หนุ่มวิศวะ มธ.เพิ่งจบยังไม่ทำงาน ซิ่งรถกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงพุ่งชน “ดาบตำรวจ” กำลังเดินข้ามถนนอย่างจังกระเด็น 20 เมตร ดับคาที่ จับตรวจแอลกอฮอล์ไม่เกินรอผลตรวจเลือดด้านผู้บังคับบัญชารุดดูศพเผยมีลางสัหรณ์ก่อนเกิดเหตุ ชมเป็นตำรวจดี ขยันทำงาน
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 11 ธ.ค. ร.ต.อ.กิติ กิจประชุม พงส.(สบ 1) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งเหตุตำรวจถูกรถชนเสียชีวิต บริเวณจุดกลับรถตรงข้ามปั๊มแก๊สบางไผ่ ถนนเพชรเกษม แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวรจุดกลับรถพบศพ ด.ต.ทรงยศ แก้วแจ่ม อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป. สน.บางยี่เรือ ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่เรือ อยู่บ้านเลขที่ 320/23 ถ.อินทรพิทักษ์ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม.สภาพศพนอนตะแคงขวาจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตก ขาซ้ายหัก ใกล้ศพพบกระเป๋าสะพายสีดำ ซึ่งเป็นของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก เจ้าหน้าที่พบรถแวน มิตซูบิชิ รุ่นสเปซวากอน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4 ฐ-8073 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถกระจกด้านหน้าขวาแตกร้าว กั้นชนด้านขวาบุบยุบ มีนายธีรเชษฐ์ พนารังสรรค์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าของรถยืนอยู่ ให้การว่าตนเพิ่งจบวิศวกร ม.ธรรมศาสตร์ ยังไม่มีงานทำ ก่อนเกิดเหตุเดินทางออกมาจากสถานบริการ ย่าน ม.เกษตร และจะขับรถกลับบ้านย่านบางบอน
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนได้ขับรถวิ่งมาเลนขวาสุดด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เห็น ด.ต.ทรงยศ กำลังเดินข้ามถนน และคุยโทรศัพท์ด้วย ตนจึงบีบแตร พร้อมกับเปิดไฟสูงใส่ แต่ ด.ต.ทรงยศ ยืนนิ่งอยู่กลางถนน ตนพยายามเหยียบเบรกและหักพวงมาลัยรถหลบแต่ก็ไม่ทัน ทำให้รถพุ่งชน ด.ต.ทรงยศ อย่างแรง จนร่างกระเด็นใส่กระจกหน้ารถ และตกลงพื้นถนน ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง ตนตกใจมากจึงจอดรถและลงมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ระหว่างเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ ด.ต.ทรงยศ ได้มี พ.ต.ท.วิสุทธิ์ แก้วอินตา สว.สส.สน.บางยี่เรือ ผู้บังคับบัญชาผู้ตาย เดินทางมาดูศพลูกน้อง และกล่าวว่า ด.ต.ทรงยศ เป็นตำรวจน้ำดี ขยันทำงาน และทราบว่าผู้ตายแต่งงานมีครอบครัวแล้ว มีลูก 2 คน เรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ก่อนเกิดเหตุมีลางสังหรณ์ ด.ต.ทรงยศ เข้ามาถามตนก่อนออกมาจากที่ทำงานว่าพรุ่งนี้มีงานอะไรหรือเปล่า ตนก็บอกไปว่าก็มีงานเหมือนปกติ ด.ต.ทรงยศ ก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมไม่มาทำงาน
พ.ต.ท.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ด.ต.ทรงยศ ขับรถยนต์ และขี่จักรยานยนต์ไม่เป็น ต้องอาศัยรถรับจ้างมาทำงานและกลับบ้านย่านตลิ่งชันทุกครั้ง เชื่อว่าก่อนเกิดเหตุหลังจากเรียกรถแท็กซี่จากที่ทำงานมาลงกินข้าวต้มใกล้กับปั๊มแก๊ส กินเสร็จคงจะเดินข้ามถนนมาฝั่งเพชรเกษมขาออก เพื่อมาเรียกรถกลับบ้านและมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาต่อนายธีรเชษฐ์ว่าขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนข้อหาเมาแล้วขับ ให้เป่าแอลกอฮอล์แล้วไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะรอผลการตรวจเลือด จาก รพ.พญาไท 3 อีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวนายธีรเชษฐ์กลับบ้านไป
