หนีปัญหารักนักธุรกิจหนุ่มคิดสั้นยิงขมับบนแท็กซี่ดับ กระสุนเฉี่ยวกิ๊กสาวเจ็บ

เคลียร์ปัญหารักไม่ลงตัว นักธุรกิจหนุ่มคว้า .38 ยิงขมับบนรถแท็กซี่ดับ ลูกกระสุนเฉี่ยวถูกกิ๊กสาวเจ็บ ตำรวจพบประวัติทั้งคู่ทำธุรกิจร่วมกันจนสนิท แต่ต่างก็มีครอบครัวจึงคิดสั้นหนีปัญหา

วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 03.00 น. พ.ต.ท.ฉลาด ศรศิริ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บในรถแท็กซี่ บริเวณหน้าป้อมตำรวจสายตรวจรัชดาภิเษก ถนนรัชดาภิเษก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ทรงพล คำพาบุตร สว.สส.สน.บางโพงพาง กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร-1662 กทม.ของสหกรณ์แท็กซี่สหมิตร จำกัด จอดเปิดไฟกระพริบอยู่บริเวณหน้าป้อมตำรวจ จากการตรวจสอบที่เบาะด้านหลังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารชายและหญิงรวม 2 คน รายแรกชื่อนายอานนท์ เรืองศาสตร์ อายุ 24 ปี เจ้าของธุรกิจค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 54/18 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวาทะลุศีรษะด้านหลังฝั่งซ้าย 1 นัด อาการสาหัส

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือ น.ส.รุ่งนภา อติกุณฑล อายุ 34 ปี พนักงานบริษัทสิ่งทอย่านบางซื่อ แฟนสาวของนายอานนท์ อยู่บ้านเลขที่ 22 ตรอกอิศรานุภาพ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันโดยกระสุนแฉลบถากเข้าบริเวณหน้าอก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ แต่นายอานนท์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบภายในรถแท็กซี่พบคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ซึ่งเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตกอยู่ตรงที่พักเท้าของผู้โดยสาร จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบปืนพบปลอกซึ่งถูกยิงไปแล้วคาอยู่ในรังเพลิงเพียง 1 นัด พนักงานสอบสวน จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายพีรพงษ์ บุญแก้ว อายุ 28 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวผ่านไปรับผู้โดยสารทั้ง 2 คน มาจากย่านบางซื่อ โดยทั้งคู่ให้ตนพาไปส่งที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนพระราม 3 ในระหว่างที่ขับรถขึ้นทางด่วนถนนพระราม 6 นั้น ได้ยินทั้งคู่คุยกันอย่างปกติ โดยฝ่ายชายพูดขึ้นมาประมาณว่า ตอนนี้ยังคบกับแฟนสาวอีกคนอยู่ แต่ไม่มีท่าทีว่าจะทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด

“พอผมกำลังขับรถลงทางด่วนช่วงถนนสาธุประดิษฐ์ ก็เกิดมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พอหันหลังไปดูก็เห็นเลือดไหลออกจากหัวของฝ่ายชาย ส่วนฝ่ายหญิงคาดว่า คงจะถูกกระสุนปืนแฉลบผ่านที่หน้าอก ทีแรกผมทำอะไรไม่ถูกเลยรีบกลับรถมุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนสาธุประดิษฐ์ เพราะเคยเห็นรถหน่วยกู้ภัยจอดอยู่บริเวณนั้นเป็นประจำ แต่พอไปถึงปรากฏว่าปั๊มปิดจึงขับเลยมาแจ้งตำรวจที่ป้อมแห่งนี้” นายพีรพงษ์ กล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลว่า นายอานนท์ และ น.ส.รุ่งนภา คบหากันมา 5 ปีแล้ว โดยทั้งคู่รู้จักกันเพราะต้องทำธุรกิจร่วมกัน จนกระทั่งเกิดความสนิทสนม แต่ต่างฝ่ายต่างก็มีครอบครัวเลยเป็นเหตุให้เกิดเรื่องสลดขึ้นดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะทำการส่งมอบอาวุธปืนกระบอกของกลางให้กองพิสูจน์หลักฐาน นำไปตรวจสอบคราบเขม่าและหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อไป