หนุ่มฉุนถูกตบหัว ควบ จยย.พาน้องชายทหารเกณฑ์ที่อยู่ระหว่างการลามาเยี่ยมบ้าน ยิงถล่มอริดับ แม่ค้าซวยถูกลูกหลงตาบอดกระสุนฝังใน ขณะที่ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้วเตรียมออกหมายจับ
วานนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.ท.วิบูลย์ นิธิธรรมจรรยา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ลาดกระบัง รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าปากซอยศรีสวัสดิ์ 2 ถ.ลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ลาดกระบัง พ.ต.ท.สันติ สิริวัฒนะพรกุล รองผกก.สส.สน.ลาดกระบัง
ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศิขรินทร์ ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญฤทธิ์ หรือแป๊ะ คลังพหล อายุ 20 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าอกทะลุรักแร้ด้านซ้ายเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นางอำพร ผลพานิช อายุ 53 ปี อาชีพแม่ค้าขายของ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่เบ้าตาด้านซ้าย กระสุนฝังใน แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกมา จากการตรวจสอบพบว่าเป็นหัวกระสุนปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาด ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวนนายธนากร หรือต้น มานะกิจ อายุ 20 ปี ให้การว่า เมื่อช่วงเวลา 18.40 น.ในระหว่างที่กลุ่มตนเองซึ่งมีด้วยกัน 5 คน โดยมีผู้ตายรวมอยู่ด้วย ได้จับกลุ่มนั่งเล่นกันที่บริเวณท้ายซอย ระหว่างนั้นนายอภิชัย หรือแจ็ค ทั่งเพชร อายุ 23 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในซอยดังกล่าว ปรากฏว่านายตุ๊ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของตนได้ใช้มือตบศีรษะของนายอภิชัย พร้อมกับถามว่า “วันนั้นมึงเอาใครมาเล่นกู” จากนั้นนายอภิชัยได้ขับขี่จักรยานยนต์ออกมาจากซอยดังกล่าว ต่อมากลุ่มของตนได้เดินออกมาที่บริเวณปากซอย ปรากฏว่านายอภิชัยได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน มากับนายชาตรี หรือโจ ทั่งเพชร อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย โดยนายชาตรีได้เดินลงจากรถแล้วชักอาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะของตน ก่อนที่จะหันปากกระบอกปืนไปยิงผู้ตาย 2 นัด ปรากฏว่ากระสุนปืนยังได้พลาดไปถูกนางอำพร ซึ่งขายของอยู่บริเวณดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายชาตรีจะขึ้นรถจักรยานยนต์ที่นายอภิชัยสตาร์ทเครื่องรออยู่ขับหลบหนีไป
นายธนากรกล่าวต่อว่า สาเหตุที่นายชาตรีก่อเหตุยิงในครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มของตนกับคนร้ายเป็นคู่อริกัน มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นชกต่อยกันมาหลายครั้ง จนกระทั่งในวันนี้นายอภิชัยขับรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในซอย ถูกกลุ่มของตนตบศีรษะจึงเกิดความแค้นและไปพานายชาตรีมายิงเพื่อของตนจนเสียชีวิตดังกลาว
ต่อมา นางสุวรรณา ปานสมัย อายุ 41 ปี อาชีพพนักบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางพลี มารดาของผู้ตายได้เดินทางมาดูศพนายบุญฤทธิ์ โดยทันทีที่เห็นศพบุตรชายถึงกับร่ำไห้อย่างโศกเศร้า พร้อมกับกล่าวว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายทำงานซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ย่านบางพลี ต่อมาได้ลาออกจากงาน ปัจจุบันมีลูกชายวัย 1 ขวบครึ่ง ส่วนสาเหตุการยิงตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องอะไร
ด้าน พ.ต.ท.สันติ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายซึ่งเป็นมือปืนทราบชื่อ นายชาตรี หรือโจ ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 2 สังกัดกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างลากลับมาเยี่ยมครอบครัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เตรียมเสนอศาลออกหมายจับนายชาตรีและนายอภิชัย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน