ตำรวจกองปราบยื่นฝากขังแก๊งค้าอาวุธสงคราม 35 ตัน เป็นครั้งที่ 2 - โดยใช้วิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ พร้อมค้านประกันเหตุเป็นองคุ์กรอาชญากรรม-เกรงหลบหนี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ต.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พนักงานสอบสวน สบ2 กก.1 ป. ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังนายอิลยาส อิสวาคอฟ อายุ 56 ปี นายวิคเตอร์ อับดุลลาเยฟ อายุ 58 ปี นายมิคคาอิล พีทูคู อายุ 54 ปี นายอเล็กซ์ซานดะ ไซร์บาเนฟ อายุ 53 ปี และนายวีทาลี ชุมคอบ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาคดีลอบค้าอาวุธสงคราม เป็นครั้งที่ 2
คำร้องฝากขัง ระบุว่า ตามคำร้องฝากขังครั้งแรกที่ พ.3101 / 52 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน จนถึงวันนี้นั้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนมาตลอด แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก และสอบสวนผู้ต้องหาทั้งห้า ,รอผลการตรวจของกลางจากกองสรรพาวุธตำรวจ , รอผลการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ,รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาและอื่น ๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้อีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2552– 6 ม.ค.2553
อย่างไรก็ตาม ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกัน เนื่องจากกองสรรพาวุธตำรวจได้ตรวจของกลางตามบันทึกจับกุมพบว่า เป็นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่มีความร้ายแรงจำนวนมาก อีกทั้งการกระทำของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เกรงจะหลบหนี
ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหา ผ่านล่ามภาษารัสเซีย โดยใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ต.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พนักงานสอบสวน สบ2 กก.1 ป. ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังนายอิลยาส อิสวาคอฟ อายุ 56 ปี นายวิคเตอร์ อับดุลลาเยฟ อายุ 58 ปี นายมิคคาอิล พีทูคู อายุ 54 ปี นายอเล็กซ์ซานดะ ไซร์บาเนฟ อายุ 53 ปี และนายวีทาลี ชุมคอบ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาคดีลอบค้าอาวุธสงคราม เป็นครั้งที่ 2
คำร้องฝากขัง ระบุว่า ตามคำร้องฝากขังครั้งแรกที่ พ.3101 / 52 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน จนถึงวันนี้นั้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนมาตลอด แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก และสอบสวนผู้ต้องหาทั้งห้า ,รอผลการตรวจของกลางจากกองสรรพาวุธตำรวจ , รอผลการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ,รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาและอื่น ๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้อีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2552– 6 ม.ค.2553
อย่างไรก็ตาม ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกัน เนื่องจากกองสรรพาวุธตำรวจได้ตรวจของกลางตามบันทึกจับกุมพบว่า เป็นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่มีความร้ายแรงจำนวนมาก อีกทั้งการกระทำของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เกรงจะหลบหนี
ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหา ผ่านล่ามภาษารัสเซีย โดยใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา