SMS จับโจรเจอคู่แข่ง ตร.ภาค 1 ไอเดียบรรเจิดส่งจดหมายไปหาคนร้ายตามที่อยู่ ระบุเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลได้เงินสด โฮมเธียเตอร์ ให้มารับรางวัลด้วยตัวเอง ก่อนจับตัวผู้ต้องหาได้อย่างง่ายด่าย ด้านผู้ต้องหาที่ถูกจับเผยดีใจอย่างมากที่ได้รางวัล แต่พอมาถูกจับถึงกับเซ็งไม่รู้ว่า ตร.มีอุบายหลอกได้ถึงขนาดนี้
วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พร้อมกับ พล.ต.ต.ธัชชัย หงส์ทอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล รรท.ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.อุเทน นุ้ยพิน สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวการระดมกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้างเก่าต่างๆ ในพื้นที่ของ ภ.1 เช่นคดีร่วมกันลักทรัพย์ พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน ซึ่งแบ่งเป็น ชาย 12 คน หญิง 2 คน
พล.ต.ท.กฤษฎา เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าได้เป็นจำนวนมากในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.ภ.1 ได้วางแผนการจับกุมโดยใช้วิธีการจัดส่งจดหมายไปยังที่อยู่ของผู้ต้องหาต่างๆ ตามที่มีหมายจับในคดีของ บช.ภ.1 กว่า 100 ฉบับ ซึ่งในเนื้อหาของจดหมายมีใจความว่า “ผู้ที่มีชื่อตามที่ได้จ่าหน้าซองถึงเป็นผู้โชคดี ที่ได้ทำการสุ่มหมายเลขบัตรประชาชน จากประชาชนทั่วประเทศ ให้เดินทางมารับของรางวัลประเภทต่างๆ เช่น เงินสด 8,000 บาท โทรทัศน์สี ตู้เย็น ชุดโฮมเธียร์เตอร์ ฯลฯ หากประสงค์ที่จะรับรางวัลให้ส่งจดหมายตอบกลับมา และให้เดินทางมารับของรางวัลด้วยตัวเอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภายในวันที่ 24 ธ.ค.52 ที่ห้างสรรพสินค้า เจเจมอล์ สวนจตุจักร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.”
พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหาในคดีค้างเก่าที่หลบหนีคดีอยู่เป็นเวลานาน ได้รับจดหมายดังกล่าว ต่างก็ดีใจคิดว่า ตนได้รับรางวัลจริงๆ จนลืมนึกไปว่าตนยังต้องโทษหนีคดีอยู่ จึงได้ทยอยาดว่าคงจะรู้สึกดีใจคิดว่าได้รับรางวัลจริงๆ จึงได้ทยอยกันส่งจดหมายตอบกลับมาพร้อมแนบเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับด้วยเป็นจำนวนมาก โดยที่ลืมนึกไปว่าตนเองยังต้องโทษหนีคดีอยู่ ต่างทยอยเดินทางมารับรางวัลและถูกจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวด้วยว่า ในการระดมการจับกุมคดีค้างเก่าในช่วงก่อนปีใหม่ในครั้งนี้จะทำให้เกิดผลดีมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่กระทำผิดจะน้อยลง อีกทั้งยังจะทำให้ผู้ที่กำลังที่คิดจะก่อเหตุ รู้สึกว่าทำผิดแล้วจะโดนจับกุมได้มากขึ้น เพราะตำรวจมีกลยุทธ์ในการติดตามจับกุมอยู่หลายวิธี โดยในพื้นที่ของ ภ.1 มีคดีค้างเก่าอยู่มาก ซึ่งตนก็ได้ให้นโยบายให้ติดตามจับกุมให้ได้มากขึ้น เพื่อประชาชนจะได้ รู้สึกว่ามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมากขึ้น ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ
ด้าน นายธีรยุทธ เจริญสูงเนิน อายุ 23 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาในคดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ในท้องที่ของ จ.นนทบุรี ได้เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงที่สุดเซ็งว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาทำงานรับจ้างทั่วไปใน จ.นนทบุรี หลังจากที่ก่อเหตุแล้วก็หนีคดีกลับไปที่บ้านเกิดที่ จ.สุรินทร์ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนก็ได้รับจดหมายว่า เป็นผู้โชคดีได้รับโทรทัศน์สี ขนาด 32 นิ้ว จากการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ โดยให้ตนนำบัตรประชาชนเดินทางมารับของที่ กทม.
“ตอนนั้นผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ เลยนำเอกสารหลักฐานรีบเดินทางเข้ามาติดต่อเพื่อรับของรางวัลที่จุดนัดหมาย พอเข้ามาติดต่อก็ถูกตำรวจแสดงตัวจับกุม แล้วแจ้งข้อหา ควบคุมตัวไว้ ซึ่งผมก็คิดไม่ถึงว่าตำรวจจะมีอุบายหลอกได้ถึงขนาดนี้ ต้องยอมจริงๆ” นายธีรยุทธกล่าว