แม่บ้านสาวใหญ่ชาวอำนาจเจริญ ไม่พ้นตกเป็นเหยื่อ “นาธาน” ถูกขอยืมเงิน 3 แสนบาท ไปลงธุรกิจทัวร์ แต่สุดท้ายกลายเป็น “ขอลืม” หายเข้ากลีบเมฆ เผยทำงานบ้านให้มา 10 ปี รักเหมือนลูก เลยไม่ได้ทำสัญญากู้เงิน
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ สน.หัวหมาก น.ส.สมาน เสริมสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 8 ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ พร้อม นายอาทิตย์ กุลฝ้าย อายุ 24 ปี ลูกชาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.ต.ปิยเชษฐ์ เลื่อนพลับ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ถูก นายณธัญ โอมานันท์ หรือ “นาธาน โอมาน” อายุ 32 ปี นักร้องหนุ่มจอมฉาว ขอยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจทัวร์ แต่ยังไม่ยอมใช้หนี้คืนแต่อย่างใด
น.ส.สมาน เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดคอนโดมิเนียม ซอยอุดมสุข 54 ให้กับนาธาน มานานกว่า 10 ปี จนมีความสนิทสนมไว้เนื้อเชื่อใจกัน จนเมื่อปลายปีที่แล้ว นายนาธาน ได้มาขอยืมเงินตนจำนวน 50,000 บาท โดยอ้างว่า จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายและทำทัวร์ จึงไปหาเงินมาให้ ไม่นาน นายนาธาน ก็นำเงินมาคืนจนครบจำนวน ต่อมาในช่วงกลางปีนี้ นายนาธาน ก็มาได้ขอยืมเงินตนอีกครั้ง โดยบอกว่าจะนำไปทำทัวร์เหมือนเดิม ตนจึงนำที่นาของตนใน จ.อำนาจเจริญ จำนวน 15 ไร่ ไปจำนองไว้กับ ธ.ก.ส. อำนาจเจริญ ได้เงินมา 120,000 บาท ก็นำไปให้ทั้งหมด
จากนั้น นายนาธาน ก็มาขอยืมเงินอีก ตนก็ไปกู้เงินนอกระบบมาให้อีก 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 127,000 บาท และยังให้ญาติที่ต่างจังหวัดเอาที่ดินไปจำนองแล้วนำเงินมาให้ตนยืมอีก 30,000 บาท เมื่อได้มาแล้วตนก็นำไปให้นายนาธานทั้งหมด รวมจำนวนเงินที่นายนาธานติดหนี้ตนอยู่ก็ประมาณ 300,000 บาท โดย นายนาธาน บอกว่า หลังได้เงินจากถ่ายภาพยนตร์ที่เมืองนอกเสร็จแล้ว ก็จะเอามาใช้คืนให้
น.ส.สมาน กล่าวต่อว่า ด้วยความไว้ใจ ตนก็ไม่ได้ทวงถามนายนาธานแต่อย่างใด แต่หลังจากที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตนก็ถามนายนาธาน ว่า เมื่อไหร่จะเอาเงินมาให้ เพราะตนต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยรวมแล้วเดือนละ 20,000 กว่าบาท หากไม่เอาไปจ่ายที่ดินที่เอาไปจำนองไว้ก็จะถูกเจ้าหนี้ยึดไป แต่นายนาธาน ก็บอกแต่เพียงว่า ให้รอไปก่อน แต่ตนรอไม่ได้ เพราะที่ดินกำลังจะถูกยึดแล้ว ก็เลยเข้ามาปรึกษาตำรวจ เพื่อให้ นายนาธาน เข้ามาเจรจาใช้หนี้ตน และรับผิดชอบดอกเบี้ยที่ตนต้องจ่ายด้วย
น.ส.สมาน กล่าวต่อว่า เมื่อหลายเดือนก่อน นายนาธาน ยังเคยมาขอยืมบัตรประชาชนของตนไปด้วย โดยบอกแต่เพียงว่าจะไปขอโทรศัพท์ตนก็ให้ไป แต่หลังจากนั้น ก็มีใบแจ้งหนี้ส่งไปที่บ้านของตนที่ต่างจังหวัด ว่า ตนไม่จ่ายค่าบริการโทรศัพท์เป็นเงินเกือบ 20,000 บาท เป็นหมายเลขของดีแทค 2 เบอร์ ทรูอีก 1 เบอร์ และยังมีการขอติดตั้งอินเทอร์เน็ตจากทรูด้วย ตนถึงได้รู้ว่า นายนาธาน เอาบัตรประชาชนของตนไปขอเบอร์มือถือกับขอติดตั้งอินเทอร์เน็ต แต่ไม่ยอมไปจ่ายค่าบริการเลย ซึ่งตนก็อยากให้นายนาธาน มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
