รวบสองคู่หูหนุ่มสุพรรณ รับยาบ้าจากภาคเหนือส่งขายกรุงเทพฯ นนทบุรี และ สุพรรณบุรี พร้อมยาบ้า 1 แสนเม็ด มูลค่า 30 ล้านบาท สารภาพขายผ้าประตูน้ำไม่ดี จึงหันมาค้ายา ทำมา 2 ครั้งก่อนถูกจับ
วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รอง ผบก.บก.สส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.ร่วมแถลงผลการจับกุม นายภาคภูมิ หรือ เต๋า แก้วทรงเพชร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.3 ต.วังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กับ นายนิวัฒน์ หรือ วัฒ อินทุเกตุ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1028/11 ม.6 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้ม จำนวน 50 มัด รวม 100,000 เม็ด มูลค่า 30 ล้านบาท รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ฌข 3463 กทม.
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ก่อนการจับกุมตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ จะนำยาบ้าจากภาคเหนือมาส่งลูกค้าในกรุงเทพฯ นนทบุรี และ สุพรรณบุรี จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการนัดส่งยาบ้าบริเวณริมถนนสุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน กม.28 ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ม.6 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี วันที่ 24 พ.ย.เวลา 21.45 น.จึงวางแผนจับกุมและไปรอที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ขับรถกระบะมาจอดที่เกิดเหตุ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวพยายามขับหลบหนีแต่ไม่สามารถหนีได้ เนื่องจากมีการวางกำลังไว้โดยรอบพื้นที่ เมื่อตรวจค้นพบยาบ้าจำนวนมากซุกซ่อนในถุงกระดาษเบาะด้านหลังคนขับ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การสารภาพว่าได้รับว่าจ้างครั้งละ 100,000 บาท และเคยทำก่อนที่จะถูกจับได้มา 2 ครั้ง เนื่องจากขายเสื้อผ้าที่ประตูน้ำไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงได้รับการชักชวนจากเพื่อให้มาขายยาบ้า
