เตือนภัยรูปแบบใหม่ อ้างชื่อตำรวจ ปอศ.ขู่โอนเงินชำระหนี้

รองผู้การตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แถลงเตือนภัยคนร้ายอ้างชื่อตำรวจหลอกให้โอนเงินภาษี และชำระหนี้ มีผู้เสียหายแล้ว 2 ราย โดยตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยคนร้าย เชื่ออีกไม่นานได้ตัวแน่

วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ. กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พร้อม พ.ต.ท. ก้านณรงค์ นิลฆมล พงส.(สบ 2) กก.2.ปอศ. แถลงข่าวเตือนภัยประชาชนเกี่ยวกับวิธีการฉ้อโกงของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เคยแอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในการขอคืนภาษีทางตู้เอทีเอ็ม โดยพวกกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้เปลี่ยนการแอบอ้างมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)

พ.ต.อ.กิตติ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 คนร้ายจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร โดยใช้วิธีการทางเทคโนโลยีใช้หมายเลขโทรศัพท์ของธนาคารโทรเข้าไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย และใช้วิธีการพูดจาหลอกล่อในทำนองว่าผู้เสียหายเป็นหนี้กับธนาคารให้ทำการชำระหนี้ หากผู้เสียหายหลงกลก็จะโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มพวกมิจฉาชีพ

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวต่อว่า หากผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ ทางกลุ่มมิจฉาชีพก็จะดำเนินการต่อในขั้นที่ 2 โดยการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยใช้หมายเลข 0-2237-1199 โทร.ไปข่มขู่ผู้เสียหาย และอ้างชื่อของตนกับ พ.ต.ท.ก้านณรงค์ ว่าหากไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวต่อว่า หมายเลขดังกล่าวนั้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ของทาง บก.ปอศ.จริง แต่จะใช้สำหรับโทร.เฉพาะภายในหน่วยงานเท่านั้น ไม่สามารถโทร.ออกไปต่างจังหวัดหรือโทร.เข้ามือถือได้ เนื่องจากได้ทำการบล็อกหมายเลขดังกล่าวเอาไว้ หากผู้เสียรายใดโทร.เข้ามาตรวจสอบก็จะทำให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้กลุ่มมิจฉาชีพในที่สุด

“ทาง ปอศ.ได้เร่งสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เบื้องต้นพอทราบเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มชาวจีน มีฐานบัญชาการอยู่ใน จ.เชียงใหม่ โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ตโทร.หาผู้เสียหาย นอกจากนี้ พบผู้เสียแล้ว 2 ราย โดยเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช กับ จ.ชลบุรี” พ.ต.อ.กิตติ กล่าว