ยกฟ้อง รพ.กรุงธน 2 กับหมอผ่าตัดซีสต์รังไข่สาวใหญ่ทำไตข้างขวาหาย ศาลเชื่อคำเบิกความแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุ ผ่ารังไข่เอาไตออกไม่ได้
วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 24 ศาลแพ่งธนบุรี ถ.เอกชัย ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่นางเกษร พุ่มแจ่ม อายุ 43 ปี อาชีพช่างเย็บผ้า เป็นโจทก์ฟ้องโรงพยาบาลกรุงธน 2 หรือ บริษัทโรงพยาบาลกรุงธน จำกัด (มหาชน) และ นพ.พิพัฒน์ชัย อรุณธรรมคุณ สูตินรีแพทย์ จำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 7,00,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อเดือน ก.ค.2549 โจทก์มีอาการปวดบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง จึงเข้ารับการตรวจอาการที่โรงพยาบาลจำเลยที่ 1 มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ตรวจรักษา วินิจฉัยว่าโจทก์เป็นช็อกโกแลตซีสต์ที่บริเวณใต้รังไข่ด้านขวา ต่อมาวันที่ 9 ส.ค.2549 โจทก์เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด หลังผ่าตัดแล้วประมาณ 1 เดือน โจทก์มีอาการร่างกายอ่อนแรง ผ่ายผอม น้ำหนักลด ปวดหลัง ประจำเดือนมีมากผิดปกติ เมื่อไปตรวจอัลตร้าซาวด์ ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2551 พบว่าไตข้างขวาหายไป เหลือเพียงไตข้างซ้ายและมีอาการเสื่อมมากทำงานได้ไม่เต็มที่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โจทก์เคยประสบอุบัติเหตุต้องเอ็กซ์เรย์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง ก็พบว่าไตทั้งสองข้างยังอยู่ครบ แต่ภายเข้ารับการผ่าตัดกับจำเลยที่ 2 ไตข้างขวาหายไปและไตข้างซ้ายเสื่อม ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่าตัดของจำเลยที่ 2 ที่กระทำการโดยประมาท จึงยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายประกอบคำเบิกความแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ความว่า การผ่าตัดช็อกโกแล็ตซีสต์บริเวณใต้รังไข่ แพทย์ไม่สามารถที่จะไปผ่าเอาไตออกมาได้ เนื่องจากอวัยวะทั้งสองอยู่คนละตำแหน่งกัน และการผ่าตัดช็อกโกแล็ตซีสต์ดังกล่าว ผู้ป่วยจะต้องนอนหงายอยู่ในท่าปกติ ซึ่งท่าทางดังกล่าวแพทย์ไม่สามารถผ่าเอาไตออกไปได้ นอกจากนี้ การอ่านฟิล์มเอกซเรย์บริเวณไตของโจทก์ เชื่อได้ว่าไตของโจทก์ไม่ได้หายไป เพียงแต่มีการฝ่อทำให้ขนาดเล็กลง ซึ่งอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด และแพทย์ยังเบิกความด้วยว่าหากการผ่าตัดมีผลต่อไตจะเกิดได้สองกรณี คือ ท่อไตอุดตัด และท่อไตถูกมัด ซึ่งกรณีที่ทำให้ไตฝ่อคือกรณีที่ท่อไตถูกมัด โดยหลังผ่าตัด 2-3 วันผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องรุนแรง น้ำปัสสาวะขุ่นและมีอาการไข้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังการผ่าตัด 2-3 วัน โจทก์ไม่มีอาการดังกล่าวแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองทำการรักษาพยาบาลโจทก์โดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ไตของโจทก์หายไปหรือเสื่อมสภาพลง จึงพิพากษายกฟ้อง
ภายหลัง นางเกษรกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยว่า ขณะนี้สุขภาพก็ยังไม่แข็งแรงเหมือนปกติ ไม่สามารถรับจ้างตัดเย็บผ้าได้เหมือนก่อน ต้องขาดรายได้เลี้ยงดูตัวเอง ดังนั้นจะต้องยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป
