ป.รวบหนุ่มใหญ่หนีคดีจี้ทอง-โจ๋โทรมสาวเผ่นเป็นยาม!

กองปราบฯ รวบหนุ่มใหญ่หนีคดีชิงทรัพย์ในชั้นศาล เจ้าตัวอ้างไม่ได้หลบหนี แต่ไม่ได้รับหมายเรียก อีกรายรวบโจ๋ 27 ข่มขืนสาว แล้วหนีไปเป็น รปภ.บริษัทเอกชน ไม่รอดตำรวจตามตะครุบตัวมาดำเนินคดี ยังปากแข็งไม่รับอ้างเป็นคนขายไอศกรีมที่อยุธยาแต่ขาดทุนจึงหนีหนี้ไปเป็นยาม


วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายสดายุ ลิขิตเขียน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/94 หมู่ 2 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 443/2551 ลงวันที่ 14 ก.ค. 2551 ข้อหามีพฤติกรรมหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบริษัท เอส.อาร์.ไทร์ จำกัด เลขที่ 22 หมู่ 1 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี

ทั้งนี้ เมื่อปี 2548 ผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ของหญิงสาวรายหนึ่งขณะกำลังเดินอยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครินทร์ (อุดมสุข) ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ประเวศ ผ่านมาเจอจึงจับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหารับสารภาพข้อหาชิงทรัพย์เพียงข้อหาเดียว และต่อสู้จนถึงศาลอุทธรณ์ แต่เมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาผู้ต้องหากลับหลบหนีไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้หลบหนีแต่ที่ไม่มาฟังคำพิพากษา เนื่องจากไม่ได้รับหมายศาล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดใน กทม. แต่ประสบปัญหาขาดทุน โดยในวันเกิดเหตุขณะเดินกลับห้องพักพบเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวสวมสร้อยคอทองคำเดินอยู่เพียงลำพัง จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุกระชากสร้อย แต่ถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี จึงจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่งตัวผู้ต้องหาให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ดำเนินการต่อไป

วันเดียวกัน พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.และ ร.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายสมชาย ขวัญบุรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ 123/2552 ลงวันที่ 19 กรกฏาคม 2552 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จับกุมได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 19/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2552 เวลา 22.30 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุข่มขืนและลักทรัพย์หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งในพื้นที่ของ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนหลบหนีคดีมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท สยาม จี เอ็น การ์ด จำกัด ย่านรามคำแหง ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สืบทราบจึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพขายไอศกรีมในพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังประสบปัญหาขาดทุนจึงหนีหนี้มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนจะถูกจับกุม ซึ่งชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย รับไว้ดำเนินคดีต่อไป