xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจ๋แขกคะนองซิ่งเก๋งไล่ปาไข่ใส่รถพลาดชนท้าย 6 ล้อ เจ็บ 1 หนี 3 !

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พิเรนทร์! โจ๋แขกแสบโพกผ้าซิ่งเก๋งคัมรี่เที่ยวไล่ปาไข่ใส่รถที่ขับผ่านย่านถนนพระราม 3 จนมุมหลังพลาดก่อเหตุขับรถชนท้ายบรรทุก 6 ล้อ เพื่อนไหวตัวหนีไปได้ 3 ก่อนทิ้งโจ๋คนขับที่ได้รับบาดเจ็บรับชะตากรรม ค้นรถพบเศษไข่ไก่อื้อ เหยื่อปาไข่ทราบข่าวโผล่ดู แฉโดนพฤติกรรมดังกล่าวก่อเหตุจำได้แม่นใช้เก๋งคัมรี่สีดำ ตร.เร่งสอบอายัดตัวโจ๋ส่งบ้านเมตตาพร้อมสอบเอาผิดผู้ปกครองเชื่อมีผู้เสียหายโดนปาไข่มาแจ้งความอีกเพียบ

วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.40 น. พ.ต.ท.ประดิษฐ์ เปการี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนสะพานข้ามแยกอุตสาหกรรม ตรงข้ามภัตตาคารโฮ คิทเช่น ซีฟู้ด ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ว 3698 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนสะพาน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน โดยชนกับรถบรรทุกหกล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 80-5919 น่าน ที่อยู่ในสภาพพลิกคว่ำตะแคงขวา ด้านท้ายรถถูกเฉี่ยวชน ทั้งนี้ ทราบว่าคนขับรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุณาพิทักษ์ ส่วนคนขับรถบรรทุกหกล้อ คือ นายสอน อดทน อายุ 44 ปี ซึ่งยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจ

จากการสอบสวนนายสอนให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถขนอิฐและปูนมาจากท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงดังทางด้านท้ายรถ ก่อนที่รถจะเสียหลักพลิกคว่ำหมุนเคว้ง 1 รอบ หลังรถหยุดหมุนตนพยายามคลานออกมาจากรถ เห็นชายวัยรุ่นประมาณ 3 คน วิ่งออกจากรถเก๋งคู่กรณีที่ชนท้ายรถของตนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงชายวัยรุ่น 1 คนซึ่งเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถ ต่อมามีเจ้าหน้าที่มาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล ตรวจสอบภายในรถเก๋งพบเศษเปลือกไข่ประมาณ 2-3 ฟอง อยู่บนเบาะนั่งและที่พื้นวางเท้าด้านหลังคนขับ

ขณะเดียวกันได้มี นายสุรพล ชาญวุฒิวงศ์ อายุ 43 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เข้ามาให้การต่อตำรวจในที่เกิดเหตุว่า ขณะขับรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีบรอนซ์-เทา ทะเบียน สส 9412 กรุงเทพมหานคร ออกจากปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนพระราม 3 ปรากฏว่าถูกรถเก๋งคันที่ชนท้ายรถบรรทุกขับตามมาประกบคู่ก่อนจะแซงขึ้น แล้วคนนั่งข้างคนขับก็ลดกระจกลงพร้อมกับโน้มตัวออกจากรถ จากนั้นก็ปาของแข็งใส่รถตนโดนบริเวณกระจกด้านข้างหลังคนขับ มาทราบว่าภายหลังว่าเป็นไข่ไก่ ตนจึงขับตามรถคันก่อเหตุมา กระทั่งพบว่าประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกดังกล่าว