“ที่ผ่านมา ไม่เคยเอะใจเลยว่าเขาจะเป็นแบบนี้ เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนไว้เนื้อเชื่อใจ รักเขาเหมือนลูก เลยให้เงินเขายืมไปโดยไม่ต้องทำสัญญากู้เงิน แต่ช่วงหลัง 2-3 เดือนมานี้ เขาไม่ยอมคุยกับพี่เลย จนเมื่อวาน เขามาขนข้าวของออกจากคอนโดฯไปหมดเลย ไม่ยอมบอกด้วยว่าจะย้ายไปไหน รู้แต่ว่าเขาขนไปไว้ที่บ้านญาติที่โชคชัย 4 ทำให้กลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะรู้มาว่า วันที่ 11 พ.ย.นี้ เขาจะไปเมืองนอกแล้ว ช่วงเช้าโทรศัพท์คุยกับเขาแล้ว เขาก็ยังบอกเหมือนเดิมให้รอก่อน แล้วก็ตัดสายไปเลย ตอนนี้โทร.ไปไม่รับแล้ว วันนี้ก็เลยนำเรื่องมาปรึกษาทางตำรวจให้ช่วยเรียกตัวนายนาธาน มาไกล่เกลี่ยเรื่องเงินด้วย” น.ส.สมาน กล่าว
น.ส.สมาน กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องที่ นายนาธาน ตกเป็นข่าวว่าฉ้อโกงคู่กรณีหลายรายนั้น ตนก็ทราบข่าวจากสื่ออยู่บ้าง ทางบ้านก็โทรศัพท์มาถามตนเรื่องนี้ว่าทำไมนายนาธานถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งหากตนรู้ว่าให้เงินยืมไปแล้วจะเป็นแบบนี้ก็คงไม่ให้ยืม ตอนนี้ก็อยากให้นายนาธานมาทำสัญญากู้เงินกับตนใหม่ ให้มารับรู้ด้วยว่าทำอะไรไว้ ถ้ายังนับถือว่าตนเป็นพี่อยู่ ก็ขอให้มาใช้หนี้ตนด้วย หากนายนาธานใช้เงินคืนก็จะยังคงรักและห่วงใยเหมือนเดิม แต่ถ้าไม่คืนก็คงต้องฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน ร.ต.ต.ปิยเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผิดสัญญา ไม่ใช่การฉ้อโกง จึงไม่ได้เป็นคดีอาญา หากจะฟ้องร้องต้องฟ้องทางแพ่งเรียกเงินคืน แต่เบื้องต้นจะลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมช่วยประสานให้นายนาธานให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีก่อน จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้เสียหาย ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องนี้สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ สน.หัวหมาก น.ส.สมาน เสริมสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 8 ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ พร้อม นายอาทิตย์ กุลฝ้าย อายุ 24 ปี ลูกชาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.ต.ปิยเชษฐ์ เลื่อนพลับ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ถูก นายณธัญ โอมานันท์ หรือ “นาธาน โอมาน” อายุ 32 ปี นักร้องหนุ่มจอมฉาว ขอยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจทัวร์ แต่ยังไม่ยอมใช้หนี้คืนแต่อย่างใด
น.ส.สมาน เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดคอนโดมิเนียม ซอยอุดมสุข 54 ให้กับนาธาน มานานกว่า 10 ปี จนมีความสนิทสนมไว้เนื้อเชื่อใจกัน จนเมื่อปลายปีที่แล้ว นายนาธาน ได้มาขอยืมเงินตนจำนวน 50,000 บาท โดยอ้างว่า จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายและทำทัวร์ จึงไปหาเงินมาให้ ไม่นาน นายนาธาน ก็นำเงินมาคืนจนครบจำนวน ต่อมาในช่วงกลางปีนี้ นายนาธาน ก็มาได้ขอยืมเงินตนอีกครั้ง โดยบอกว่าจะนำไปทำทัวร์เหมือนเดิม ตนจึงนำที่นาของตนใน จ.อำนาจเจริญ จำนวน 15 ไร่ ไปจำนองไว้กับ ธ.ก.ส. อำนาจเจริญ ได้เงินมา 120,000 บาท ก็นำไปให้ทั้งหมด
จากนั้น นายนาธาน ก็มาขอยืมเงินอีก ตนก็ไปกู้เงินนอกระบบมาให้อีก 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 127,000 บาท และยังให้ญาติที่ต่างจังหวัดเอาที่ดินไปจำนองแล้วนำเงินมาให้ตนยืมอีก 30,000 บาท เมื่อได้มาแล้วตนก็นำไปให้นายนาธานทั้งหมด รวมจำนวนเงินที่นายนาธานติดหนี้ตนอยู่ก็ประมาณ 300,000 บาท โดย นายนาธาน บอกว่า หลังได้เงินจากถ่ายภาพยนตร์ที่เมืองนอกเสร็จแล้ว ก็จะเอามาใช้คืนให้
