ตำรวจมักกะสัน โชว์ผลงานตามจับได้ทันควัน 2 ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุยิงนักธุรกิจเจ้าของโต๊ะพนันบอลดับคาลานจอดรถอาร์ซีเอ เจ้าตัวอ้างยิงล้างแค้นที่เคยถูกผู้ตายอ้างตัวเป็นตำรวจ ปส.อุ้มไปรีดเงินหลายแสนบาท
วันนี้ (3 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ สน.มักกะสัน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสิทธิศักดิ์ หรือตี๋ ไชยแสนสวด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/3 หมู่ 6 ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ และนายนิพนธ์ หรืออ๊อฟ ปานพรม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 607/3 ตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. สองผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายธงชัย พุทธรัตน์ อายุ 40 ปี นักธุรกิจ และเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอลย่านวัดพระยาไกร เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถ หลังอาร์ซีเอ ถ.จตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เวลา 02.10 น.วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณย่านอาร์ซีเอ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากบริเวณที่เกิดเหตุจึงรีบวิ่งมาดูก็ไม่พบผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาบอกเจ้าหน้าที่ว่าเห็นคนร้ายเดินมาหยิบปืนจากรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียน ฌฐ-1013 กทม.ก่อนจะลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวก็พบนายปฐวี กรัดจอมทอง อายุ 38 ปี ยืนอยู่ จึงได้ควบคุมตัวไว้ พร้อมทำการสอบสวนจนทราบว่า นายปฐวีได้รับการว่าจ้างจากนายนิพนธ์ให้มาขับรถคันดังกล่าวไปส่งที่ร้านนัวใกล้เคียงโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.ในราคา 3,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวนายปฐวีไปพบนายนิพนธ์ตามนัดก่อนควบคุมตัวนายนิพนธ์ไว้ได้ที่ร้านดังกล่าว พร้อมรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเทียน่า สีขาว ทะเบียน ศน-1664 กทม.ก่อนทำการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อโคลต์ ขนาด .38 พร้อมกระสุน 6 นัด และ ยาไอซ์อีก 1 ถุงเล็ก หลังจากนั้นจึงได้ทำการสอบสวนจนทราบว่าผู้ที่ลงมือก่อหตุคือนายสิทธิ์ศักดิ์ซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่ร้านกาซีโร่ ย่านเหม่งจ๋าย เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปที่ร้านดังกล่าวก็พบนายสิทธิ์ศักดิ์ที่ลานจอดรถจีงเข้าควบคุมตัวทันที จากการสอบสวนนายสิทธิศักดิ์ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายจริง เนื่องจากโกรธแค้นผู้ตายแทนนายนิพนธ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายสิทธิศักดิ์ได้นำปืนที่ใช้ไปฝากไว้กับเพื่อนคนหนึ่งไว้
จากการสอบสวนนายนิพนธ์ยังอ้างว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.52 ที่ผ่านมา ผู้ตายพร้อมพวกรวม 3 คน ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.มาอุ้มตนไปรีดเงิน เนื่องจากรู้ว่าตนค้ายาเสพติด โดยพวกผู้ตายได้พาตนเองพร้อมแฟนสาวจากย่านลาดพร้าว ใส่กุญแจมือ ก่อนนำขึ้นรถ เพื่อไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มย่านรัตนาธิเบศร์ ระหว่างนั้นได้ใช้ถุงคลุมศีรษะ โดยได้เงินสดไปจำนวน 240,000 บาท สร้อยคอทองคำ 2 เส้น รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 300,000 บาท หลังจากนั้นได้พาไปปล่อยทิ้งไว้ริมถนนรัตนาธิเบศร์ กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายสิทธิศักดิ์ได้ไปเที่ยวผับย่านอาร์ซีเอ และได้พบกับผู้ตายโดยบังเอิญ ซึ่งนายสิทธิ์ศักดิ์ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนจึงเกิดความแค้นแทน ตนได้ชี้ให้นายสิทธิศักดิ์ดูว่าผู้ตายซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่อุ้มตนไปรีดเอาทรัพย์ กระทั่งผับเลิกผู้ตายได้เดินออกมาจากร้านเพียงลำพัง นายสิทธิ์ศักดิ์จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ฉุนขาใหญ่กั๊กสาว ตามยิงดับคาลานจอดรถข้างอาร์ซีเอ