เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรร เผาวอดบ้านไม้ 2 หลัง และตึกแถวอีก 7 คูหา มีผู้สำลักควันบาดเจ็บ ชาวบ้านเชื่ออาถรรพณ์หญิงสาวผู้สูญเสียลูกน้อยสาปแช่งก่อนตายตาม
วันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.ต.อดิเรก พันธุ์ใย พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ยานนาวา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยเจริญกรุง 70/2 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ยานนาวา สำนักงานเขตบางคอแหลม และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น ปลูกอยู่ใกล้เคียงกับคลองขวาง เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้านจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า บ้านต้นเพลิงคือบ้านเลขที่1956/8 โดยเพลิงได้ลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวน 2 หลังคาเรือน และลุกลามไปยังตึกด้านหน้า เสียหายอีกประมาณ 7 คูหา เจ้าหน้าที่จึงใช้รถน้ำจำนวนกว่า 10 คันทำการฉีดสกัดกั้น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบนอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย มีบาดแผลถูกไฟคลอกตามร่างกายและสำลักควันไฟ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.เลิดสิน เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
พ.ต.ต.อดิเรก กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบ้านต้นเพลิงเป็นของนายสมศักดิ์ แซ่เห็ง อายุ 45 ปี สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังจากนี้จะได้เชิญเจ้าของบ้านต้นเพลิง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พยานในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมมาทำการสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างจับกลุ่มพูดกันถึงเรื่องอาถรรพณ์คำสาปแช่ง ที่ก่อนหน้านี้มีหญิงสาวชื่อตา ได้สูญเสียลูกสาว โดยลูกสาวของนางตาได้จมน้ำตายบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ทำให้นางตาเสียใจจนเสียสติ มีอาการทางประสาท และนั่งดื่มเหล้าตรงนั้นเป็นประจำทุกวัน โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ธ.ค.52 ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านเข้าไปเดินเข้าไปตักเตือนพร้อมกับไล่ให้ไปดื่มเหล้าที่อื่น ทำให้นางตาจุดธูปพร้อมกับแช่งว่า “ถ้ากูอยูไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ต้องอยู่ ขอให้เกิดไฟไหม้จนไม่ต้องมีที่อยู่กัน” จากนั้นช่วงเย็นของวันเดียวกัน นางตาก็จมน้ำตายในคลอง ทำให้ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าไฟไหม้ครั้งนี้เป็นอาถรรพณ์จากการแช่งของนางตา