รวบแก๊งแม่เล้าเป็นนักร้องตามคาราโอเกะบังหน้า เจ้าตัวอ้างมีเด็กสาวไม่เรียนหนังสือขอร้องให้ช่วยหาลูกค้าให้เพราะร้อนเงิน สงสารจึงช่วยสงเคราะห์ติดต่อลูกค้าช่วยมาบำเรอใคร่ แลกค่าตัวกับส่วนแบ่ง
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัตน์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง ผกก.5 บก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นางอุดมพร หรือ บี วิเศษเจริญ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/289 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ น.ส.ชฎาพร หรือ ใต้ เพียงพิมาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/33 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3046 และ 3047/2552 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2552 ข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อการค้าประเวณี และร่วมกันค้ามนุษย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทะเบียน กษม 782 สมุทรสาคร จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนพระราม 2 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า ก่อนหน้านี้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สมุทรสาคร สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ รับเด็กหญิงอายุ ต่ำกว่า 18 ปี 3 ราย มาไว้ในความดูแล หลังถูกผู้ต้องหาทั้งสองพาไปลักลอบค้าประเวณีในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ต่อมาชุดสืบสวน กก.5 บก.ปคม.ได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง
สอบสวน นางอุดมพร ให้การว่า ทำงานเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง และเป็นนักร้องอยู่ที่ร้านคาราโอเกะใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งระหว่างที่ทำงานในร้านคาราโอเกะ ได้รู้จักกับลูกค้าหลายรายซึ่งมีตั้งแต่คนใช้แรงงาน จนถึงข้าราชการในพื้นที่ จากนั้นมีลูกค้าได้โทรศัพท์ติดต่อให้ช่วยหาเด็กหญิงไปให้ร่วมหลับนอน โดยจะจ่ายเงินค่าตัวให้อย่างงาม แต่ตนบอกปัดไปว่าไม่มี ต่อมามีเด็กผู้หญิงที่ไม่ได้เรียนหนังสือหลายคนมาขอร้องให้ตนช่วยหางานให้ทำ เพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน ด้วยความสงสารจึงติดต่อหาลูกค้าให้
นางอุดมพร ให้การอีกว่า ที่ผ่านมาได้หาเด็กหญิงไปให้ลูกค้า 2-3 คน ในราคา 1,000-1,500 บาท ได้ส่วนแบ่ง 300 บาท ในขณะที่ น.ส.ชฎาพร เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์พาเด็กไปส่งให้ลูกค้าตามโรงแรมม่านรูด ใน จ.สมุทรสาคร และยืนยันว่า ติดต่อเด็กให้ลูกค้าครั้งเดียว จากนั้นพวกเขาเป็นฝ่ายติดต่อกันเองโดยตนไม่ได้รับรู้หรือได้เงินส่วนแบ่งอีก ซึ่งชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป