จับรายวัน! แก๊งเงินกู้นอกระบบเรียกดอกโหด

กองปราบจับไม่หยุดแก๊งปล่อยเงินกู้ คราวนี้รวบตัวหนุ่มอดีตพนักงานบริษัทเอกชน ที่ผันตัวเองมาเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ พร้อมพวกอีก 4 คน เรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินอัตรากำหนด สารภาพอ้างเห็นคนอื่นทำแล้วรายได้ดี เผย มี ตร.ยศนายดาบ ในจังหวัดนนทบุรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังปล่อยเงินกู้

วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายเกษม แอกคะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/30 หมู่ 6 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายอุดร หรืออาเทน เหล่าแช่ม อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 19/1 หมู่ 1 ต.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี นายสมโภชน์ พงษ์ดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/3 หมู่ 4 ต.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี นายบัว อะพรรัมย์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 3 ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ นายณรงค์ ดงสิงห์ อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 174 หมู่ 13 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสด 1,320 บาท สมุดบัญชีลูกหนี้เงินกู้ 1 เล่ม นามบัตรให้กู้เงินในชื่อ แทน ,พร, ยุทธ และคม รวม 47 ใบ จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 14/891 หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้ของนายเกษม ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่า ถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้สูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่า นายเกษม อาศัยอยู่ที่บ้านพักเลขที่ 14/891 หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลแขวงนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าว พบตัวนายเกษม กับพวก และยึดของกลางทั้งหมดไว้ได้ พร้อมแจ้งข้อหาเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.

นายเกษม ให้การว่า ก่อนหน้านี้ เคยทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เห็นคนปล่อยเงินกู้แล้วมีรายได้ดี จึงลาออกจากงานผันตัวมาเป็นนายทุนเงินกู้ โดยใช้เงินเก็บส่วนตัวรวมกับเงินทุนของเพื่อนปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้าในพื้นที่ย่านนนทบุรี รังสิต และ ปทุมธานี แบ่งเป็น 8 สาย ทำนามบัตรแจกให้ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 โดยลูกค้าที่กู้เงิน 10,000 บาท จะต้องใช้คืนวันละ 500 บาท รวม 24 วัน มีการทำสัญญากู้เงินไว้พร้อมกับให้มีผู้เซ็นค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าที่มากู้เงินก็จะเซ็นค้ำให้กันและกัน ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าอยู่ประมาณ 50 ราย เก็บเงินกู้ได้วันละ 4,000-5,000 บาท รวม 8 สายก็จะได้เงินประมาณ 30,000 บาทต่อวัน

“ที่ผ่านมา ผมกับพวกก็ไม่เคยมีพฤติการณ์ข่มขู่ลูกหนี้ที่ไม่ยอมคืนเงินให้ มีแต่ถูกเชิดเงินหนีเพราะลูกหนี้บางรายเป็นคนต่างพี้นที่และกู้เงินจากหลายแหล่งพอหมุนเงินไม่ทันก็หลบหนีไป ผมก็ไม่มีปัญญาจะออกติดตามเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก” นายเกษม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ นายณรงค์ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีตำรวจชั้นประทวน ยศดาบตำรวจ โรงพักแห่งหนึ่ง ใน จ.นนทบุรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ และเรียกเก็บจากลูกหนี้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลติดตามจับกุมตัว อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดชุดจับกุมได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป