xs
xsm
sm
md
lg

ปคม.รวบเพิ่มแก๊งลักเด็กสนามหลวง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว
ปคม.ขยายผลจับเพิ่มสามีสาวใหญ่ร่วมขบวนการแก๊งลักเด็กสนามหลวงไปเร่ขาย หลังเหยื่อยืนยันถูกผู้ต้องหาขับรถพาตระเวนขอทาน แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ บก.ปคม. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัตน์ รอง ผบก.ปคม. แถลงการจับกุม นายภิราช สารพูนทรัพย์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/126 หมู่ 12 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งถูก พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม.พร้อมกำลังจับกุมได้ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 578/2552 ลงวันที่ 16 พ.ย. ข้อหา “ร่วมกันเพื่อแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการค้ามนุษย์, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก” ได้ที่หน้าบริเวณหน้า สน.ชนะสงคราม แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นการขยายผลการดำเนินคดีจากการที่ตำรวจจังหวัดอุดรธานี ได้จับกุมนางช้อน สีส่อง ผู้ต้องหาคดีลักพาเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ไปจากผู้ปกครองแล้วพาไปเร่ขอทาน เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้อหาเป็นสามีของนางช้อน ซึ่งจากการสอบสวนเด็กผู้เสียหายให้การยืนยันว่านายภิราช ร่วมกับนางช้อนลักพาเด็ก แล้วนำไปเร่ขอทาน ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งใน กทม.และจ.อุดรธานี นอกจากนี้ยังนำเด็กหญิงที่ลักพาตัวมาไปขายให้กับชาวบ้านที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี กระทั่งมารดาของของเด็กทราบเรื่อง จึงได้แจ้งความและจับกุมตัว

พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า นายภิราชกับนางช้อนอยู่กินด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2545 และร่วมกันกระทำผิดมาตลอด ทราบว่านายภิราชจะมีหน้าที่ขับรถยนต์พาเด็กตระเวนออกขอทานไปตามจุดต่างๆ ทุกครั้งจะหลอกกับเด็กว่าจะพากลับบ้าน หากเด็กไม่ยอมก็จะข่มขู่ว่าจะให้ตำรวจจับ และไม่ให้นำเรื่องไปบอกกับใคร สำหรับวิธีการในการลักพาตัวก็คือจะเลือกเด็กอายุระหว่าง 4-5 ขวบ ที่ผู้ปกครองไม่ทันระมัดระวัง คนร้ายก็จะให้เด็กที่อายุไล่เรี่ยกันเข้าไปตีสนิท ชักชวนกันเล่น เพื่อสร้างความคุ้นเคย ก่อนจะชวนให้ไปด้วยกัน คดีนี้ทราบว่าผู้ต้องหาได้พาเด็กไปจากท้องสนามหลวง ส่วนเด็กอีกคนนั้นถูกพาไปจากจังหวัดชลบุรี

“ต่อไปหากผู้ใดพบพฤติกรรมต้องสงสัยในลักษณะนี้ก็ขอให้รีบเข้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที่ เพื่อเป็นการช่วยกันป้องกันเหตุอีกทางหนึ่งด้วย” พล.ต.ท.ไถงกล่าว

จากการสอบสวนนายภิราชให้การว่า มีอาชีพเป็นโฟร์แมนของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง และยอมรับว่าเป็นสามีของนางช้อนจริง แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ยังไปมาหาสู่กัน เพราะต้องส่งค่าเลี้ยงดูให้กับบุตรสาวอายุประมาณ 6 ขวบ ที่นางช้อนเลี้ยงดูอยู่ ส่วนคดีลักเด็กนั้นขอให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง และไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน กระทั่งเห็นข่าวนางช้อนถูกจับ และตั้งแต่เกิดเหตุนี้ก็ไม่แน่ใจว่าบุตรสาวของตนที่เกิดกับนางช้อนนั้นจะเป็นบุตรแท้ๆ ของตนหรือไม่ เพราะตั้งแต่อยู่กินกับนางช้อนใหม่ๆ เขาก็บอกว่ากำลังตั้งท้อง หลังจากนั้นก็ห่างๆ กันไป กระทั่งนางช้อนย้อนกลับมาหาอีก ครั้งนี้ก็อุ้มเด็กมาด้วย อ้างว่าเป็นลูกที่เกิดกับตน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยสงสัยและส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอด เมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้นเชื่อว่าเด็กคนนี้อาจถูกนางช้อนไปลักพาตัวมาก็เป็นได้

หลังการสอบสวน ตำรวจส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น