ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์คดี “เกริกเกียรติ” ยักยอกทรัพย์บีบีซี 1,657 ล้าน ไป 26 ม.ค.ปีหน้า เนื่องจากจำเลยบางส่วนไม่มาศาลพร้อมให้ออกหมายจับ ด้าน “เกริกเกียรติ” แถลงเป็นมะเร็งระยะลุกลามต้องเข้าบำบัดฉายกัมมันตรังสี
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 601 ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี คดีหมายเลขดำที่ 4714/2539 , 5443/2539 และ1604/2540 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และ ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพิเศษ พานิชสมบัติ อดีตเจ้าหน้าที่ประเมินหลักทรัพย์ , นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กก.ผจก.ใหญ่ ธ.บีบีซี , บริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด , น.ส.สุนันทา หาญวรเกียรติ กรรมการบริษัทซิตี้ ฯ , นายเอกชัย อธิคมนันทะ อดีตผู้ช่วย กก.ผู้จัดการใหญ่ และนายเทอร์รี่ อีสเตอร์ กรรมการบริษัทซิตี้ ฯ เป็นจำเลย 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ มูลค่า 1,657,000,000 บาท และเป็นกรรมการซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานของธนาคาร กระทำผิดหน้าที่ ร่วมกับพวกเบียดบังทรัพย์สินไปโดยทุจริตและรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 , 353 , 354 , 357 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 3 , 4 , 307, 308 , 309 , 311,313 ,315 และ 334
กรณีระหว่างวันที่ 10 ก.พ.- 20 ก.ค. 2538 นายเกริกเกียรติ อนุมัติเงินสินเชื่อให้กับ บ.ซิตี้ เทรดดิ้ง ฯ โดยทุจริต จำนวน 1,657,500,000 บาท ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้สินเชื่อได้เพียง 30 ล้านบาท โดยจำเลยยังร่วมกันประเมินราคาหลักทรัพย์ที่ดินสูงเกินกว่ามูลค่าความเป็นจริง
โดยนายเกริกเกียรติ จำเลยที่ 2 น.ส.สุนันทา จำเลยที่ 4 , นายเอกชัย จำเลยที่ 5 และทนายความมาศาล แต่นายพิเศษ จำเลยที่ 1 นายเทอร์รี่ จำเลยที่ 6 ไม่มาศาล และนายประกันของนายเทอร์รี่ จำเลยที่ 6 ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุผลให้ศาลทราบ เชื่อว่า นายพิเศษและนายเทอร์รี่ จำเลยที่1และ 6 น่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาฟังคำพิพากษา และให้ปรับนายประกันของนายเทอร์รี่ จำเลยที่ 6 (จำนวน 10 ล้านบาท ) ขณะที่นายเกริกเกียรติ จำเลยที่ 2 แถลงว่า ขณะนี้จำเลยป่วยเป็นมะเร็งปอด ระยะลุกลาม ซึ่งจะต้องเข้าบำบัดด้วยการฉายกัมมตรังสี และหลังจากการฉายแสง ก็ยังจะมีผลต่อเด็ก สตรีมีครรภ์และคนชรา ดังนั้นหากศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา ขอให้อยู่ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2553 ศาลพิจารณาแล้ว จึงนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง ในวันที่ 26 ม.ค. 2553 เวลา 09.30 น.
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 20 ม.ค.48 ให้จำคุกนายเกริกเกียรติ 10 ปี ปรับ 2,264 ล้านบาท และปรับบริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง ฯ จำเลยที่ 3 จำนวน 1 ล้านบาท ส่วน น.ส.สุนันทา กรรมการบริษัทซิตี้ ฯ และ นายเทอร์รี่ กรรมการบริษัทซิตี้ ฯ จำเลยที่ 4 และ 6 ให้ จำคุกคนละ 7 ปี ปรับคนละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้จำเลยที่ 2,4 และ 6 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1,132 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.25 ต่อปี คืน ธ.บีบีซีด้วย ส่วนนายเอกชัย อดีตผู้ช่วย กก.ผู้จัดการใหญ่ จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 8 ปี ปรับ 1 ล้านบาท พร้อมให้ชดใช้เงิน 75 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.25 ต่อปีคืน ธ.บีบีซี ด้วย สำหรับนายพิเศษ จำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจาก ทางนำสืบโจทก์ ยังไม่ชัดเจนว่านายพิเศษ ร่วมลงชื่ออนุมัติสินเชื่อดังกล่าวด้วย
ขณะที่วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.15 น.ที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 ได้ยื่นคำร้องฝากขังนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษา กก.ผกจ.ใหญ่ บีบีซี ผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกปล่อยกู้ บริษัทซิตี้ เทรดดิ้งฯ โดยทุจริต ผลัดที่สอง เป็นเวลาอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 พ.ย.นี้ หลักจากครบกำหนดฝากขังครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการฝากขังครั้งนี้ ใช้วิธีผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ จากศาลไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯซึ่งนายราเกซ ถูกควบคุมตัวอยู่ นอกจากนี้ท้ายคำร้องฝากขังพนักงานอัยการได้ระบุว่า ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการสอบสวนพยานเพิ่มเติม 3 ปาก และการแปลเอกสารต่างประเทศยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ เกรงว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ศาลสอบถามนายราเกซผ่านล่ามแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้