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 11 ธ.ค. ร.ต.อ.กิติ กิจประชุม พงส.(สบ 1) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งเหตุตำรวจถูกรถชนเสียชีวิต บริเวณจุดกลับรถตรงข้ามปั๊มแก๊สบางไผ่ ถนนเพชรเกษม แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวรจุดกลับรถพบศพ ด.ต.ทรงยศ แก้วแจ่ม อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป. สน.บางยี่เรือ ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่เรือ อยู่บ้านเลขที่ 320/23 ถ.อินทรพิทักษ์ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม.สภาพศพนอนตะแคงขวาจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตก ขาซ้ายหัก ใกล้ศพพบกระเป๋าสะพายสีดำ ซึ่งเป็นของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก เจ้าหน้าที่พบรถแวน มิตซูบิชิ รุ่นสเปซวากอน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4 ฐ-8073 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถกระจกด้านหน้าขวาแตกร้าว กั้นชนด้านขวาบุบยุบ มีนายธีรเชษฐ์ พนารังสรรค์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าของรถยืนอยู่ ให้การว่าตนเพิ่งจบวิศวกร ม.ธรรมศาสตร์ ยังไม่มีงานทำ ก่อนเกิดเหตุเดินทางออกมาจากสถานบริการ ย่าน ม.เกษตร และจะขับรถกลับบ้านย่านบางบอน
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนได้ขับรถวิ่งมาเลนขวาสุดด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เห็น ด.ต.ทรงยศ กำลังเดินข้ามถนน และคุยโทรศัพท์ด้วย ตนจึงบีบแตร พร้อมกับเปิดไฟสูงใส่ แต่ ด.ต.ทรงยศ ยืนนิ่งอยู่กลางถนน ตนพยายามเหยียบเบรกและหักพวงมาลัยรถหลบแต่ก็ไม่ทัน ทำให้รถพุ่งชน ด.ต.ทรงยศ อย่างแรง จนร่างกระเด็นใส่กระจกหน้ารถ และตกลงพื้นถนน ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง ตนตกใจมากจึงจอดรถและลงมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ระหว่างเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ ด.ต.ทรงยศ ได้มี พ.ต.ท.วิสุทธิ์ แก้วอินตา สว.สส.สน.บางยี่เรือ ผู้บังคับบัญชาผู้ตาย เดินทางมาดูศพลูกน้อง และกล่าวว่า ด.ต.ทรงยศ เป็นตำรวจน้ำดี ขยันทำงาน และทราบว่าผู้ตายแต่งงานมีครอบครัวแล้ว มีลูก 2 คน เรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ก่อนเกิดเหตุมีลางสังหรณ์ ด.ต.ทรงยศ เข้ามาถามตนก่อนออกมาจากที่ทำงานว่าพรุ่งนี้มีงานอะไรหรือเปล่า ตนก็บอกไปว่าก็มีงานเหมือนปกติ ด.ต.ทรงยศ ก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมไม่มาทำงาน
พ.ต.ท.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ด.ต.ทรงยศ ขับรถยนต์ และขี่จักรยานยนต์ไม่เป็น ต้องอาศัยรถรับจ้างมาทำงานและกลับบ้านย่านตลิ่งชันทุกครั้ง เชื่อว่าก่อนเกิดเหตุหลังจากเรียกรถแท็กซี่จากที่ทำงานมาลงกินข้าวต้มใกล้กับปั๊มแก๊ส กินเสร็จคงจะเดินข้ามถนนมาฝั่งเพชรเกษมขาออก เพื่อมาเรียกรถกลับบ้านและมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาต่อนายธีรเชษฐ์ว่าขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนข้อหาเมาแล้วขับ ให้เป่าแอลกอฮอล์แล้วไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะรอผลการตรวจเลือด จาก รพ.พญาไท 3 อีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวนายธีรเชษฐ์กลับบ้านไป