บริษัทก่อสร้างชุ่ย! ทิ้งเศษปูน ทรายเกลื่อนถนนราชพฤกษ์เป็นเหตุให้รถ จยย.เสียหลักเฉี่ยวชนแท็กซี่ขวางถนน รถกระบะที่ตามมาซวยหลบไม่ทันตีลังกาข้ามเกาะกลาง ทำให้แท็กซี่ฝั่งตรงข้ามหักหลบชนเสาไฟรถพังยับโชว์เฟอร์ดับอนาถ ผู้โดยสารสาหัส
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 05.50 น. ร.ต.ท.คมกริช บุญเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถแท็กซี่เสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนนราชพกฤษ์ หน้าศูนย์รถยนต์โตโยต้า สาขาราชพฤกษ์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ช่วงทางลงสะพาน เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทว-1374 กทม. เสียหลักพุ่งขึ้นไปฟาดกับเสาหลักกิโลเมตรและเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนนจนตัวถังรถขาดครึ่ง ภายในรถพบศพนายบุญเส็ง สิงห์สี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว สภาพศพเสียชีวิตคาเบาะที่นั่งคนขับ ตรวจสอบตามร่างกายพบว่า กระโหลกศีรษะแตก คอหัก
นอกจากนี้ยังผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารที่นั่งมาบริเวณเบาะด้านหลังอีก 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายยุทธนา เปรมโพธิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/2 หมู่ 2 ต.สามเมือง อ.บ้านบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนและขาหัก ลำตัวมีบาดแผลทั่วร่างกาย เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศรีวิชัย แพทย์ให้การรักษาจนปลอดภัย
จากการตรวจสอบบนพื้นผิวการจราจรช่วงจุดเกิดเหตุยังพบ รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ และรถแท็กซี่ อีกรวม 3 คัน เฉี่ยวชนกันอยู่ด้วย โดยมีเศษหิน คอนกรีต กรวด และทราย ตกกระจายเกลื่อนอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่า เป็นเศษที่บริษัทก่อสร้างถนนทำหล่นทิ้งไว้แต่ไม่ยอมเก็บกวาด ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงเก็บภาพเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบสวนนายวรวุฒิ พิชยกิจไพบูลย์ อาสาสมัครูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีรถแท็กซี่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุรายนี้ ขณะที่กำลังช่วยคนเจ็บซึ่งเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ก็มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน กภ-7086 กทม.ขับลงสะพานมา เมื่อคนขับรถกระบะเห็นว่าด้านหน้ามีรถชนกันอยู่จึงหักหลบเข้ามาช่องทางซ้าย แต่ปรากฏว่ารถเหยียบก้อนกรวดเสียหลักตีลังกาข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฝั่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีกทั้งสิ้นรวม 3 ราย โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางไผ่ และและโรงพยาบาลพญาไท 3
นายวรวุฒิให้การต่อว่า จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็วิ่งลงสะพานตามมาแบบติดๆ ซึ่งตนคาดว่า โชเฟอร์แท็กซี่คงตกใจเมื่อเห็นว่า รถกระบะกำลังพลิกคว่ำอยู่ เลยตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รถไถลไป แต่เนื่องจากถนนเต็มไปด้วยหินและเศษก้อนกรวดจึงทำให้รถพุ่งขึ้นไปชนเสาไฟบริเวณเกาะกลาง ทำให้โชเฟอร์เสียชีวิตและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.คมกริช เปิดเผยว่า สำหรับอุบัติเหตุในบริเวณนี้เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงแยกสำนวนออกเป็น 3 คดี ซึ่งหลังจากนี้จะตระเวนไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บตามโรงพยาบาลทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งโชเฟอร์รถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างมาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 05.50 น. ร.ต.ท.คมกริช บุญเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถแท็กซี่เสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนนราชพกฤษ์ หน้าศูนย์รถยนต์โตโยต้า สาขาราชพฤกษ์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ช่วงทางลงสะพาน เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทว-1374 กทม. เสียหลักพุ่งขึ้นไปฟาดกับเสาหลักกิโลเมตรและเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนนจนตัวถังรถขาดครึ่ง ภายในรถพบศพนายบุญเส็ง สิงห์สี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว สภาพศพเสียชีวิตคาเบาะที่นั่งคนขับ ตรวจสอบตามร่างกายพบว่า กระโหลกศีรษะแตก คอหัก
นอกจากนี้ยังผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารที่นั่งมาบริเวณเบาะด้านหลังอีก 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายยุทธนา เปรมโพธิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/2 หมู่ 2 ต.สามเมือง อ.บ้านบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนและขาหัก ลำตัวมีบาดแผลทั่วร่างกาย เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศรีวิชัย แพทย์ให้การรักษาจนปลอดภัย
จากการตรวจสอบบนพื้นผิวการจราจรช่วงจุดเกิดเหตุยังพบ รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ และรถแท็กซี่ อีกรวม 3 คัน เฉี่ยวชนกันอยู่ด้วย โดยมีเศษหิน คอนกรีต กรวด และทราย ตกกระจายเกลื่อนอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่า เป็นเศษที่บริษัทก่อสร้างถนนทำหล่นทิ้งไว้แต่ไม่ยอมเก็บกวาด ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงเก็บภาพเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบสวนนายวรวุฒิ พิชยกิจไพบูลย์ อาสาสมัครูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีรถแท็กซี่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุรายนี้ ขณะที่กำลังช่วยคนเจ็บซึ่งเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ก็มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน กภ-7086 กทม.ขับลงสะพานมา เมื่อคนขับรถกระบะเห็นว่าด้านหน้ามีรถชนกันอยู่จึงหักหลบเข้ามาช่องทางซ้าย แต่ปรากฏว่ารถเหยียบก้อนกรวดเสียหลักตีลังกาข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฝั่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีกทั้งสิ้นรวม 3 ราย โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางไผ่ และและโรงพยาบาลพญาไท 3
นายวรวุฒิให้การต่อว่า จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็วิ่งลงสะพานตามมาแบบติดๆ ซึ่งตนคาดว่า โชเฟอร์แท็กซี่คงตกใจเมื่อเห็นว่า รถกระบะกำลังพลิกคว่ำอยู่ เลยตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รถไถลไป แต่เนื่องจากถนนเต็มไปด้วยหินและเศษก้อนกรวดจึงทำให้รถพุ่งขึ้นไปชนเสาไฟบริเวณเกาะกลาง ทำให้โชเฟอร์เสียชีวิตและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.คมกริช เปิดเผยว่า สำหรับอุบัติเหตุในบริเวณนี้เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงแยกสำนวนออกเป็น 3 คดี ซึ่งหลังจากนี้จะตระเวนไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บตามโรงพยาบาลทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งโชเฟอร์รถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างมาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป