“พงศพัศ” เรียกเจ้าของร้าน "เมโลดี้" คาราโอเกะโหด สอบปากคำ อ้างเช็คบิล 3 หมื่นรวมค่าเมมเบอร์ ปฏิเสธไม่ได้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย แต่จะเอาไปกักห้องอื่นกันหนี โวเปิดมา 5 เดือนลูกค้าเสียเป็นแสนยังจ่าย ตำรวจแนะเจอแบบนี้รีบแจ้งความ ประสาน สคบ.ดำเนินคดี
จากกรณี ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใจเที่ยง อายุ 42 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ น.ส.อารีวรรณ สาธรรม อายุ 43 ปี แฟนสาว ถูกร้านคาราโอเกะ “เมโลดี้” ริมถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เรียกเก็บค่าบริการแพงเกินเหตุ เป็นเงินกว่า 30,000 บาท แถมข่มขู่ไม่ยอมให้ออกจากร้าน หากไม่จ่ายเงิน จนภายหลังมีลูกค้าที่เคยตกเป็นเหยื่อออกมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.ได้เชิญตัว นายประเสริฐ น้อยนิด อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน "เมโลดี้" คาราโอเกะ และ นายอภิเชษฐ์ ทวีลาภ ผู้จัดการร้าน มาสอบปากคำ ที่ สน.ประชาชื่น
นายประเสริฐ ให้การว่า ในวันเกิดเหตุ หลังจากผู้เสียหายเข้ามาใช้บริการแล้ว ทางร้านก็ให้บริการตามปกติ และได้พูดคุยกันเรื่องการเปิดเมมเบอร์ หรือสมาชิก ในราคา 30,000 บาท แต่คาดว่าผู้เสียหายอาจจะไม่ได้ฟัง อีกทั้งบรรยากาศในห้องก็กำลังสนุกสนาน จึงทำให้เมื่อเช็คบิลราคาออกมาแล้ว ทางผู้เสียหายก็เกิดไม่พอใจและโวยวาย ผู้จัดการร้านจึงได้เข้ามาพูดคุยและตัดราคาเมมเบอร์ออกจนเหลือ 16,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คิดตามการใช้บริการจริง พนักงานก็ลงไปในบิลตามความเป็นจริงโดยราคาค่ามิกเซอร์หรือค่าอาหารนั้น ทางร้านตนก็ไม่ได้เรียกแพงแต่อย่างใด เพราะราคาก็เท่ากับของร้านอื่นๆ ส่วนเรื่องลูกอมนั้น ที่จริงแล้วคิดราคาเป็นถาดๆ ละ 100 บาท ไม่ใช่เม็ดละ 100 บาท อย่างที่ตกเป็นข่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ว่ามีการข่มขู่จะทำร้ายร่างกายนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพียงแต่ที่ต้องกักตัวไม่ให้ออกจากห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าหนี เนื่องจากต้องการที่จะเจรจากันก่อนเท่านั้น เพราะผู้จัดการร้านก็ได้กำชับพนักงานที่ร้านทุกคนไว้ว่า ห้ามทำร้ายลูกค้าเด็ดขาด สำหรับเรื่องที่ยึดทรัพย์ลูกค้าไว้ก่อนนั้น เป็นการเจรจาในขั้นประนีประนอม เพื่อให้ลูกค้านำเงินมาจ่ายทางร้านในวันหลัง ซึ่งถ้าเจรจากันแล้วไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครเดือดร้อน ตนก็ยอม เพราะทุกคนคือลูกค้าของเรา
"ร้านนี้เปิดมา 5 เดือนแล้ว โดยตอนแรกนั้นเป็นร้านของเพื่อนผม แต่เขาไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ เลยเซ้งต่อให้ผม ซึ่งผมก็ทำมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว พอมาเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมก็ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ต้องปิดกิจการ เพราะเจ้าของตึกได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับผมไปแล้ว เพราะผมทำผิดสัญญา ที่ผ่านมาลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวก็ไม่เคยโวยวายหรือแจ้งความอย่างรายนี้เลย เคยมีบางคนมาใช้บริการหมดไปเกือบแสนก็ยังจ่าย เพราะเขามีกำลังทรัพย์ สำหรับเรื่องใบประกอบกิจการที่ทางร้านผมไม่มีนั้น ผมได้ทำเรื่องขอไปแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ จึงทำให้เกิดความล่าช้า" นายประเสริฐ กล่าว
ต่อมาเวลา 14.30 น.พล.ต.ท.พงศพัศ ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ พร้อมกับ นายประเสริฐ และ นายอภิเชษฐ์ ก็พบว่า ทางร้านได้ทำการขนย้ายข้าวของออกจากร้านไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงห้องเปล่าๆ ก่อนที่จะพากันเดินขึ้นไปในห้องคาราโอเกะวีไอพี ชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นห้องที่ ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใช้บริการในวันเกิดเหตุ ก็พบว่าถูกขนย้ายข้าวของออกไปแล้วเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีนี้ขอยกเป็นกรณีตัวอย่างที่ทางผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบ ซึ่งก็ไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ยังมีอีกหลายแห่งที่มีผู้ใช้บริการเจอแบบนี้ โดยกรณีที่มาเที่ยวสถานบริการแบบนี้แล้วถูกเรียกค่าบริการอย่างไม่ถูกต้อง หรือคิดราคาแพงเกินจริง ก็ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีได้เลย ถ้ามีเงินติดตัวก็ไม่ต้องจ่ายให้เข้ามาแจ้งความที่โรงพักเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากมีผู้เสียหายรายใดต้องการร้องเรียนก็ให้ร้องเรียนไปได้ที่ ตู้ ปณ.1234
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า สำหรับในส่วนของร้านราคาโอเกะที่เปิดโดยไม่มีใบอนุญาตนั้นถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายที่แพงเกินกว่าเหตุ ไม่ติดป้ายราคา ก็จะให้ทาง สคบ.เข้าตรวจสอบ และอยากจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการทุกท้องที่ ถ้าจะเปิดสถานบริการก็ต้องขอใบอนุญาตให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะเปิดบริการได้
เหยื่อโอเกะโหดโผล่อีก! นั่ง 4 ชม.โดนฟันหัวแบะ 47,000
ตร.ยังบ้อท่าเอาผิดโอเกะโหด-เหยื่อ นศ.โผล่เป็นพยาน ชี้กรรโชกทรัพย์
ตร.ประสาน สคบ.สอบคาราโอเกะหน้าเลือดโขก 3 ชม.3 หมื่น!
