ปมปัญหาการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้นำทัพสีกากีคนใหม่แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.ที่อำลาชีวิตราชการไปเมื่อ 30 ตุลาคม 2552 โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้แค่นั่งรักษาการ ผบ.ตร.ซื้อเวลาไปวัน วัน...ท่ามกลางกระแสเสียง ของผู้คนในยุทธจักรโล่ห์เงิน ว่า “ปทีป ตันประเสริฐ” ผู้นี้ อาจจะโชคร้ายนั่งรักษาการ ผบ.ตร.ไปถึงวันเกษียณ 30 ตุลาคม 2553
จากเรื่องราวความสับสนต่อกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ทำเอา “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เกิดอาการผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อเขาไม่สามารถใช้อำนาจเต็ม ตั้งใครคนใดคนหนึ่ง หรือตั้งคนที่เห็นว่าเหมาะสมขึ้นมาเป็นผู้นำสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ตามที่คิดตามที่หวัง
จึงทำให้สิ่งที่หลายคนคาดหวังว่าเดือนต้นๆของปี 2553 จะได้เห็นความคืบหน้า การกำหนดวันเวลา ในการประชุม ก.ต.ช.เพื่อเลือก ผบ.ตร.จึงอาจจะผิดหวัง เพราะจากกระแสความเคลื่อนไหวใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ วันนี้ยังเงียบสนิท ไม่มีวี่แววว่านายกฯ มาร์ค จะส่งสัญญาณเรียกประชุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปตรวจสอบคำพูดของ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ในห้วงก่อนสิ้นปี ถือว่าได้พูดไว้อย่างชัดเจน ต่อกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เมื่อวันนั้น อภิสิทธิ์ พูดว่า....(ผบ.ตร.คนใหม่ จะจบในการประชุม ก.ต.ช.ครั้งต่อไป)....ซึ่งแม้ครั้งต่อไปจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตามที แต่ถือเป็นสัญญาจากปากนายกฯ ว่าต้องจบ สำหรับตัว ผบ.ตร.เก้าอี้เจ้าปัญหาตัวนี้
ส่วน พล.ต.อ.นายใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถูกเสนอเข้าชิง ถือว่าวันนี้ยังคงอยู่ที่ 2 พล.ต.อ.ที่ชื่อ “ปทีป ตันประเสริฐ” และ “จุมพล มั่นหมาย”
โดยคนแรกแม้เขาจะเป็นได้แค่ ผบ.ตร.แสตนด์บาย ตามฉายาที่สื่อมวลชนมอบให้ ก็ตามที แต่สำหรับหัวจิตหัวใจของ รักษาการ ผบ.ตร.ท่านนี้ ถือว่าต้องยอมรับในความอดทน และความพยายามที่จะทำงานพิสูจน์ตนเองว่า ผมก็พร้อมที่จะนั่งผู้นำทัพสีกากี ได้ไม่แพ้จาก อดีต ผบ.ตร.ที่ผ่านๆมา
ขณะที่อีกคน จุ๋ม ชิงดำ “จุมพล มั่นหมาย” แม้จะพูดเชิงน้อยอกน้อยใจ เมื่อถูกสื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ ที่จะนั่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ว่าผมทำใจแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ชีวิตนี้ ไม่ได้หวังอะไร ขอทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ก็พอแล้ว
เมื่อ 2 พล.ต.อ.ตัวเก็งนั่ง ผบ.ตร.ตัวจริงเสียงจริง ต่างคนต่างยอมรับในสภาพ แล้วปมปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่แท้จริง มันเกิดจากเรื่องใด?
ประเด็นนี้ ถือเป็นคำถามข้อใหญ่ที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ต้องตอบและสร้างความกระจ่างชัดให้เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจให้ได้ก่อนที่ทั้ง “ปทีป และ จุมพล” จะเกษียณอายุราชการภายใน 30 ตุลาคม 2553
จากเหตุแห่งปัญหาดั่งว่า ....วันนี้ จึงได้เกิดกระแสข่าวพูดปากต่อปากว่า ท่านรักษาการ ผบ.ตร. “ปทีป ตันประเสริฐ” เริ่มถอดใจเอาแบบดื้อๆ ว่า หากมีปัญหามากนักก็อาจจะลาออกจากราชการก่อนเวลาอันควร
โดยข่าวดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงหลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ทุกคนก็ได้แต่หวังว่า ขออย่าให้ท่านลาออกจากราชการเลย เพราะหากทำเช่นนั้น ก็จะไม่เกิดอะไรกับองค์กรตำรวจ อีกทั้ง ยังถือเป็นการซ้ำเติมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตกต่ำลงไปอีก
กล่าวคือ....เพราะหาก “ปทีป ตันประเสริฐ” ถอดใจลาออกจากราชการก่อน 30 ตุลาคม 2553 เวลานี้ พล.ต.อ.นายใด จะขึ้นมาแทนที่ ผบ.ตร.เพราะหากเช็กไลน์ดูตัวแล้วถือว่าไม่มีใครเด่นกว่า “จุมพล มั่นหมาย”
ซึ่งหาก “จุมพล” เหลือหนึ่งเดียว ถือว่า “อภิสิทธิ์” ต้องขึ้นชกไฟต์บังคับด้วยการเสนอตั้ง “จุมพล มั่นหมาย” นั่ง ผบ.ตร.แบบไร้คู่แข่ง
