อัยการเจ้าของสำนวน อุบไต๋สั่งคดี “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม” กับพวกรวม 5 คน อุ้มฆ่า “อัลรู ไวรี” นักธุรกิจซาอุฯ ย้ำให้รอฟังผลพรุ่งนี้ ( 12 ม.ค.) จะสั่งหรือเลื่อน ด้านอธิบดีอัยการคดีพิเศษปิดปากเงียบ ส่วน “พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี” หนึ่งในผู้ต้องหาฟ้องอาญากลับ “ทวี” อดีตอธิบดีดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบกลั่นแกล้งให้รับโทษ
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 กล่าวยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) อัยการยังคงนัดให้ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ผบช.ภ.5, พ.ต.อ. สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายอัลรู ไวรี นักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย มาฟังการสั่งคดี ขณะที่เรื่องหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหา ตนพิจารณาและมีความเห็นเสนอคณะทำงานที่มีรองอัยการสูงสุด 2 คน และอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ รับผิดชอบแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะการพิจารณายังต้องให้คณะทำงานกลั่นกรอง
อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 กล่าวย้ำว่า การสั่งคดีอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หรือต้องเลื่อนนัดอีกครั้ง ต้องรอฟังผลวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดี จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดแจ้งเหตุขอเลื่อนนัดรายงานตัวฟังคำสั่ง หากในวันพรุ่งนี้จะมีผู้ต้องหารายใดส่งทนายความแจ้งเหตุขอเลื่อนจะต้องพิจารณาอีกครั้ง
ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับการพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่าหากอัยการยังไม่อาจมีความเห็นสั่งคดีได้ในวันพรุ่งนี้ ก็ต้องเลื่อนแต่จะต้องพิจารณาสำนวนเสร็จสิ้นก่อนคดีจะหมดอายุความวันที่ 12 ก.พ.นี้
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี นายตำรวจนอกราชการ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่านายอัลรู ไวรี นักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.ท.เบญจพล จันทวรรณ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ, นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ในฐานะที่ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว และนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ซึ่งเข้าร่วมสอบสวนคดี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 157
ตามฟ้องสรุปว่า ภายหลังที่โจทก์กับพวกถูกพวกจำเลยแจ้งข้อกล่าวหาคดีร่วมกันฆ่านายอัลรูไวรี่ นักธุรกิจ สัญชาติซาอุดิอาระเบียแล้ว เมื่อวันที่ 9 พ.ย.52 โจทก์ได้มีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียดพฤติการณ์แห่งคดีพร้อมทั้งขอดูแหวนซึ่งเป็นวัตถุพยานที่จำเลยทั้งห้าอ้างว่าเป็นหลักฐานใหม่ในการตั้งข้อกล่าวหากับโจทก์ ต่อมาวันที่ 25 พ.ย.52 โจทก์ได้เข้าพบจำเลยที่ 2-4 ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อตัวโจทก์แต่ไม่บรรยายพฤติการณ์แห่งคดีว่าเกี่ยวข้องการกระทำผิดอย่างไร โจทก์ก็ได้แจ้งให้จำเลยที่ 1-4 แสดงแหวนที่อ้างว่าเป็นหลักฐานใหม่ให้ดูว่ามีรูปร่าง ลักษณะอย่างไร เพื่อโจทก์จะได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย นำข้อมูลวัตถุพยานดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ต่อไป แต่พวกจำเลยกลับไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้โจทก์ทราบอย่างเพียงพอ ทำให้โจทก์ไม่สามารถให้การในรายละเอียดที่จะแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ซึ่งคดีมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค.52 จำเลยที่ 1-4 แจ้งให้โจทก์มาที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพบอัยการซึ่งได้มีการส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการสั่งคดี การกระทำของพวกจำเลยจึงเป็นจงใจ หรือกลั่นแกล้งทำให้โจทก์ได้รับโทษคดีอาญา
ศาลรับคำฟ้องไว้เพื่อมีคำสั่งต่อไป โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 5 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี กล่าวว่า เรื่องพนักงานอัยการที่มาร่วมสอบสวนคดี แล้วยังมีอำนาจในการสั่งคดีเอง เป็นประเด็นหนึ่งซึ่งพวกตนได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการสั่งคดีของอัยการ แต่ไม่ทราบว่าผลการพิจารณาเป็นอย่างไร เพราะหลังจากยื่นหนังสือแล้วอัยการได้ตอบกลับเพียงว่ารับหนังสือไว้พิจารณาแล้วเท่านั้น
เมื่อถามว่าหากวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี เตรียมต่อสู้คดีอย่างไร พ.ต.ท.สุรเดช บอกว่า ยังเตรียมตัวไม่ถูก เพราะในชั้นแจ้งข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้แจ้งรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำให้ทราบโดยชัดแจ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.สมคิด ผบช.ภ.5 ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ทวี อดีตอธิบดีดีเอสไอ กับพวกรวม 3 คนซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ต่อศาลอาญาในความผิดมาตรา 157 เช่นกัน โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 15 ก.พ.เวลา 13.30 น.