“ปทีป” สั่งการทุกสถานีตำรวจรวบรวมสถิติย้อนหลัง 3 ปี ควบคุมดูแลให้ความสำคัญกับการติดตามคดีลักพาเด็ก พร้อมกำชับให้เดินหน้าปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้เชิญรอง ผบ.ตร.ทุกคนเข้าประชุม โดยในที่ประชุมได้หารือกันเกี่ยวกับคดีลักเด็ก ซึ่งล่าสุด ที่ จ.อุดรธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ตามหมายจับ สน.ชนะสงคราม ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนขวัญ พ่อแม่ผู้ปกครองห่วงใยมาก โดยพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังแล้ว โดยการที่พ่อแม่มากล่าวอ้างเป็นพ่อแม่ของเด็กจะมีการพิสูจน์ทราบ ซึ่งตรงนี้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเป็นคนดูแลเรื่องการคืนเด็ก ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รรท.ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ที่ดูแลพื้นที่สั่งการไปทุกสถานีตำรวจกรณีที่มีผู้ปกครองมาแจ้งว่าลูกหายให้รวบรวมสถิติย้อนหลัง 3 ปี ว่า มีเหตุเกิดที่ใดบ้าง ขณะนี้เด็กที่มีการแจ้งหายได้กลับไปสู่อ้อมอกพ่อแม่ไปแล้วจำนวนกี่คน ซึ่งจะสั่งให้ กองบังคับการการค้ามนุษย์เป็นเจ้าของเรื่องที่จะเอาสถิติทั้งหมดมาปัดฝุ่นและเริ่มต้นการดำเนินการในการที่จะติดตามหาเด็กที่หายไป
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่เด็กหายไปแล้วยังไม่ได้คืน ก็ขอความกรุณาถ้าแจ้งความไว้ที่ใดให้ไปยืนยันอีกครั้งว่ายังไม่พบตัวเด็กที่หายไปเพื่อจะได้ติดตามหา ซึ่ง ตร.จะติดตามอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เรื่องนี้จะเดินหน้าปราบปรามต่อไป แต่จะเสริมเรื่องของการฝึกอบรมมีค่ายเยาวชนที่จะอบรมเยาวชนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง หรือชุมชนเสี่ยงต่างๆ ขณะนี้เริ่มจาก กทม.และจะขยายไปในส่วนภูมิภาค พ่อแม่คนใดต้องการให้ลูกหลาน เยาวชนที่คาดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงกับปัญหายาเสพติดสามารถบอกกล่าวมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือสถานีตำรวจในพื้นที่ ว่า ต้องการส่งลูกหลานไปเข้าค่ายอบรมเยาวชนห่างไกลยาเสพติดต่อไป