ดังนั้น เรื่องนี้ถือเป็นข่าวที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด และหากจะให้ดี ต้องฟังหูไว้หู เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ภายใต้ดวงอาทิตย์ เมื่อชีวิตคนยุทธจักรโล่ห์เงิน ที่ตำแหน่ง อำนาจ มากด้วยผลประโยชน์
จากเรื่องราวความสับสนต่อกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ทำเอา “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เกิดอาการผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อเขาไม่สามารถใช้อำนาจเต็ม ตั้งใครคนใดคนหนึ่ง หรือตั้งคนที่เห็นว่าเหมาะสมขึ้นมาเป็นผู้นำสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ตามที่คิดตามที่หวัง
จึงทำให้สิ่งที่หลายคนคาดหวังว่าเดือนต้นๆของปี 2553 จะได้เห็นความคืบหน้า การกำหนดวันเวลา ในการประชุม ก.ต.ช.เพื่อเลือก ผบ.ตร.จึงอาจจะผิดหวัง เพราะจากกระแสความเคลื่อนไหวใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ วันนี้ยังเงียบสนิท ไม่มีวี่แววว่านายกฯ มาร์ค จะส่งสัญญาณเรียกประชุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปตรวจสอบคำพูดของ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ในห้วงก่อนสิ้นปี ถือว่าได้พูดไว้อย่างชัดเจน ต่อกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เมื่อวันนั้น อภิสิทธิ์ พูดว่า....(ผบ.ตร.คนใหม่ จะจบในการประชุม ก.ต.ช.ครั้งต่อไป)....ซึ่งแม้ครั้งต่อไปจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตามที แต่ถือเป็นสัญญาจากปากนายกฯ ว่าต้องจบ สำหรับตัว ผบ.ตร.เก้าอี้เจ้าปัญหาตัวนี้
ส่วน พล.ต.อ.นายใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถูกเสนอเข้าชิง ถือว่าวันนี้ยังคงอยู่ที่ 2 พล.ต.อ.ที่ชื่อ “ปทีป ตันประเสริฐ” และ “จุมพล มั่นหมาย”
โดยคนแรกแม้เขาจะเป็นได้แค่ ผบ.ตร.แสตนด์บาย ตามฉายาที่สื่อมวลชนมอบให้ ก็ตามที แต่สำหรับหัวจิตหัวใจของ รักษาการ ผบ.ตร.ท่านนี้ ถือว่าต้องยอมรับในความอดทน และความพยายามที่จะทำงานพิสูจน์ตนเองว่า ผมก็พร้อมที่จะนั่งผู้นำทัพสีกากี ได้ไม่แพ้จาก อดีต ผบ.ตร.ที่ผ่านๆมา
ขณะที่อีกคน จุ๋ม ชิงดำ “จุมพล มั่นหมาย” แม้จะพูดเชิงน้อยอกน้อยใจ เมื่อถูกสื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ ที่จะนั่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ว่าผมทำใจแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ชีวิตนี้ ไม่ได้หวังอะไร ขอทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ก็พอแล้ว
เมื่อ 2 พล.ต.อ.ตัวเก็งนั่ง ผบ.ตร.ตัวจริงเสียงจริง ต่างคนต่างยอมรับในสภาพ แล้วปมปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่แท้จริง มันเกิดจากเรื่องใด?
ประเด็นนี้ ถือเป็นคำถามข้อใหญ่ที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ต้องตอบและสร้างความกระจ่างชัดให้เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจให้ได้ก่อนที่ทั้ง “ปทีป และ จุมพล” จะเกษียณอายุราชการภายใน 30 ตุลาคม 2553
จากเหตุแห่งปัญหาดั่งว่า ....วันนี้ จึงได้เกิดกระแสข่าวพูดปากต่อปากว่า ท่านรักษาการ ผบ.ตร. “ปทีป ตันประเสริฐ” เริ่มถอดใจเอาแบบดื้อๆ ว่า หากมีปัญหามากนักก็อาจจะลาออกจากราชการก่อนเวลาอันควร
โดยข่าวดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงหลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ทุกคนก็ได้แต่หวังว่า ขออย่าให้ท่านลาออกจากราชการเลย เพราะหากทำเช่นนั้น ก็จะไม่เกิดอะไรกับองค์กรตำรวจ อีกทั้ง ยังถือเป็นการซ้ำเติมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตกต่ำลงไปอีก
กล่าวคือ....เพราะหาก “ปทีป ตันประเสริฐ” ถอดใจลาออกจากราชการก่อน 30 ตุลาคม 2553 เวลานี้ พล.ต.อ.นายใด จะขึ้นมาแทนที่ ผบ.ตร.เพราะหากเช็กไลน์ดูตัวแล้วถือว่าไม่มีใครเด่นกว่า “จุมพล มั่นหมาย”
ซึ่งหาก “จุมพล” เหลือหนึ่งเดียว ถือว่า “อภิสิทธิ์” ต้องขึ้นชกไฟต์บังคับด้วยการเสนอตั้ง “จุมพล มั่นหมาย” นั่ง ผบ.ตร.แบบไร้คู่แข่ง
ดังนั้น เรื่องนี้ถือเป็นข่าวที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด และหากจะให้ดี ต้องฟังหูไว้หู เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ภายใต้ดวงอาทิตย์ เมื่อชีวิตคนยุทธจักรโล่ห์เงิน ที่ตำแหน่ง อำนาจ มากด้วยผลประโยชน์