ามชาติ” อีก 12 วัน 31 ม.ค. - 11 ก.พ. หลังอัยการสูงสุดยังไม่สั่งคดี แจงสำนวนมีเอกสารรายละเอียดมาก คาดมีความเห็นฟ้องหรือไม่ฟ้องได้นัดหน้า ด้านอัยการสูงสุดปฏิเสธสั่งไม่ฟ้องแค่ข่าวลือ
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงข่าวการพิจารณาสั่งคดี 5 ผู้ต้องหาชาวคาซัคสถาน และเบลารุส แก๊งค้าอาวุธซึ่งถูกจับที่สนามบินดอนเมืองว่า ที่ผ่านมาคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้นำสำนวนเสนอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด พิจารณาเพื่อมีความเห็นสั่งคดี แต่อัยการสูงสุด ยังสั่งคดีไม่ทันภายในวันนี้ เนื่องจากเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เนื้อหามีรายละเอียดมาก จึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยให้คณะทำงานอัยการคดีอาญา ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 5 ผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญาอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. - 11 ก.พ.นี้ ซึ่งคณะทำงานอัยการพร้อมยื่นคำร้องฝากขังในวันนี้ เนื่องจากฝากขังครั้งที่ 4 จะครบกำหนดในวันที่ 30 ม.ค.นี้ โดยท้ายคำร้องอัยการจะขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ การพิจารณาสำนวนดังกล่าวผู้ต้องหายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการถูกกลั่นแกล้งจากการแจ้งข้อมูลต่างประเทศหรือไม่ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า ในสำนวนไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งห้า ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอ้างเหตุผลดังกล่าว ขณะที่การพิจารณาสำนวนนี้ไม่ได้สั่งให้พนังกานสอบสวนเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม มีแต่กรณีที่อัยการเรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามเพิ่มเติมในเรื่องที่ปรากฏในสำนวน เช่น ของกลางสั่งยึดอะไรไว้บ้าง
“เนื่องจากคดีเป็นเรื่องความสำคัญที่มีผลกระทบในวงกว้าง เป็นที่สนใจของประชาชน การจะพิจารณาสำนวนสั่งคดี ก็ต้องนำเสนออัยการสูงสุดให้พิจารณา และถ้าที่สุดแล้วอัยการสูงสุดจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไม่แจ้งให้ ผบ.ตร. ทำความเห็นแย้ง เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาคำสั่งอัยการสูงสุดถือว่าสิ้นสุดแล้วไม่ต้องเสนอใคร ส่วนประเด็นว่าคดีนี้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรนั้น เวลานี้ยุติแล้วว่าเป็นคดีที่มีการกระทำผิดในราชอาณาจักรไทย โดยคดีนี้ถือเป็นคดีที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย” นายกายสิทธิ์ อธิบดีอัยการกล่าว และว่าหากอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องแล้วจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือขัดต่อกฎขององค์การสหประชาชาติหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่าอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเป็นการกดดันอัยการสั่งคดีหรือไม่ นายกายสิทธิ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากล่าวปฏิเสธว่า คงไม่ใช่เพราะการสั่งคดีอัยการพิจารณาตามพยานหลักฐาน โดยคาดว่าอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ได้ภายในนัดหน้า อย่างไรก็ดี ส่วนความเห็นเบื้องต้นของคณะทำงานอัยการมีแนวทางอย่างไร ตนไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะสุดท้ายผลการสั่งคดีจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดการสั่งคดี แต่สมมุติอัยการสูงสุด จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใดแล้วแต่ถ้าผู้ต้องหานั้นถูกควบคุมตัวขังอยู่ในเรือนจำ อัยการต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายปล่อยตัว โดยกระบวนการปล่อยตัวจะดำเนินการได้ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับอาวุธปืนของกลาง หากอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องก็ต้องมีการสั่งให้ริบของกลางไว้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนการขออายัดตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อดำเนินการคดีหรือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่นั้นจนถึงเวลานี้ยังไม่ปรากฏว่ามีหน่วยงานจากต่างประเทศ ยื่นหนังสือถึงอัยการที่จะอ้างเหตุการณ์อายัดตัวเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หากต่างประเทศหรือสหรัฐอเมริกาจะขออายัดตัวหากพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยกระทำผิดในประทศอื่นเพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า หากจะมีการขออายัดตัวก็ต้องดำเนินการแจ้งเรื่องไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าจะอายัดตัวเนื่องจากมีการแจ้งความผิดอะไร ส่วนจะอายัดแล้วจะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งหรือไม่
เมื่อถามว่าหากอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะมีการพิจารณาความผิดผู้ต้องหาอย่างไร เช่น กรณีผู้ที่เป็นนักบินอ้างว่า ถูกจ้างมาและไม่ทราบมีการขนอาวุธ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบไม่ได้เพราะไม่ทราบว่าอัยการสูงสุดจะพิจารณาอย่างไร แต่การพิจารณาถ้ามองตามกฎหมายต้องพิจารณาจากพฤติการณ์และเจตนาของผู้ต้องหา เช่น ผู้ที่คนควบคุมเครื่องบินหรืออากาศยาน ต้องรู้ว่าตนบรรทุกอะไรมาในเครื่องบิน และตามกฎหมายไทย พ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดที่กล่าวหาในคดีนี้ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า ผู้ที่ควบคุมอากาศยานที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรต้องทำรายงานส่งต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ดังนั้นจึงต้องรู้ว่ามีการบรรทุกอะไรมา แต่คดีนี้ไม่มีการยื่นรายงานมาก่อน ซึ่งจะถือว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบเลี่ยงการขนอาวุธหรือไม่ ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นในสำนวนอีกหลายประการด้วย ไม่ใช่แค่ยื่นหรือไม่ยื่นรายงานเพียงอย่างเดียว
นายกายสิทธิ์ยังกล่าวชี้แจงกี่ยวกับฐานความผิดคดีนี้ด้วยว่า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งห้า กระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55, 72 , 72 ทวิ และ 78 พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 พ.ร.บ.การเดินอากาศไทย พ.ศ.2497 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา โดยอัตราโทษสูงสุดคือ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่ นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันว่า เวลานี้อัยการยังไม่ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ขณะที่การสั่งคดีความเห็นอัยการสูงสุดถือเป็นที่สุดตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย นายอิสยาส อิสวาคอฟ (IIyas Issakov) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 1, นายวิกเตอร์ อับดุลลายัฟ (Viktor Abdullayev) อายุ 58 ปี สัญชาติคาซัคสถาน เนวิเกเตอร์, นายมิคาอิล พีทูคู (Mikhail Petukou) อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส ช่างเครื่องยนต์, นายอเล็กซานดะ ไซร์บาเนฟ (Alexandr Zrybnev) อายุ 53 ปี สัญชาติคาซัคสถาน ช่างเทคนิค และนายวิทาลี ชุนคอฟ (Vitaliy Shunkov) อายุ 54 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 2 แก๊งค้าอาวุธข้ามชาติ ผู้ต้องหาที่ 1-5 ปัจจุบันยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงข่าวการพิจารณาสั่งคดี 5 ผู้ต้องหาชาวคาซัคสถาน และเบลารุส แก๊งค้าอาวุธซึ่งถูกจับที่สนามบินดอนเมืองว่า ที่ผ่านมาคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้นำสำนวนเสนอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด พิจารณาเพื่อมีความเห็นสั่งคดี แต่อัยการสูงสุด ยังสั่งคดีไม่ทันภายในวันนี้ เนื่องจากเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เนื้อหามีรายละเอียดมาก จึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยให้คณะทำงานอัยการคดีอาญา ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 5 ผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญาอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. - 11 ก.พ.นี้ ซึ่งคณะทำงานอัยการพร้อมยื่นคำร้องฝากขังในวันนี้ เนื่องจากฝากขังครั้งที่ 4 จะครบกำหนดในวันที่ 30 ม.ค.นี้ โดยท้ายคำร้องอัยการจะขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ การพิจารณาสำนวนดังกล่าวผู้ต้องหายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการถูกกลั่นแกล้งจากการแจ้งข้อมูลต่างประเทศหรือไม่ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า ในสำนวนไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งห้า ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอ้างเหตุผลดังกล่าว ขณะที่การพิจารณาสำนวนนี้ไม่ได้สั่งให้พนังกานสอบสวนเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม มีแต่กรณีที่อัยการเรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามเพิ่มเติมในเรื่องที่ปรากฏในสำนวน เช่น ของกลางสั่งยึดอะไรไว้บ้าง
