หนุ่มซิ่ง จยย.คว่ำเข้าไปติดคาล้อรถพ่วง 22 ล้อถูกลากไปไกลกว่า 50 เมตร ตายสยองคาที่ โชเฟอร์รถพ่วงระบุจะขับรถไปส่งเหล็กเส้นที่ จ.ปทุมธานี แต่พอขึ้นสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า ได้ยินเสียงครูดดังมาจากท้ายรถเลยลงมาดูก็พบภาพอันน่าสยดสยองเลยรีบแจ้งตำรวจ
เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (25 พ.ย.) พ.ต.ท.แบ็งค์ บัวนวล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางเขน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงเฉี่ยวชนชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้าฝั่งขาออก ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ช่วงเชิงสะพานทางขึ้นบนพื้นถนนมีรอยครูดเป็นทางยาว และมีชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์กระจัดกระจายไปจนถึงช่วงกลางสะพาน เป็นระยะทางกว่า 50 เมตร ส่วนบริเวณกลางสะพานช่องทางซ้ายสุด เจ้าหน้าที่พบรถพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียนหัวพ่วง 70-7957 สมุทรปราการ หมายเลขทะเบียนพ่วงท้าย 70-7958 สมุทรปราการ บรรทุกเหล็กเส้นมาเต็มคันรถ จอดอยู่ในสภาพมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำ หมายเลขทะเบียน ปขฉ-452 กทม. ถูกอัดติดอยู่กับบังโคลน
จากการตรวจสอบบริเวณล้อหลังสุดด้านขวาของตัวพ่วงท้าย พบศพนายณัฐพล พึ่งโพธิ์สภ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/18 หมู่3 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีแดง ถูกอัดติดกับล้อรถพ่วงหงายท้องหัวห้อย เลือดไหลนองเต็มพื้นอย่างน่าสยดสยอง ตรวจสอบตามร่างกายพบว่ากระโหลกศีรษะเปิด ปากฉีกเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันงัดร่างเป็นเวลานานกว่าจะนำศพผู้เสียชีวิตออกมาได้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบนายอภิสิทธิ์ มีขุนทด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/70 ซอยเคหะคลองเตย 3 แขวงและเขตคลองเตย โชเฟอร์รถพ่วงคันดังกล่าวยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งไปรับเหล็กเส้นมาจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางนา และกำลังจะไปส่งที่ จ.ปทุมธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุช่วงทางขึ้นสะพานก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านท้ายรถ เลยหันไปมองกระจกข้างแต่ไม่เห็นมีอะไรจึงขับต่อไป แต่พอมาถึงช่วงกลางสะพานก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรครูดอยู่ช่วงท้ายรถ เลยจอดรถลงมาดูปรากฏว่า พบผู้ตายถูกอัดติดอยู่กับบังโคลนและล้อหลังรถตน จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวนายอภิสิทธิ์ไป เนื่องจากไม่ได้เกิดจากความประมาทของนายอภิสิทธิ์ พร้อมกับไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี และเกิดจากความประมาทของฝ่ายผู้เสียชีวิตเอง
