ตำรวจ สน.สายไหม ตั้งด่านตรวจแยก คปอ. พบสาวโดยสารแท็กซี่มีพิรุธกอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ขอค้นเจอยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ยาไอซ์อีก 2 กก. คาดเพื่อนร่วมแก๊งเห็นด่านจึงทำทีให้หญิงสาวโดยสารแท็กซี่มาลำพังเพื่ออำพรางแล้วนัดส่งของที่อื่น แต่ยังไม่ยอมเปิดปากสารภาพ ตำรวจคุมตัวสอบเตรียมขยายผลจับกุม
วานนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. ขณะที่ พ.ต.ท.ชัยอนันท์ สุขชาญวิทย์ สวป.สน.สายไหม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ตั้งด่านตรวจบริเวณแยกกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตสายไหม กทม. จ.ส.ต.ชูชาติ หัสถกิจ กับด.ต.เทพโสรถ นัยนาท ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม ได้ทำการขอตรวจค้นรถแท็กซี่สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทย 2180 กทม. ซึ่งมีนายแสวง โทแสง อายุ 33 ปี เป็นคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาพร้อมกับผู้โดยสารเป็นผู้หญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พรภัทรา เจริญทั้งพงศ์ชัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 91 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. เจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้นในกระเป๋าเป้ และกระเป๋าเดินทางที่ น.ส.พรภัทราถืออยู่ ปรากฏว่าพบยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 2 กก.ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าดังกล่าว
จากการสอบสวนนายแสวงให้การว่า ได้รับ น.ส.พรภัทรา จากหน้า รพ.บีแคร์ ซอยพหลโยธิน 64 แขวงและเขตสายไหม เพื่อให้ไปส่งที่แยกสุทธิสาร ทะลุออกทางซอยลาดพร้าว 64 ขณะนั่งในรถ น.ส.พรภัทรา นั่งมาปกติไม่มีพิรุธอะไร แต่ตนก็สงสัยว่าทำไมผู้โดยสารนั่งกอดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลาไม่ยอมเอาไว้ท้ายรถ จนมาเจอด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตรวจค้นก็พบยาเสพติดดังกล่าว
พ.ต.ท.ชัยอนันท์ กล่าวว่า ช่วงนี้ผู้ค้ายาเสพติดมักจะใช้เส้นทางดังกล่าวขนส่งยาเสพติดมากขึ้น โดยเมื่อประมาณ 10 วันก่อนก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้ามากับรถแท็กซี่ลักษณะเดียวกัน จากการสอบสวน น.ส.พรภัทรา คาดว่าน่าจะนั่งรถเก๋งมากับผู้ค้ายาเสพติดคนอื่นๆ เมื่อเห็นด่านตรวจก็ให้ น.ส.พรภัทรา ลงจากรถเพื่อมาเรียกแท็กซี่แทนเพราะคาดว่าตำรวจไม่ตรวจค้นแท็กซี่และผู้หญิงแน่นอน และน่าจะไปนัดเจอตามจุดหมายที่ใดที่หนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.พรภัทรา ยังไม่ยอมให้การสารภาพว่าจะนำยาเสพติดไปส่งที่ไหน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว น.ส.พรภัทรา ส่งให้ฝ่ายสืบสวนทำการสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
วานนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. ขณะที่ พ.ต.ท.ชัยอนันท์ สุขชาญวิทย์ สวป.สน.สายไหม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ตั้งด่านตรวจบริเวณแยกกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตสายไหม กทม. จ.ส.ต.ชูชาติ หัสถกิจ กับด.ต.เทพโสรถ นัยนาท ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม ได้ทำการขอตรวจค้นรถแท็กซี่สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทย 2180 กทม. ซึ่งมีนายแสวง โทแสง อายุ 33 ปี เป็นคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาพร้อมกับผู้โดยสารเป็นผู้หญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พรภัทรา เจริญทั้งพงศ์ชัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 91 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. เจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้นในกระเป๋าเป้ และกระเป๋าเดินทางที่ น.ส.พรภัทราถืออยู่ ปรากฏว่าพบยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 2 กก.ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าดังกล่าว
จากการสอบสวนนายแสวงให้การว่า ได้รับ น.ส.พรภัทรา จากหน้า รพ.บีแคร์ ซอยพหลโยธิน 64 แขวงและเขตสายไหม เพื่อให้ไปส่งที่แยกสุทธิสาร ทะลุออกทางซอยลาดพร้าว 64 ขณะนั่งในรถ น.ส.พรภัทรา นั่งมาปกติไม่มีพิรุธอะไร แต่ตนก็สงสัยว่าทำไมผู้โดยสารนั่งกอดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลาไม่ยอมเอาไว้ท้ายรถ จนมาเจอด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตรวจค้นก็พบยาเสพติดดังกล่าว
พ.ต.ท.ชัยอนันท์ กล่าวว่า ช่วงนี้ผู้ค้ายาเสพติดมักจะใช้เส้นทางดังกล่าวขนส่งยาเสพติดมากขึ้น โดยเมื่อประมาณ 10 วันก่อนก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้ามากับรถแท็กซี่ลักษณะเดียวกัน จากการสอบสวน น.ส.พรภัทรา คาดว่าน่าจะนั่งรถเก๋งมากับผู้ค้ายาเสพติดคนอื่นๆ เมื่อเห็นด่านตรวจก็ให้ น.ส.พรภัทรา ลงจากรถเพื่อมาเรียกแท็กซี่แทนเพราะคาดว่าตำรวจไม่ตรวจค้นแท็กซี่และผู้หญิงแน่นอน และน่าจะไปนัดเจอตามจุดหมายที่ใดที่หนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.พรภัทรา ยังไม่ยอมให้การสารภาพว่าจะนำยาเสพติดไปส่งที่ไหน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว น.ส.พรภัทรา ส่งให้ฝ่ายสืบสวนทำการสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
