ตร.บางเขน ตามรวบโชเฟอร์แท็กซี่หื่นจับ 2 นศ.สาวล็อกกุญแจมือปิดตาขยี้กามเบาะหลังรถ ไม่หนำใจพาไปต่อที่โรงแรมจนสำเร็จความใคร่อีกรอบ แถมจี้ชิงมือถือ เงินสด ก่อนขับรถกลับบ้านและถูก ตร.จับหลังเหยื่อสาวจำทะเบียนรถเข้าแจ้งความจับ สารภาพเพิ่งเลิกกับเมียเห็น 2 สาวแต่งตัวโป๊แล้วเกิดอารมณ์จึงก่อเหตุ
วันนี้ (3 พ.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.วีระพล หอมจันทร์ สว.สส.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวัชรินทร์ หรือต้น โชติสันเทียะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 393 หมู่ 3 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง อาวุธมีด 2 เล่ม กุญแจมือ 1 คู่ ตั๋วจำนำ 1 ใบ และรถแท็กซี่สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทล-2394 กทม. โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักซอยลำลูกกา 67 ถนนลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันนี้ (3 พ.ย.) ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน จำนวน 2 ราย เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ผู้เสียหายทั้ง 2 คนกลับจากเที่ยวงานวันลอยกระทง และได้เรียกรถแท็กซี่โดยมีผู้ต้องหาเป็นโชเฟอร์ จากปากซอยพหลโยธิน 59 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.เพื่อให้ไปส่งที่บริเวณซอยพหลโยธิน 53
“ระหว่างนั้นผู้ต้องหาก็ได้ขับรถออกนอกเส้นทาง แล้วเข้าไปจอดที่บริเวณแจ้งวัฒนะซอย 1 ก่อนใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้น และเงินสดจำนวน 1,500 บาท จากนั้นก็ใช้มีดกรีดเสื้อผู้เสียหายแล้วนำเศษเสื้อไปผูกตาของผู้เสียหายเพื่อไม่ให้มองเห็น พร้อมทั้งจับผู้เสียหายทั้งสองคนใส่กุญแจมือไว้ด้วยกันเพื่อไม่ให้หลบหนี ก่อนจะพาไปในซอยเปลี่ยวหลัง ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้วลงมือบังคับข่มขืนผู้เสียหายทั้ง 2 คนบนรถแท็กซี่ จนสำเร็จความใคร่” พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าว
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหายังไม่หนำใจยังขับรถพาผู้เสียหายไปเปิดโรงแรมดอนอินน์ ย่านคูคต จ.ปทุมธานี แล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จนสำเร็จความใคร่อีกครั้ง ก่อนขับรถพาผู้เสียหายทั้ง 2 คนออกมาปล่อยไว้ที่หน้าโรงแรมดังกล่าว ผู้เสียหายทั้ง 2 คนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ โดยผู้เสียหายสามารถจดจำทะเบียนรถแท็กซี่ของผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาเอง พร้อมนำตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายวัชรินทร์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยขับแท็กซี่มาก่อน จากนั้นก็เข้าไปทำงานขับรถที่บริษัทก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งหนึ่ง เพิ่งจะลาออกกลับมาขับแท็กซี่ได้ 3 วัน โดยก่อนเหตุได้นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ แถวย่านลำลูกกา จนกระทั่งช่วง 04.00 น.ก็ออกมาขับรถออกมาตระเวนหาลูกค้า จนกระทั่งมาเจอผู้เสียหายที่ซอยพหลโยธิน 59 โดยทั้งสองคนเรียกให้ไปส่งที่ซอยพหลโยธิน 53
“ผมเห็นทั้งสองคนที่แต่งตัวโป๊ ประกอบกับผมเพิ่งเลิกกับเมียก็เลยเกิดอารมณ์เปลี่ยว เลยวางแผนขับรถพาไปในซอยแจ้งวัฒนะซอย 1 แล้วใช้มีดจี้เอาทรัพย์สิน ก่อนจับทั้งสองคนใส่กุญแจมือ พร้อมทั้งกรีดเสื้อของพวกเอามาผูกตาไว้ แล้วก็ขับพาในซอยหลัง ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้วจับทั้งสองคนข่มขืนที่เบาะหลัง จากนั้นก็พาไปข่มขืนอีกรอบที่โรงแรม แล้วขับรถกลับบ้านจนมาถูกตำรวจบุกจับ” นายวัชรินทร์กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายสังวร หรือ วร สายสมร อายุ 30 ปี และ นายโก๋ วงพม อายุ 37 ปี สัญชาติลาวทั้งคู่ ได้ที่ บริเวณตึก 2 หมู่บ้านเมืองทองธานี 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังผู้ต้องหา 2 คน ก่อเหตุแทง นายดิน ลัดทะโล ชาวลาวด้วยกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณชุมชนร้อยกรอง แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ (2 พ.ย.) สาเหตุเนื่องมาจากทะเลาะวิวาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