“จังหวะที่ขับรถมาทราบว่าสิ่งที่คนร้ายปาใส่รถนั้นเป็นไข่ไก่ก็รู้สึกโมโหมาก คนที่ปาไข่ไก่ใส่รถผมนั้น จำได้แม่นว่าเป็นเด็กวัยรุ่นนั่งอยู่ข้างคนขับ สวมเสื้อยืดสีดำ โพกผ้าสีขาวเหมือนพวกแขก มีคนนั่งอยู่ในรถคันดังกล่าวประมาณ 4 คน หลังก่อเหตุก็ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกใจให้แก่คนในรถของเป็นอย่างมาก ซึ่งมีลูกชายอายุ 8 ขวบ และ 10 ขวบนั่งอยู่เบาะหลัง ถ้าเป็นก้อนหินลูกชายทั้งสองคงได้รับอันตราย” นายสุรพลกล่าว และว่าลูกของตนนั่งอยู่เบาะหลัง ถ้าเป็นหินลูกตนคงจะเจ็บหนัก เรื่องแบบนี้คนปกติคงไม่ทำกัน ซึ่งตนจะแจ้งความเอาผิดกับคนพวกนี้จะได้เข็ดหลาบ

จากนั้นนายสุรพลได้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูสภาพรถ พบว่ากระจกด้านข้างหลังคนขับมีร่องรอยไข่ที่ถูกคนร้ายปาใส่ แต่กระจกไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ประดิษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งเป็นอุบัติเหตุรถชนกันบนสะพาน และมีผู้บาดเจ็บ แต่ต่อมามีนายสุรพลมาแจ้งว่าคนขับและคนที่นั่งมาในรถคันดังกล่าวได้ปาไข่ใส่รถของตนเองจนได้รับความเสียหาย หากนายสุรพลต้องการแจ้งความดำเนินคดีสามารถแจ้งความเอาผิดได้ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่ข้อหาอื่นๆ ต้องตรวจสอบดูว่าเข้าข่ายข้อหาใดได้บ้าง สำหรับผู้ต้องหาจะอายัดตัวจากโรงพยาบาลมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ส่วนผู้ที่ยังหลบหนีอีก 3 คนนั้น ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายแก๊งนี้ปาไข่ใส่มาแจ้งความอีกจำนวนมาก

ด้าน พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง กล่าวว่า การเอาผิดผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุปาไข่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวน และการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร สามารถเข้าข่ายในองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่ ถ้าผลการสอบสวนพบว่าผู้ปกครองมีความผิดจริงก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานกลับปล่อยปละละเลยให้มาก่อเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งพนักงานสอบสวนและพนักงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อทราบข้อเท็จจริงอยู่ เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเกิดจากความคึกคะนองของวัยรุ่น

พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งยังเป็นเยาวชนอยู่ให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง โดยทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง ซึ่งได้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์เอาไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นต้องดูว่ามีกฎหมายอะไรที่จะดำเนินการได้บ้าง เช่น กรณีออกมาขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ขณะเดียวกันหากสอบสวนแล้วพบว่าผู้ปกครองยินยอมให้ออกมาขับรถก็จะต้องดำเนินการกับผู้ปกครองด้วย ทั้งนี้ สำหรับกรณีนี้ตำรวจจะไม่ใช้มาตรการเปรียบเทียบปรับ จะควบคุมตัวส่งดำเนินคดีในชั้นศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาลงโทษสถานหนักต่อไป

“อยากฝากถึงผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานที่ยังเป็นเยาวชน นำรถออกมาขับขี่ ด้วยความคึกคะนอง และถ้าหากใช้พฤติกรรมเช่นนี้ มีการใช้วัตถุสิ่งของปาใส่รถผู้อื่นจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งกรณีเช่นนี้ ผู้ปกครองจะต้องมีความผิดไปด้วย” ผบก.น.5 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุได้มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง และมีผู้ปกครองของผู้ต้องหาเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามกลับแสดงสีหน้าไม่พอใจ โดยปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น

แก๊งปาไข่อาละวาด!! ถนนบางนา - ตราด
รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ว 3698 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน รถที่ก่อเหตุ

กำลังโหลดความคิดเห็น