xs
xsm
sm
md
lg

"ปทีป"ต้องกล้าใช้อำนาจเต็ม!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

00...สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อปฎิบัติการณ์ลากใส้ คดีทุจริตโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังเกิดขึ้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์...ว่ามันคือ"เกมแห่งการแย่งชิง ผบ.ตร."ที่กลับมาเริ่มนับ 1 ใหม่แห่งการชิงดำอีกครั้ง ระหว่าง"พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ"กับ"พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย"

แม้ "พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา" รักษาราชการแทน ที่ปรึกษา สบ.10 (เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.)จะได้รับมอบหมายจาก "ปทีป" ให้นั่งแท่นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ภายใต้โจทย์ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความเป็นธรรม แต่นั่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถการันตีได้ว่า "ภาณุพงศ์" จะนั่งอยู่ฝั่ง"ปทีป"เพราะหากตราบใด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของ ผบ.ตร.ว่าจะออกที่ "ปทีป" หรือ "จุมพล"นายตำรวจระดับรองลงมา ก็คงต้องทำงานแบบ(นกสองหัว)ไปวันๆ

ดังนั้น วันนี้ "ปทีป ตันประเสริฐ" ต้องกล้าใช้อำนาจเต็ม ดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อองค์กร และต้องไม่ปล่อยให้กลุ่มตำรวจชั่ว เข้ามาทำลายองค์กรตำรวจ เพราะหากท่านยังทำตัวเป็นแต่ "สัญลักษณ์" รรท.ผบ.ตร.วันข้างหน้า ท่านอาจฝันสลายได้นะครับ!

00...นครบาลยุค "พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์" รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.)ทำเอา ผกก.หัวหน้าโรงพัก ต้องนั่งไม่ติด เมื่อปฎิบัติตรวจสอบรายหัว ท่ามกลางฤดูกาลแห่งการโยกย้ายระดับ ผกก. กำลังดำเนินอยู่ ภายใต้เหตุผล เมื่อ ผบช.น.คนใหม่ มาจากภูธร โดยยังไม่มีลูกน้องปฎิบัติงานอยู่ในพื้นที่เมืองหลวง จึงเป็นธรรมดา ที่จะต้องโยกคนของตนเอง มานั่งในตำแหน่ง ผกก.ทำเลทอง

ภาพการเดินหน้าออกตรวจเพื่อจับผิด ผกก.ในพื้นที่ สน.เกรดเอ ถือเป็นหลักฐานยืนยัน ว่าโยกย้าย ผกก.ในพื้นที่เมืองหลวงครั้งนี้ มีเหตุการณ์เปลี่ยนตัว เปลี่ยนขั้วเกิดขึ้นครั้งใหญ่แน่ โดยที่ ณ วันนี้ ทุกคน "ฟันธง" ไปแล้วว่า ผกก.สน.บางรัก และ ผกก.สน.ห้วยขวาง งานนี้รอดยากครับท่าน!

00...ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มติคณะรัฐมนตรีมีการแต่งตั้งโยกย้าย "พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ" รองอธิบดีดีเอสไอ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม เป็นอีกคนในดีเอสไอที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" อดีตอธิบดีดีเอสไอ ลูกพี่เก่า หากยังไม่ลืมก็ พ.ต.อ.ดุษฎี นี่แหละ ที่มีสายสัมพันธ์กับลูกน้องที่ชื่อ "ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ" ผู้ต้องหาในคดีลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทางดีเอสไอเคยขึงขังตั้งกรรมการสอบในการนำรถในราชการของดีเอสไอไปใช้ ปฏิบัติพันธกิจลอบฆ่า "สนธิ" แต่เรื่องก็เงียบหายไปตามระเบียบ

เวลานี้จึงเป็นช่วงที่โครงสร้างของ "ทวี สอดส่องโมเดล" ต้องขาดจิ๊กซอร์ไปอีก 1 คน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ทราบว่า ท่านอธิบดี "ธาริต เพ็งดิษฐ์" จะดันใครขึ้นมานั่งในตำแหน่งที่ว่างอยู่ โดยล่าสุดได้บอกเพียงว่า อยู่ในอำนาจของทางปลัดกระทรวง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในฐานะหัวเรือใหญ่ของดีเอสไอ คงจะมีคนใหม่อยู่ในใจอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาศดีที่จะตั้งคนดี มีฝีมือ ขึ้นมานั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ส่วนจะเป็นใคร คงต้องติดตาม

