มือมืดใช้อิฐตัวหนอนทุบกระจก ส.น.ง.สก.กนกนุช นากสุวรรณ พรรคประชาธิปัตย์ แถมทำลาย 5 คัทเอาท์รณรงค์ปีใหม่ เจ้าตัวคาดมีคนหมั่นไส้-กลั่นแกล้ง เพราะขยันลงพื้นที่มากเกิน ยันไม่เคยขัดแข้งขัดขาใคร เชื่อคนร้ายลงมือยามวิกาลขณะฝนตกหนักน่าเป็นการข่มขู่ ด้านตำรวจ มุ่งปมการเมืองท้องถิ่น-ส่วนตัว
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ มาสง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดอนเมือง รับแจ้งมีเหตุทุบกระจกสำนักงาน สก.กนกนุช นากสุวรรณ เลขที่ 8/3 ถนนสรงประภา สามแยกประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งเป็นของนางกนกนุช สก.พรรคประชาธิปัตย์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง
ที่เกิดเหตุประตูด้านหน้าซ้ายมีรอยแตกเสียหายทั้งบาน ภายในสำนักงานมีเศษกระจกตกเกลื่อนพื้น จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบอิฐตัวหนอนตกอยู่ 1 ก้อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางธาริณี สินสถาน อายุ 54 ปี แม่บ้าน ได้ให้การว่า ตนทำงานที่นี่มากว่า 10 ปีแล้ว โดยวานนี้(6 ม.ค.)ได้ปิดสำนักงานตอนประมาณ 1 ทุ่ม และเมื่อตอน 8 โมงเช้า ตนก็มาเปิดออฟฟิศตามปกติ แต่ขณะที่กำลังไขประตูอยู่นั้น พบว่ากระจกถูกทุบแตก และยังพบผ้าขนหนูวางอยู่บนโต๊ะหน้าสำนักงาน ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะใช้ เพื่อป้องกันลายนิ้วมือ จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งให้ สก.กนกนุช ทราบ ก่อนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ด้าน นางกนกนุช กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวตนรู้สึกตกใจมาก ซึ่งออฟฟิศนี้ เปิดมา 10 ปีแล้ว โดยตนทำงานการเมืองท้องถิ่นมากว่า 10 ปี ซึ่งตลอดเวลาไม่เคยมีเรื่องกับใครและไม่เคยขัดแย้งกับใครด้วย แต่อาจเป็นได้ว่ามีผู้ไม่หวังดีเกิดความหมั่นไส้ หรือต้องการกลั่นแกล้งตนมากกว่า เนื่องจากระยะนี้ทีมงานของตนลงพื้นที่พบชาวบ้านถี่มาก เพราะช่วงเดือน มิ.ย.นี้ จะมีการเลือกตั้ง สข. จึงต้องให้ทีมงานลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียน หรือร้องทุกข์จากชาวบ้านเยอะ จึงต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มข้น นอกจากกระจกที่แตกแล้วยังมีป้ายคัทเอาท์รณรงค์ช่วงปีใหม่ของตน จำนวน 5 ป้าย ที่ติดตั้งไว้ใกล้สำนักงานเขตดอนเมือง ถูกทำลายด้วย ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือตอนประมาณ 03.00 น.เพราะขณะนั้นมีฝนตกหนักเหมาะกับการลงมือ อย่างไรก็ตามไม่เคยกลัวแม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่า แต่ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า โดยหลังจากนี้จะได้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในออฟฟิศทั้งหมด รวมทั้งตัว สก.กนกนุช ด้วย ส่วนการสืบสวนจะทำไปในวงกว้างไว้ก่อน เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ เรื่องการเมืองท้องถิ่น และเรื่องส่วนตัว หลังจากนี้จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลสำนักงานอย่างเข้มงวด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้วงลงจรปิดในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และติดตามพยานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อมมาทำการสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป