xs
xsm
sm
md
lg

ศึกคลองเตยรายวัน ดับไฟตลาด 4-ยิง พ.ต.ท.เจ็บ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่เก็บหัวกระสุนที่ฝังอยู่ในลังปลาไปตรวจสอบ
ศึกคลองเตยยังเดือดเป็นรายวัน หลังเจ้าของแผงที่ซื้อช่วงต่อจาก “ลีเกิ้ล” ประสานตำรวจให้ไปยกลังปลาของพ่อค้าแม่ค้าที่บุกรุกตัดลวดหนามเอาไปวางไว้ออกไป แต่กลับมีเสียงนกหวีดดังขึ้น จากนั้นก็ไฟดับทั้งตลาด 4 ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด กระสุนแฉลบไปโดนแขน รอง ผกก.ปป.โรงพักวัดพระยาไกรเจ็บ ขณะที่ประธาน ลีเกิ้ล เปิดเแถลงข่าว เชื่อผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.ท.อภิฌาณ สวัสดิบุตร พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุยิงกันภายในตลาด 4 ตลาดสดคลองเตย ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบก.น.5

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้าน “เจ๊น้อยปลาสด” เจ้าหน้าที่พบเพียงหยดเลือด และหัวกระสุนไม่ทราบขนาดฝังอยู่ที่ลังไม้ใส่ปลาของร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่ามีด้วยกัน 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ทราบชื่อต่อมาคือ พ.ต.ท. กิตติพงษ์ สุวรรณ รอง ผกก.ปป.สน.วัดพระยาไกร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเฉี่ยวเข้าที่ต้นแขนซ้ายด้านใน

พ.ต.ท.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ที่ซื้อสัมปทานแผงค้าในตลาด 4 ต่อมาจากบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ซึ่งทราบแต่เพียงว่าชื่อ เฮียโส ได้เข้ามาแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ได้ทำรั้วลวดหนามขึงแผงค้าเอาไว้เพื่อกันไม่ให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบุกรุกนำสิ่งของมาวางไว้ แต่ก็ยังถูกพ่อค้าแม่ค้าได้ทำการตัดรั้วลวดหนามออกแล้วเอาลังปลามาวางไว้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำกำลังไปยกลังปลาออกไป เนื่องจากเกรงว่าหากดำเนินการเองอาจจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันจนเรื่องราวบานปลาย

พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวปราบจลาจล ซึ่งรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณตลาดสดคลองเตย จำนวน 150 นาย เข้าไปเจรจากับกลุ่มพ่อค้าแม้ค้าว่าใครเป็นเจ้าของลังปลาแต่ก็ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ จึงดำเนินการยกลังปลาออกไปจากจุดดังกล่าวเพื่อจำนำไปไว้ที่ สน.ท่าเรือ แต่ระหว่างนั้น ก็มีเสียงนกหวีดดังขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นไฟบริเวณตลาด 4 ก็ดับทั้งหมด ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด โดยกระสุนนัดหนึ่งได้แฉลบมาโดนแขนซ้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ พอหันไปมองก็เห็นชายสวมเสื้อสีแดง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายวิ่งหลบหนีไป

จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในบิรเวณดังกล่าวดังกล่าวเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบริเวณหน้าแผงค้าที่เกิดเหตุ และก็มีคนของบริษัทลีเกิ้ลฯมาด้วย ซึ่งพวกตนก็คิดว่ามาด้วยกัน และหลังจากไฟดับก็ได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากกลุ่มที่พวกตนยืนอยู่ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนในบิรษัทลีเกิ้ลฯ ที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเอง เพื่อให้ดูเหมือนว่าเป็นฝีมือของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้ความรุนแรง