น.ส.สมาน กล่าวต่อว่า ด้วยความไว้ใจ ตนก็ไม่ได้ทวงถามนายนาธานแต่อย่างใด แต่หลังจากที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตนก็ถามนายนาธาน ว่า เมื่อไหร่จะเอาเงินมาให้ เพราะตนต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยรวมแล้วเดือนละ 20,000 กว่าบาท หากไม่เอาไปจ่ายที่ดินที่เอาไปจำนองไว้ก็จะถูกเจ้าหนี้ยึดไป แต่นายนาธาน ก็บอกแต่เพียงว่า ให้รอไปก่อน แต่ตนรอไม่ได้ เพราะที่ดินกำลังจะถูกยึดแล้ว ก็เลยเข้ามาปรึกษาตำรวจ เพื่อให้ นายนาธาน เข้ามาเจรจาใช้หนี้ตน และรับผิดชอบดอกเบี้ยที่ตนต้องจ่ายด้วย
น.ส.สมาน กล่าวต่อว่า เมื่อหลายเดือนก่อน นายนาธาน ยังเคยมาขอยืมบัตรประชาชนของตนไปด้วย โดยบอกแต่เพียงว่าจะไปขอโทรศัพท์ตนก็ให้ไป แต่หลังจากนั้น ก็มีใบแจ้งหนี้ส่งไปที่บ้านของตนที่ต่างจังหวัด ว่า ตนไม่จ่ายค่าบริการโทรศัพท์เป็นเงินเกือบ 20,000 บาท เป็นหมายเลขของดีแทค 2 เบอร์ ทรูอีก 1 เบอร์ และยังมีการขอติดตั้งอินเทอร์เน็ตจากทรูด้วย ตนถึงได้รู้ว่า นายนาธาน เอาบัตรประชาชนของตนไปขอเบอร์มือถือกับขอติดตั้งอินเทอร์เน็ต แต่ไม่ยอมไปจ่ายค่าบริการเลย ซึ่งตนก็อยากให้นายนาธาน มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
“ที่ผ่านมา ไม่เคยเอะใจเลยว่าเขาจะเป็นแบบนี้ เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนไว้เนื้อเชื่อใจ รักเขาเหมือนลูก เลยให้เงินเขายืมไปโดยไม่ต้องทำสัญญากู้เงิน แต่ช่วงหลัง 2-3 เดือนมานี้ เขาไม่ยอมคุยกับพี่เลย จนเมื่อวาน เขามาขนข้าวของออกจากคอนโดฯไปหมดเลย ไม่ยอมบอกด้วยว่าจะย้ายไปไหน รู้แต่ว่าเขาขนไปไว้ที่บ้านญาติที่โชคชัย 4 ทำให้กลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะรู้มาว่า วันที่ 11 พ.ย.นี้ เขาจะไปเมืองนอกแล้ว ช่วงเช้าโทรศัพท์คุยกับเขาแล้ว เขาก็ยังบอกเหมือนเดิมให้รอก่อน แล้วก็ตัดสายไปเลย ตอนนี้โทร.ไปไม่รับแล้ว วันนี้ก็เลยนำเรื่องมาปรึกษาทางตำรวจให้ช่วยเรียกตัวนายนาธาน มาไกล่เกลี่ยเรื่องเงินด้วย” น.ส.สมาน กล่าว
น.ส.สมาน กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องที่ นายนาธาน ตกเป็นข่าวว่าฉ้อโกงคู่กรณีหลายรายนั้น ตนก็ทราบข่าวจากสื่ออยู่บ้าง ทางบ้านก็โทรศัพท์มาถามตนเรื่องนี้ว่าทำไมนายนาธานถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งหากตนรู้ว่าให้เงินยืมไปแล้วจะเป็นแบบนี้ก็คงไม่ให้ยืม ตอนนี้ก็อยากให้นายนาธานมาทำสัญญากู้เงินกับตนใหม่ ให้มารับรู้ด้วยว่าทำอะไรไว้ ถ้ายังนับถือว่าตนเป็นพี่อยู่ ก็ขอให้มาใช้หนี้ตนด้วย หากนายนาธานใช้เงินคืนก็จะยังคงรักและห่วงใยเหมือนเดิม แต่ถ้าไม่คืนก็คงต้องฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน ร.ต.ต.ปิยเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผิดสัญญา ไม่ใช่การฉ้อโกง จึงไม่ได้เป็นคดีอาญา หากจะฟ้องร้องต้องฟ้องทางแพ่งเรียกเงินคืน แต่เบื้องต้นจะลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมช่วยประสานให้นายนาธานให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีก่อน จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้เสียหาย ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องนี้สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้
