xs
xsm
sm
md
lg

ก.ตร.ไฟเขียวบอร์ดกลั่นกรอง เมิน “ปุ-พิชิต” วอล์กเอาต์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
ที่ประชุม ก.ตร.ได้ข้อสรุปอนุมัติบอร์ดกลั่นกรอง แม้ไร้ “ปุระชัย-พิชิต” วอล์กเอาต์ ตั้ง “เบญจวรรณ สร่างนิทร” เลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานบอร์ดกลั่นกรองใหม่ ด้าน “ปุระชัย” ย้ำจุดยืนควรตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่เสียก่อน ปัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องฝากลูกชายเข้าเป็นตำรวจสัญญาบัตร ระบุในขณะรับตำแหน่งประธาน ก.ตร.ไม่มีอำนาจรับคนมารับราชการ



วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ที่ห้องประชุม1 ชั้น 2 อาคาร 1 ทั้งนี้ คณะกรรมการ ก.ตร.ที่ประกอบไปด้วย รรท.ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็น ก.ตร.ในตำแหน่งนั้น ได้เข้าประชุมตามปกติ ส่วน ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีจำนวน 10 ท่าน มีคณะกรรมการที่แสดงเจตจำนงไม่เดินทางมาประชุม จำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย นายสีมา สีมานันท์ นายชัยเกษม นิติสิริ นายสมศักดิ์ บุญทอง โดยทั้ง 3 คนอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกชุดเก่า สวนอีก 1 คน คือ พล.ต.ท.อำนวย ดิษฐกวี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ และเป็นหนึ่งในกรรมการ ก.ตร.ที่ถูกนำเอกสารมาเผยแพร่มาฝากตำรวจด้วย

“ปุ-พิชิต” ฉุนวอล์กเอาต์อีก


เมื่อเวลา 13.53 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ก.ตร. ต่อมา พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เดินตามออกมาในเวลา 14.00 น. โดย ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ตนยังยืนยันสาเหตุที่เดินทางออกจากห้องประชุม ก.ตร. เพราะตนยึดมั่นในหลักการที่ควรจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ก่อน พร้อมทั้งระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่จะรุ้สึกว่าพอใจหรือไม่พอใจอะไร แต่เป็นการแสดงว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ยันตามหลักการเดิม

เมื่อถามว่า แล้วที่ประชุมมีความเห็นว่าอย่างไรที่วอล์กเอาต์ออกมา ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.พิชิต ก็ได้แสดงความเห็นว่า จำนวนบอร์ดกลั่นกรองนั้นมีจำนวนเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่เหมาะสม ซึ่งตนก็เห็นด้วยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ควรหารือกันในที่ประชุม แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเวียนหนังสือว่ามีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ยึดติดในเรื่องตัวบุคคล แต่เรื่องนี้มันเคยมีปัญหาก็ควรนำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา แต่แม้เสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วย แต่จะให้ตนไปสนับสนุน มันผิดหลักการ มันทำไม่ได้

อ้างสอนกฎหมายต้องทำเป็นตัวอย่าง


เมื่อถามว่า สาเหตุใดจึงไม่เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าว่า เสียงส่วนใหญ่ ต้องเห็นชอบด้วยหลักเกณฑ์และกฎหมายก่อน แต่ตอนนี้ เสียงส่วนใหญ่พยายามเห็นว่าทำได้ แต่จริงๆ แล้วตามหลักการ ทำไม่ได้ ตนจึงไม่อยากร่วมรับผิดชอบด้วย โดยเฉพาะตนสอนวิชารัฐศาสตร์ ด้วยก็ต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง

ปัดช่วย “พัชรวาท” - ฝากลูกชายติดยศ ร.ต.ต.


เมื่อถามว่า การวอล์กเอาต์นั้นเป็นลักษณะของการป่วนหรือไม่ ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก มันเป็นเรื่องของหลักการ เป็นเรื่องของคุณธรรม และการกระทำของตนไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะท่านก็เกษียณไปแล้ว พร้อมระบุถึงกรณีที่ นสพ.หลายฉบับ เสนอข่าวเรื่องตนช่วยเหลือให้ลูกชายรับราชการตำรวจว่า ตอนนั้น ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ ต.ค.2547 - 14 ม.ค.2548 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้ารับราชการตำรวจของลูกชาย ตอนนั้นลูกชายได้สมัครเป็นทหารเกณฑ์ 6 เดือน ได้มาปรึกษากับตนว่าจะไปยื่นใบสมัครเป็นตำรวจ โดยต้องการสายงานด้านฟิสิกส์ ตามที่เขาจบมา แม้ตนเองก็มีความรู้ในระบบงานตำรวจดีว่าคืออะไร แต่ไม่ได้สนับสนุน เพราะคิดว่า ลูกชายโตแล้ว ตนก็คงไม่ได้ไปกำหนดชีวิตลูกชาย แม้เขาจะแต่งงานกับใครตนก็ไม่ได้เข้าไปก้ายก่าย แต่ก็ได้กำชับว่า ทำอย่างไรก็ได้แต่อย่าให้ตนไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าตอนนั้น ตนจะเป็นประธาน ก.ตร.ก็ตาม แต่ในตำแหน่งประธาน ก.ตร. ไม่มีอำนาจในการรับคนมาเป็นข้าราชการตำรวจ เพราะในตำแหน่งนายร้อย จะเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. ซึ่งมี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยนั้น และ พล.ต.อ.โกวิท ลงนามเมื่อวันที่ 7 เม.ย. พ.ศ. 2548 ตอนนั้น ตนได้หมดหน้าที่ รองนายกแล้วและวันแรกที่ลูกชายเข้าทำงานเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2548 ตนก็เดินทางไปหาภรรยาที่ประเทศ นิวซีแลนด์ ไม่ได้อยุ่ในประเทศไทย

ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวถึงกรณีมีหนังสือปิดผนึกเรื่องลูกชายของตน ส่งไปถึงบ้าน ก.ตร.บางท่าน ซึ่งตรงนี้ก็อยากให้แยกแยะ เรื่องของพ่อก็คือเรื่องของพ่อ เรื่องของลูกก็คือเรื่องของลูก

ก.ตร.ฉลุยอนุมัติบอร์ดกลั่นกรอง

ต่อมา เวลา 15.00 น. นายสุเทพ ได้เดินทางออกมาจากห้องประชุม พร้อมกล่าวว่า ก.ตร. อนุมัติให้มีการประชุมบอร์ดกลั่นกรองได้ และจากนั้นตนจะเดินทางมาประชุม ก.ตร.อีกครั้ง ในเวลา 17.00 น. ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย และ พล.ต.อ.พิชิต วอล์กเอาต์ก็ไม่มีปัญหา เพราะเสียงก.ตร.ที่มีอยู่ ก็สามารถดำเนินการประชุมได้

แจงขั้นตอนรับลูกชายปุระชัย พบตรวจร่างกายไม่ผ่าน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขั้นตอนการรับ ร.ต.ท.ธรรมาธิปต์ เปี่ยมสมบูรณ์ ลูกชายของ ร.ต.อ.ปุระชัย เริ่มจากสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ต้องการบรรจุข้าราชการตำรวจ โดยรับในคุณวุฒิด้านฟิสิกส์ เพียง 1 นายเท่านั้น แต่ปรากฏว่า ร.ต.ท.ธรรมาธิปต์ ไปติดขัด กฎ ก.ตร.ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2547 ข้อ 2 (11) ที่กำหนดว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่มีสายตาผิดปกติ แต่ถ้าแพทย์ตรวจให้ตรวจไปตามปกติ ถ้าจะขอยกเว้นให้ สตช.เป็นผู้ยกเว้นว่าเป็นคุณสมบัติของบุคคลที่ต้องเข้ามา ซึ่ง พล.ต.อ.โกวิท ได้ดำเนินการยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ

ปัจจุบัน ร.ต.ท.ธรรมาธิปต์ ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สนว. ช่วยราชการสำนักงาน พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผช.ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.25 รุ่นเดียวกับ ร.ต.อ.ปุระชัย

เผยประชุม ก.ตร.ขาด 4 วอล์กเอาต์ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานจำนวนของคณะกรรมการ ก.ตร. โดยรวมประธาน ก.ตร.ด้วย จะมีจำนวน 22 คน ก่อนหน้านี้ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิได้ลาออกไป 1 คน และขณะนี้ยังไม่มีการตั้งทดแทน และวันนี้มี ก.ตร.ขาดประชุม 4 ท่าน วอล์กเอาต์ 2 คน และมีตำแหน่ง ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.อีก 2 ท่าน ที่เกษียณอายุราชการโดยไม่มีการตั้งแทน ทำให้เหลือจำนวนคณะกรรมในห้องประชุม 12 คน

“นพดล” มั่นใจตัว “เบญจวรรณ”

ด้าน พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร. กรณี การแต่งตั้งนางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ ก.พ. เป็นประธานบอร์ดกลั่นกรองใหม่ ตนก็เห็นว่านางเบญจวรรณเป็นเป็นผู้หญิงที่เก่ง ผู้หญิงเหล็ก และยังเป็น ก.ตร.อยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ย้ำโผนายพลไม่เสื่อมศรัทธา

เมื่อถามว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งใดหรือไม่ พล.ต.อ.นพดลกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะต้องตอบสังคม และประชาชนให้ได้ นอกจากนี้ ในบอร์ดกลั่นกรองครั้งที่แล้ว ได้มีการรับหลักเกณฑ์เรื่อง การเลื่อนตำแหน่ง จากรอง ผบช. ขึ้น ผบช. จาก 2 ปี เป็น 4 ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ครบหลักเกณฑ์ในส่วนของ 4 ปี มีจำนวน 26 คน ซึ่งได้พิจารณาไปแล้ว แต่ถ้ามีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำรงตำแหน่งรอง ผบช. 2 ปี มาพิจารณาด้วยหรือไม่ก็ขึ้นกับการประชุม ก.ตร. โดยตนในฐานะที่อยู่ ก.ตร.เสียงข้างมากก็อยากให้การประชุมวันนี้สำเร็จลุล่วงได้โดยดี ซึ่งยืนยันว่า ผลของการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับนายพลครั้งนี้ จะไม่ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา

พล.ต.อ.นพดล กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการแต่งตั้ง ซึ่งนายสุเทพได้นัดการประชุมไว้ในเวลา 13.00 น.จะเป็นการประชุม ก.ตร.ชุดใหญ่ก่อน เพื่อถกเถียงหารือข้อกฎหมายในหลายประเด็น รวมถึงจะเห็นชอบให้นางเบญจวรรณเป็นประธานกลั่นกรองหรือไม่ หากเห็นชอบประธานก็สั่งให้มีการประชุมบอร์ดกลั่นกรองทันที หลังจากนั้น จะนำรายชื่อเข้าที่ประชุม ก.ตร.เพื่อเห็นชอบ ซึ่งตนหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ต้องรอผลประชุมช่วงแรกก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งสำคัญที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองแล้ว อาทิ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 โยกมาเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เดชาวัต รามสมภพ รอง ผบช.ภ.3 ขยับขึ้นเป็น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รองผบช.ภ.4 ขึ้น ผบช.ภ.4 แทน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้วจำเลยในคดี 7 ตุลา ที่ถูกคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัยให้ปลดออก พล.ต.ต.พงศ์สันต์ เจียมอ่อน รองผบช.น.ขยับขึ้นเป็น ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. โยกมาเป็น ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.หม่อมหลวงพันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.ประจำ สง.ผบตร. อดีตหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.สตม. และพล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.ขยับขึ้นเป็น ผบช.ส. สำหรับตำแหน่ง ผบช.น.ยังไม่ได้มีการเสนอใครขึ้นมาลงตำแหน่ง โดยรอการเห็นชอบจากสุเทพพิจารณา

รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
Latitude: 13.743887278862585 Longitude: 100.53816318511963


กำลังโหลดความคิดเห็น