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความมปลอดภัยไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอีก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 03.45 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานกรรมการบริษัท ลีเกิ้ลฯ เปิดเแถลงข่าวว่า ตนรู้มาตลอดว่าในวันที่ 29 ต.ค.-2 พ.ย.นี้ จะต้องมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากฝ่ายแกนนำต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้น ซึ่งตนก็พยายามประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดเพื่อให้ระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ซึ่งถ้าย้อนไปเมื่อปีที่แล้วในช่วงวันเลยกระทง 12 พ.ย.51 ก็เกิดปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงมาแล้วครั้งหนึ่ง ในวันนี้ก็ประสานทางตำรวจมาตลอดทั้งวันจนกระทั่งมาเกิดเหตุการณนี้ขึ้น

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า เรื่องการย้ายของออกจากตลาด 4 นั้น ความจริงแล้วตลาด 4 เป็นตลาดว่าง แต่พ่อค้าแม่ค้ามักจะเอามาใช้เก็บของ ซึ่งทางบริษัทต้องการจัดระเบียบให้เรียบร้อย จึงต้องการขนย้ายข้าวของออกไปไว้ที่โรงพัก จากนั้นก็ให้ผู้เป้นเจ้าของตามไปรับกลับคืนมา ซึ่งก่อนจะเข้าทำการขนย้ายนั้นก็ได้ติดประกาศแจ้งเตือนไว้แล้วล่วงหน้า 3 วัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครยอม จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก ซึ่งทางเจ้าของใหม่ที่รับซื้อสัมปทานต่อไปก็ยังเอาลวดหนามมาขึงไว้ แต่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเองก็ยังตัดลวดหนามเอาของเข้าไปวาง

“เรื่องการยิงปืนนั้นจะเห็นได้ว่า ยิงมาจากฝั่งตลาดสหกรณ์แน่นอน ก่อนยิงก็มีการเป่านกหวีด แล้วดับไฟ ก่อนจะมีคนยิงเข้าไปในกลุ่มตำรวจ และพนักงานของลีเกิ้ลฯ ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งการยิงแบบนี้ไม่ได้หวังผลว่าต้องการให้โดนใคร แต่ต้องการเพียงแค่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นเท่านั้น” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ทางบริษัท ลีเกิ้ลฯ ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะบริหารมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจัง ใครทำผิดไม่ว่าจะเป็นคนของลีเกิ้ลฯหรือพ่อค้าแม่ค้าก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย ตนเชื่อว่าทางกลุ่มแกนนำไม่น่าจะมีใครกล้า แต่พอตำรวจจริงจังขึ้นมากลับถูกร้องเรียน ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน เจ้าหน้าที่ระดับล่างก็เกิดความเกรงกลัวขึ้นมา ถ้านโยบายจริงจังทำตามกฎหมายแล้ว ตนเชื่อว่าเหตุการณ์น่าจะสงบลง แต่ทุกวันนี้กลับไปเป็นไปในทางการเจรจามาตลอดเวลา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า บริษัท ลีเกิ้ลฯ ไม่เคยเก็บค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ แพงกว่าเดิมที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเสียอยู่ ซึ่งตอนนี้พ่อค้าแม่ค้ามีทั้งหมด 3-4 พันแผง คนส่วนใหญ่กว่า 90% มาทำสัญญากับทางบริษัทลีเกิ้ลหมดแล้ว เหลือเพียง 20 กว่ารายเท่านั้น ที่ไม่ยอมมาสัญญา ไม่จ่ายค่าเช่าเลย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ยอมมาเจรจา ไม่เคยออกหน้า ถ้าเรียกคนนั้นมาคุยก็จบ วัตถุประสงค์ตอนนี้ไม่ได้ต้องการแผงค้า แต่ต้องการเพิ่มความรุนแรงเพื่อที่จะได้เป็นข่าว
พ.ต.ท. กิตติพงษ์ สุวรรณ รอง ผกก.ปป.สน.วัดพระยาไกร เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟัง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานกรรมการบริษัท ลีเกิ้ลฯ เปิดเแถลงข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น