รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกทำงานวันแรก ไปซุ่มตรวจโรงพักบางซื่อ ที่เคยเป็นรองสารวัตรมาก่อน ยอมรับทันสมัยมากขึ้น ระบุ จะสั่งการเป็นนโยบายให้ ผกก.และพนักงานสอบสวน พกอาวุธปืน และวิทยุสื่อสาร เพื่อป้องกันเหตุร้าย และใช้ต่อสู่กับคนร้ายให้สมศักดิ์ศรีได้
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น.กล่าวว่า จะเรียกแผนต่างๆ มาดู ทั้งแผนกรกฎ 52 และแผนอื่นๆ มาดูเพื่อปรับใช้ตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องการแบ่งงานต้องรอให้มี รอง ผบช.น.ครบก่อน ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ได้ออกไปตรวจโรงพักแรก คือ สน.บางซื่อ ซึ่งเคยทำงานสมัยเป็น รอง สว.ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก็ทันสมัยดี โดยจะเน้นในเรื่องการควบคุม ห้องควบคุมผู้ต้องหาที่ต้องดูให้ดี เพราะอาจมีการทำร้ายร่างกายได้ ที่ผ่านมา ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีตาย ต้องพยายามดูตรงนี้ ที่ต้องดูโรงพักเป็นพิเศษเพราะประชาชนใกล้ชิดกับโรงพัก ต้องพร้อมรับใช้ประชาชนด้วยจิตใจที่ดี ตั้งแต่ระดับ ผกก.ลงไปเลย ซึ่งสั่งการให้ต่อไป ผกก.โรงพัก ต้องมีวิทยุติดตัว ที่ผ่านมามักใช้โทรศัพท์กัน เมื่อมีเหตุเหตุร้ายก็ใช้โทรศัพท์ จึงไม่รู้ว่าคนร้ายไปทางไหน อีกเรื่องคือ เรื่องอาวุธปืน ที่ 2-3 ปีที่แล้ว รอง ผบก.ถูกคนร้ายยิงและไม่มีอาวุธปืนต่อสู้ ทำให้ตาย 2-3 ศพ ต่อไปนี้ จะสั่งการเหมือนที่ตนผ่านมาทุกจังหวัดว่า นายตำรวจระดับ ผกก.ลงไปที่มีหน้าที่รับใช้ประชาชน และต่อสู้คนร้ายต้องมีอาวุธปืนติดตัว รวมทั้งวิทยุด้วย หลายครั้งเห็นพนักงานสอบสวนไปตรวจที่เกิดเหตุแล้วไม่มีอาวุธปืนติดตัว หากเกิดเหตุแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้จะสั่งเป็นนโยบาย ต้องพร้อมรับใช้ประชาชนและต่อสู้คนร้ายให้ได้ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุพนักงานสอบสวน ตำรวจ ถูกคนร้ายยิงตายเพราะไม่มีโอกาสต่อสู้ ไม่มีอาวุธปืน นอกจากเสื่อมเสียเกียรติภูมิแล้ว ยังบ่งบอกว่าไม่ประมาทด้วย
เมื่อถามว่า มีการมอบนโยบายในที่ประชุมกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไรบ้าง รรท.ผบช.น.กล่าวว่า รอง ผบช.ยังมาไม่ครบ และกำลังเขียนนโยบายเพิ่มเติมนิดหน่อยไม่มาก เพราะนโยบายที่ผ่านมานั้นสมบูรณ์ดีอยู่แล้ว อยากให้เกิดความกระชับขึ้น และเน้นภาคปฏิบัติให้มาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมและใกล้วันสำคัญ (วันที่ 5 ธันวาคม) จะดำเนินการอย่างไร รรท.ผบช.น.ตอบว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย ทุกท่านมีสิทธิ์ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องไม่มีอาวุธ ปราศจากอาวุธ ต้องไม่ทำอะไรรุนแรงเกินเลยกว่าขอบเขตกฎหมาย ตำรวจมีแผนปฏิบัติที่ดีอยู่แล้ว มั่นใจว่าประชาชนต้องการความสงบเรียบร้อยทุกคน
เมื่อถามอีกว่า วันนี้มีการนัดหมายของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่ห้างอิมพีเรียล ถือว่าทำได้หรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจก็จะไปตรวจสอบดูเพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ทุกคนต้องอยู่ใต้กรอบของกฎหมาย และทำเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการวิสามัญ “เอกขาว” คนร้ายยิง ร.ต.อ.ของ สน.หัวหมาก ที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับรายงานหรือยัง พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ได้รับทราบแล้ว โดยมี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดูแลเรื่องนี้อยู่ โดยได้รับรายงานว่า คนร้ายยิงต่อสู้ เพราะเป็นคนร้ายที่ชำนาญในการใช้อาวุธปืนจึงถูกยิงตาย
“สำหรับนโยบายเรื่องยาเสพติด พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.เน้นในเรื่องแหล่งชุมชนเป็นหลัก เพราะเราจะละเลยผู้เสพไม่ได้ เมื่อก่อนเห็นว่าผู้เสพเราจะเอาไปบำบัด เราก็ต้องทำให้หนักกว่าเดิม ควบคุมให้หนักกว่าเดิม เมื่อไม่มีผู้เสพความต้องการก็จะลดน้อยลงไปด้วย โดยเน้นแหล่งชุมชนเป็นหลัก สบายใจที่ได้มารับใช้ เพราะถือว่ากลับมาถิ่นเก่า ในส่วนของหัวหน้าสำนักงานก็มีน้องๆ มาช่วย ตอนนี้มี รองอุ้ย (พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบก.น.5) มาช่วยอยู่ ส่วนการแบ่งงานจะรอให้ครบก่อน” พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องบ่อน อบายมุข และสถานบริการ จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.สัณฐาน หัวเราะ ก่อนตอบว่า ก็เหมือนเดิม ตนเป็นตำรวจเต็มตัว จะนำแนวทางของ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ อดีต ผบช.น.มาใช้ โดยอยากให้ตำรวจดูถึงเรื่องอะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบกับประชาชนมากๆ เช่น การตั้งด่านผีไม่มีหัวหน้าควบคุมต้องไม่มี ตำรวจต้องทำงานเต็มที่ตามหน้าที่ เมื่อเลือกอาชีพนี้มาแล้ว ต้องทำเต็มที่ หากทำไม่ได้ต้องออกไป