ตำรวจ 191 รวบแก๊งค้ายาไอซ์ซุกในนิตยสารบันเทิง ยึดของกลาง 20 กรัม ปืนพร้อมกระสุนครบมือ รับสารภาพขายส่งนาฬิกาเงินไม่พอกิน เลยไปรับยาจากเอเยนต์แถวฝั่งธนฯ เจาะขายนักท่องราตรี พร้อมกวาดจับนักค้ายาอีกหลายราย ขณะเดียวกันตามรวบตัวหนุ่มหื่นชำเราสาว 15 ควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (กก.สายตรวจ บก.ตปพ.) พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผกก.1 บก.ตปพ. พ.ต.ท.วรศักดิ์ พิสิฐบรรณกร สว.งานสายตรวจ 1 บก.ตปพ. พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 บก.ตปพ. พ.ต.ท.ศรีรัชพล ค้าขาย สว.งานสายตรวจ 3 บก.ตปพ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.ชารีณี หรือ พลอย ถุงสุวรรณ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/26 ม.5 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.กนกวรรณ อุปนันท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1990 ม.9 ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน นายนรินทร์ หรือหมู จินตะยะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312/11 ต.ปาดัง อ.สะเดา จ.สงขลา และนายหาญชัย อ่อนแก้ว อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/17 ม.9 อยู่บ้านเลขที่ 312/11 ต.ปาดัง อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมของกลางยาไอซ์ 20 กรัม อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม จากน.ส.ชาริณี และน.ส.กนกวรรณ ที่ห้องพักเลขที่ 602 อาคารบ้านวันเอกอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 158/33 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เบื้องต้นทั้งสองคนรับสารภาพว่ารับยาไอซ์มาจากนายนรินทร์ จึงวางแผนทำการล่อซื้อให้นายนรินทร์นำยาไอซ์มาส่งให้ที่ห้องดังกล่าว ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย นายนรินทร์และนายหาญชัยได้นำยาไอซ์จำนวน 20 กรัม ซุกซ่อนใส่นิตยสารบันเทิงมาส่งให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายนรินทร์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายส่งนาฬิกา โดยส่งไปขายที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แต่เงินไม่พอใช้จึงหันมาค้ายาไอซ์ โดยจะไปรับยามาจากเอเยนต์ย่านฝั่งธนฯ ในราคากรัมละ 2,000 บาท ก่อนจะเอามาขายให้กับนักเที่ยวตามสถานบริการต่างๆ ในราคา 2,700 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 6-7 ครั้ง โดยการส่งยาแต่ละครั้งจะใช้วิธีตัดผ่าเล่มนิตยสารบันเทิงต่าง ๆ และซุกซ่อนยาไอซ์ไว้ข้างใน ซึ่งตนไม่เคยถูกตำรวจเรียกตรวจค้น หรือจับกุมแม้แต่ครั้งเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ บก.ตปพ. ยังได้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดตามจุดต่างๆ 5 จุด ตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีกหลายราย ประกอบด้วย นายอภิชัย บุญพันธ์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด จับกุมนายแมนรัตน์ กรสวัสดิ์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 7 เม็ด จับกุม น.ส.ปิยะธิดา สุขารมณ์ อายุ 27 ปี กับ น.ส.เลื่อน จันต๊ะคำ อายุ 39 ปี ในข้อหาเสพยาไอซ์
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าได้อีก 2 ราย คือ นายพลาวุฒิ อินทะมัย อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2706/2552 ลงวันที่ 17 ก.ย.52 ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และนายจักรกริช เกิดสิงห์ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เลขที่ จ.238/2550 ลงวันที่ 24 เม.ย.50 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ทราบก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามท้องที่ที่จับกุมต่อไป
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (กก.สายตรวจ บก.ตปพ.) พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผกก.1 บก.ตปพ. พ.ต.ท.วรศักดิ์ พิสิฐบรรณกร สว.งานสายตรวจ 1 บก.ตปพ. พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 บก.ตปพ. พ.ต.ท.ศรีรัชพล ค้าขาย สว.งานสายตรวจ 3 บก.ตปพ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.ชารีณี หรือ พลอย ถุงสุวรรณ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/26 ม.5 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.กนกวรรณ อุปนันท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1990 ม.9 ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน นายนรินทร์ หรือหมู จินตะยะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312/11 ต.ปาดัง อ.สะเดา จ.สงขลา และนายหาญชัย อ่อนแก้ว อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/17 ม.9 อยู่บ้านเลขที่ 312/11 ต.ปาดัง อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมของกลางยาไอซ์ 20 กรัม อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม จากน.ส.ชาริณี และน.ส.กนกวรรณ ที่ห้องพักเลขที่ 602 อาคารบ้านวันเอกอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 158/33 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เบื้องต้นทั้งสองคนรับสารภาพว่ารับยาไอซ์มาจากนายนรินทร์ จึงวางแผนทำการล่อซื้อให้นายนรินทร์นำยาไอซ์มาส่งให้ที่ห้องดังกล่าว ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย นายนรินทร์และนายหาญชัยได้นำยาไอซ์จำนวน 20 กรัม ซุกซ่อนใส่นิตยสารบันเทิงมาส่งให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายนรินทร์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายส่งนาฬิกา โดยส่งไปขายที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แต่เงินไม่พอใช้จึงหันมาค้ายาไอซ์ โดยจะไปรับยามาจากเอเยนต์ย่านฝั่งธนฯ ในราคากรัมละ 2,000 บาท ก่อนจะเอามาขายให้กับนักเที่ยวตามสถานบริการต่างๆ ในราคา 2,700 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 6-7 ครั้ง โดยการส่งยาแต่ละครั้งจะใช้วิธีตัดผ่าเล่มนิตยสารบันเทิงต่าง ๆ และซุกซ่อนยาไอซ์ไว้ข้างใน ซึ่งตนไม่เคยถูกตำรวจเรียกตรวจค้น หรือจับกุมแม้แต่ครั้งเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ บก.ตปพ. ยังได้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดตามจุดต่างๆ 5 จุด ตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีกหลายราย ประกอบด้วย นายอภิชัย บุญพันธ์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด จับกุมนายแมนรัตน์ กรสวัสดิ์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 7 เม็ด จับกุม น.ส.ปิยะธิดา สุขารมณ์ อายุ 27 ปี กับ น.ส.เลื่อน จันต๊ะคำ อายุ 39 ปี ในข้อหาเสพยาไอซ์
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าได้อีก 2 ราย คือ นายพลาวุฒิ อินทะมัย อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2706/2552 ลงวันที่ 17 ก.ย.52 ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และนายจักรกริช เกิดสิงห์ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เลขที่ จ.238/2550 ลงวันที่ 24 เม.ย.50 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ทราบก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามท้องที่ที่จับกุมต่อไป