“เนื่องจากคดีเป็นเรื่องความสำคัญที่มีผลกระทบในวงกว้าง เป็นที่สนใจของประชาชน การจะพิจารณาสำนวนสั่งคดี ก็ต้องนำเสนออัยการสูงสุดให้พิจารณา และถ้าที่สุดแล้วอัยการสูงสุดจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไม่แจ้งให้ ผบ.ตร. ทำความเห็นแย้ง เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาคำสั่งอัยการสูงสุดถือว่าสิ้นสุดแล้วไม่ต้องเสนอใคร ส่วนประเด็นว่าคดีนี้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรนั้น เวลานี้ยุติแล้วว่าเป็นคดีที่มีการกระทำผิดในราชอาณาจักรไทย โดยคดีนี้ถือเป็นคดีที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย” นายกายสิทธิ์ อธิบดีอัยการกล่าว และว่าหากอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องแล้วจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือขัดต่อกฎขององค์การสหประชาชาติหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่าอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเป็นการกดดันอัยการสั่งคดีหรือไม่ นายกายสิทธิ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากล่าวปฏิเสธว่า คงไม่ใช่เพราะการสั่งคดีอัยการพิจารณาตามพยานหลักฐาน โดยคาดว่าอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ได้ภายในนัดหน้า อย่างไรก็ดี ส่วนความเห็นเบื้องต้นของคณะทำงานอัยการมีแนวทางอย่างไร ตนไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะสุดท้ายผลการสั่งคดีจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดการสั่งคดี แต่สมมุติอัยการสูงสุด จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใดแล้วแต่ถ้าผู้ต้องหานั้นถูกควบคุมตัวขังอยู่ในเรือนจำ อัยการต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายปล่อยตัว โดยกระบวนการปล่อยตัวจะดำเนินการได้ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับอาวุธปืนของกลาง หากอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องก็ต้องมีการสั่งให้ริบของกลางไว้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนการขออายัดตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อดำเนินการคดีหรือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่นั้นจนถึงเวลานี้ยังไม่ปรากฏว่ามีหน่วยงานจากต่างประเทศ ยื่นหนังสือถึงอัยการที่จะอ้างเหตุการณ์อายัดตัวเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หากต่างประเทศหรือสหรัฐอเมริกาจะขออายัดตัวหากพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยกระทำผิดในประทศอื่นเพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า หากจะมีการขออายัดตัวก็ต้องดำเนินการแจ้งเรื่องไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าจะอายัดตัวเนื่องจากมีการแจ้งความผิดอะไร ส่วนจะอายัดแล้วจะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งหรือไม่
เมื่อถามว่าหากอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะมีการพิจารณาความผิดผู้ต้องหาอย่างไร เช่น กรณีผู้ที่เป็นนักบินอ้างว่า ถูกจ้างมาและไม่ทราบมีการขนอาวุธ นายกายสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบไม่ได้เพราะไม่ทราบว่าอัยการสูงสุดจะพิจารณาอย่างไร แต่การพิจารณาถ้ามองตามกฎหมายต้องพิจารณาจากพฤติการณ์และเจตนาของผู้ต้องหา เช่น ผู้ที่คนควบคุมเครื่องบินหรืออากาศยาน ต้องรู้ว่าตนบรรทุกอะไรมาในเครื่องบิน และตามกฎหมายไทย พ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดที่กล่าวหาในคดีนี้ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า ผู้ที่ควบคุมอากาศยานที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรต้องทำรายงานส่งต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ดังนั้นจึงต้องรู้ว่ามีการบรรทุกอะไรมา แต่คดีนี้ไม่มีการยื่นรายงานมาก่อน ซึ่งจะถือว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบเลี่ยงการขนอาวุธหรือไม่ ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นในสำนวนอีกหลายประการด้วย ไม่ใช่แค่ยื่นหรือไม่ยื่นรายงานเพียงอย่างเดียว
นายกายสิทธิ์ยังกล่าวชี้แจงกี่ยวกับฐานความผิดคดีนี้ด้วยว่า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งห้า กระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55, 72 , 72 ทวิ และ 78 พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 พ.ร.บ.การเดินอากาศไทย พ.ศ.2497 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา โดยอัตราโทษสูงสุดคือ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่ นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันว่า เวลานี้อัยการยังไม่ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ขณะที่การสั่งคดีความเห็นอัยการสูงสุดถือเป็นที่สุดตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย นายอิสยาส อิสวาคอฟ (IIyas Issakov) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 1, นายวิกเตอร์ อับดุลลายัฟ (Viktor Abdullayev) อายุ 58 ปี สัญชาติคาซัคสถาน เนวิเกเตอร์, นายมิคาอิล พีทูคู (Mikhail Petukou) อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส ช่างเครื่องยนต์, นายอเล็กซานดะ ไซร์บาเนฟ (Alexandr Zrybnev) อายุ 53 ปี สัญชาติคาซัคสถาน ช่างเทคนิค และนายวิทาลี ชุนคอฟ (Vitaliy Shunkov) อายุ 54 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 2 แก๊งค้าอาวุธข้ามชาติ ผู้ต้องหาที่ 1-5 ปัจจุบันยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