ปคบ.แจ้งข้อหาเพิ่ม 2 ข้อหาโฆษณาเกินจริง-ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาต “ป้าเช็ง” เจ้าของธุรกิจ “น้ำมหาบำบัด” ที่แอบอ้างรักษาได้สารพัดโรค หลังผลตรวจ อย.ระบุมีจุลินทรีย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เตรียมเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 27 ม.ค.นี้
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 บก.ปคบ. แถลงถึงความคืบหน้ากรณีการดำเนินคดีต่อ น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือ “ป้าเช็ง” อายุ 72 ปี เจ้าของธุรกิจ “น้ำมหาบำบัด” น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งมีการโฆษณาว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค หลังจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำตัวอย่างน้ำหมักชีวภาพดังกล่าวส่งไปตรวจยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลการตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่ามีส่วนผสมของจุลินทรีย์เกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนด ว่า ในคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อ น.ส.ศรวรรณ ไปแล้วในข้อหาผลิตหรือขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวต่อว่า ภายหลังได้รับการประสานจาก อย.ว่า ผลการตรวจสอบน้ำหมักชีวภาพหรือยามหาบำบัดนี้มีจุลินทรีย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะรับคำร้องทุกข์ของ อย.และกองประกอบโรคศิลปะ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ น.ส.ศรวรรณ ใน 2 ข้อหา คือ โฆษณาเกินกว่าความเป็นจริง ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และข้อหาประกอบโรคศิลปโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่าทางตัวแทน อย.จะส่งเจ้าหน้าที่มาร้องทุกข์อย่างเป็นทางการภายใน 2-3 วันนี้ จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะเชิญตัว น.ส.ศรวรรณ มารับทราบข้อหาเพิ่มเติม โดยอย่างเร็วที่สุดคงจะดำเนินการได้ภายในวันที่ 27 มกราคมนี้
ผบก.ปคบ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.ศรวรรณ ยืนยันว่าจะผลิตน้ำหมักชีวภาพนี้ต่อไปโดยเปลี่ยนวิธีจากการจำหน่ายเป็นแจกฟรีให้กับประชาชนที่สนใจนั้น ทางเจ้าหน้าที่คงจะปล่อยให้กระทำเช่นนั้นไม่ได้เนื่องจากผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องน้ำยาที่ใช้หยอดตา หากหยอดไปเรื่อยๆ อาจทำอันตรายกับดวงตาถึงขั้นตาบอดได้ อีกทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหายในกรณีนี้ขอให้มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ บก.ปคบ.หรือแจ้งไปยังสายด่วน อย.1556 และหากมีผู้เสียหายเกินกว่า 10 ราย ก็จะพิจารณาดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะสามารถดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ได้