โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย ได้แจ้งแหล่งที่อยู่ของ นช.ทักษิณ ให้กับตำรวจสากลและตำรวจอาเซียน ได้ทราบแล้ว รออัยการ และ ก.ต่างประเทศ ดำเนินการ จากนั้นตำรวจจึงจะทำงานร่วมกันกับอัยการได้ ส่วนตามด่านชายแดนไทย-เขมร ยังไม่มีคำสั่งจากรัฐบาลให้จับตาเป็นพิเศษ แต่ตำรวจ ตม.คอยตรวจสอบตามปกติอยู่แล้ว พร้อมได้ดำเนินการทำเรื่องถอดยศ “แม้ว” ตามขั้นตอน และจะเสนอเรื่องให้สำนักเลขาธิการ ครม.ราวเดือน เม.ย.ปีหน้า ระบุ จันทร์นี้ ประชุม ก.ตร.ฉลุย พร้อมปฏิเสธไร้ความขัดแย้งใน ก.ตร.
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่า เรื่องนี้ ทางรัฐบาลได้เชิญหน่วยงานความมั่นคงร่วมประชุมกัน โดยมอบหมายให้ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเป็นประเด็นเรืองความขัดแย้งระหว่างประเทศ ในส่วนของตำรวจได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในเรื่องของคดีที่มี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตเลขาธิการ คมช.ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีให้สัมภาษณ์กับไทมส์ออนไลน์ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว เมื่อมีความคืบหน้าจะมีการเปิดเผยต่อสังคมเป็นระยะ
“การดำเนินคดีหมิ่นประมาท หลังจากพนักงานสอบสวนรวมรวมหลักฐานแล้วจะเสนอให้ บช.น.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาว่าเข้าขายคดีหมิ่นประมาทหรือไม่ จากนั้นส่งให้ทาง สตช.ซึ่งจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองอีกชุดเพื่อความรอบคอบ โดยมีรอง ผบ.ตร.เป็นประธานพิจารณา จากนั้นจะมีความเห็นว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่ ให้ทาง ผบ.ตร.ต่อไป”
แจ้งที่อยู่คนทรยศให้ ตร.สากล-อาเซียน
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ กองการต่างประเทศ ก็แจ้งแหล่งที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทาง ตำรวจสากล และตำรวจอาเซียน ทราบแหล่งที่อยู่ที่ชัดเจน เพื่อให้อัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ ทราบ เพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการติดตามตัวมาดำเนินคดี ต่อเมื่อมีความชัดเจนที่จะไปรับตัว ทาง ตร.โดยกองการต่างประเทศ จะทำงานร่วมทำงานกับ อสส.และกระทรวงการต่างประเทศไปรับตัวกลับมา เช่นเดียวกับกรณีของ นายราเกซ สักเสนา
เมื่อถามว่า ทาง ตร.จะมีการตรวจสอบบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไร พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า บริเวณด่านชายแดนมีการเข้าออกและค้าขายตามปกติ ตามสิทธิเสรีภาพ ส่วนประชาชน หรือนักการเมืองที่อาจจะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ไม่มีคำสั่งจากรัฐบาลให้จับตาเป็นพิเศษ ทุกอย่างให้ ทาง ตม.ดูแลตามกฎหมาย
ถอดยศแม้ว เม.ย.ปีหน้า
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึง ความคืบหน้าในการรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลัง คณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การถอดยศมีวาระการดำเนินการวาระละ 2 ครั้ง คือ เมษายน และ ตุลาคม ซึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการรวบรวมเอกสารต่างๆ และส่งให้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในเดือนเมษายน ปีหน้า โดยได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ เพราะมีตำรวจหลายคนที่ถูกถอดยศ ก็ทำพร้อมกันทีเดียว ซึ่งขณะนี้ เรื่องยังคงอยู่ที่กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล เพื่อเสนอให้ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา
เชื่อจันทร์นี้ประชุม ก.ตร.ฉลุย
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจหรือบอร์ดกลั่นกรอง ลาออก นั้น ขณะนี้ ทราบว่า ทาง ก.ตร.รับทราบแล้ว และจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป ที่คาดว่า จะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้นัดอย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพล จะเสร็จสิ้นในการประชุมครั้งนี้หรือรอไม่ หรือต้องพิจารณารายชื่อตำรวจระดับนายพลอีกครั้ง หรือไม่ ก็อยู่ที่การพูดคุยกันใน ก.ตร.ถ้าทุกอย่างลงตัว ก็จบ
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังๆได้ปฏิเสธถึงความขัดแย้งในระดับ ก.ตร.ว่า ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร และเชื่อว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธาน ก.ตร.พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้การประชุมลุล่วงไปด้วยดี โดยก.ตร.จะพยายามแต่งตั้งตำรวจให้ทัน และไม่ได้ยินว่าจะมี ก.ตร.ลาออกอีก ส่วนมีคนมองก.ตร.ในแง่ลบ เพราะมีความขัดแย้งกัน ตามที่ เอแบคโพลล์ ไปสำรวจความเห็นของประชาชนมานั้น ตนมองว่า ก.ตร.ทุกท่านทำงานเต็มที่แล้ว
“ขอให้ประชาชน เชื่อมั่นว่า ตำรวจทำงานอยู่ ทำงานทุกวัน อย่างผมเองก็ต้องกระโดดลงพื้นที่ไปตรวจสอบปัญหาอาชญากรรม ก็ขอให้ตำรวจทุกคนทำงานเต็มที่ และประชาชนเชื่อมันในการทำงานของตำรวจ” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวแสดงความมั่นใจในการทำงานของตำรวจระดับโรงพักที่จะไม่ลดลง