00...ยังอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในผลงานชิ้นโบว์แดง ของทวีแอนด์เดอะแก๊ง ที่ได้ออกหมายเรียก "พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม"ผบช.ภ.5 ที่คุมโซนแดงประจำเดือน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีการหายตัวไปของ นายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

ซึ่งดีเอสไอเองยังคงยืนยัน นอนยัน ว่าการขุดรื้อคดีนี้เป้าหมายสำคัญคือ การรื้อฟื้นความสำคัญทางการทูตกับทางซาอุดิอาระเบีย ไม่เกี่ยวกับการดิสเครดิตใครแต่อย่างใด ?

คดีดังกล่าวผ่านมาเนิ่นนานกว่า 19 ปี ! แต่ก็ช่างบังเอิญเหลือเกิน ที่มีการออกหมายเรียกก่อนที่ ลูกพี่ ทวี จะย้ายจากอธิบดีดีเอสไอ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพียงไม่กี่วัน จนล่าสุด ทางดีเอสไอที่มี พ.ต.อ.สุชาติ วงษอนันตชัย รองอธิบดี ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน จะมั่นใจถึงพยานหลักฐานใหม่ที่ได้ทำงานร่วมกับทางอัยการ ว่าจะสามารถเอาผิดกับ พล.ต.ท.สมคิด และพวกได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ "พล.ต.ท.สมคิด"ออกมาแฉถึงขบวนการอันไม่ชอบมาพากลของดีเอสไอ ว่าได้ไปสืบพยานลับหลังและไปพัวพันกับพยานบุคคลที่อ้างว่าเป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งพยานใหม่ที่ว่าดังกล่าว คือ พ.ต.ท.สุวิชชา แก้วผลึก ผู้ต้องหาคดีการฆาตกรรม นายฉัตรดำรงพรรณ ชัยเฉลิมภัค แกนนำขบวนการต่อต้านลาว ต่อมาถูกศาลจังหวัดมีนบุรี พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้หลบหนีไป มีข้อมูลว่านายตำรวจคนนี้ประวัติเป็น นรต.รุ่น 29 เป็นเพื่อนสนิทกับนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งในภาคอีสาน ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนท้ายสุด คดีนี้จะออก"หัว หรือ ก้อย"น่าสนใจ

00...ปิดท้ายที่เรื่องของ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง"ที่รู้กันว่ามีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นและแนบเนื้อ กับน้องสาวของนักโทษชายป่วนเมือง อย่างทักษิณ ชินวัตร ที่อาศัย กัมพูชา เป็นฐานโจมตีรัฐบาลให้ปั่นป่วนโดยจับมือกับเพื่อนซี้ปึ้กอย่าง ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สร้างความร้าวฉานให้กับ 2 ประเทศอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ตอนที่ "พลพรรครักแม้ว" จะแห่กันไปแสดงความอาลัยรักที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งโดยตามปกติแล้วผู้ที่มีวีซ่าผ่านไปยังกัมพูชาจะไปได้แค่ด่านปอยเปตเท่านั้น แต่ว่ากันว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้ไปบัญชาการแท็คทีมกับ "เจ๊แดง" เยาวภา วงษ์สวัสดิ์ น้องสาวนักโทษชาย ทำตัวเป็น "ตั๋วพิเศษ" พาคณะแก๊งเสื้อแดงและ ส.ส.เพื่อไทย ยกโขยงไปเยี่ยม "ตัวพ่อ" ที่พำนักอยู่ ณ เสียมราฐ อย่างสบายใจเฉิม ถือเป็นหน้าที่พิเศษของรองปลัดกระทรวงยุติธรรม อย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อีกอย่างหนึ่งด้วยหรือเปล่าไม่ทราบได้ คงต้องไปถาม....ใครบางคนในตระกูลชินวัตรเอาเอง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น