ร้านอาหารสุดโหด! นั่ง 3 ชั่วโมงเก็บตังค์ 3 หมื่น
จากกรณี ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใจเที่ยง อายุ 42 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ น.ส.อารีวรรณ สาธรรม อายุ 43 ปี แฟนสาว ถูกร้านคาราโอเกะ “เมโลดี้” ริมถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เรียกเก็บค่าบริการแพงเกินเหตุ เป็นเงินกว่า 30,000 บาท แถมข่มขู่ไม่ยอมให้ออกจากร้าน หากไม่จ่ายเงิน จนภายหลังมีลูกค้าที่เคยตกเป็นเหยื่อออกมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.ได้เชิญตัว นายประเสริฐ น้อยนิด อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน "เมโลดี้" คาราโอเกะ และ นายอภิเชษฐ์ ทวีลาภ ผู้จัดการร้าน มาสอบปากคำ ที่ สน.ประชาชื่น
นายประเสริฐ ให้การว่า ในวันเกิดเหตุ หลังจากผู้เสียหายเข้ามาใช้บริการแล้ว ทางร้านก็ให้บริการตามปกติ และได้พูดคุยกันเรื่องการเปิดเมมเบอร์ หรือสมาชิก ในราคา 30,000 บาท แต่คาดว่าผู้เสียหายอาจจะไม่ได้ฟัง อีกทั้งบรรยากาศในห้องก็กำลังสนุกสนาน จึงทำให้เมื่อเช็คบิลราคาออกมาแล้ว ทางผู้เสียหายก็เกิดไม่พอใจและโวยวาย ผู้จัดการร้านจึงได้เข้ามาพูดคุยและตัดราคาเมมเบอร์ออกจนเหลือ 16,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คิดตามการใช้บริการจริง พนักงานก็ลงไปในบิลตามความเป็นจริงโดยราคาค่ามิกเซอร์หรือค่าอาหารนั้น ทางร้านตนก็ไม่ได้เรียกแพงแต่อย่างใด เพราะราคาก็เท่ากับของร้านอื่นๆ ส่วนเรื่องลูกอมนั้น ที่จริงแล้วคิดราคาเป็นถาดๆ ละ 100 บาท ไม่ใช่เม็ดละ 100 บาท อย่างที่ตกเป็นข่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ว่ามีการข่มขู่จะทำร้ายร่างกายนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพียงแต่ที่ต้องกักตัวไม่ให้ออกจากห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าหนี เนื่องจากต้องการที่จะเจรจากันก่อนเท่านั้น เพราะผู้จัดการร้านก็ได้กำชับพนักงานที่ร้านทุกคนไว้ว่า ห้ามทำร้ายลูกค้าเด็ดขาด สำหรับเรื่องที่ยึดทรัพย์ลูกค้าไว้ก่อนนั้น เป็นการเจรจาในขั้นประนีประนอม เพื่อให้ลูกค้านำเงินมาจ่ายทางร้านในวันหลัง ซึ่งถ้าเจรจากันแล้วไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครเดือดร้อน ตนก็ยอม เพราะทุกคนคือลูกค้าของเรา
"ร้านนี้เปิดมา 5 เดือนแล้ว โดยตอนแรกนั้นเป็นร้านของเพื่อนผม แต่เขาไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ เลยเซ้งต่อให้ผม ซึ่งผมก็ทำมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว พอมาเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมก็ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ต้องปิดกิจการ เพราะเจ้าของตึกได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับผมไปแล้ว เพราะผมทำผิดสัญญา ที่ผ่านมาลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวก็ไม่เคยโวยวายหรือแจ้งความอย่างรายนี้เลย เคยมีบางคนมาใช้บริการหมดไปเกือบแสนก็ยังจ่าย เพราะเขามีกำลังทรัพย์ สำหรับเรื่องใบประกอบกิจการที่ทางร้านผมไม่มีนั้น ผมได้ทำเรื่องขอไปแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ จึงทำให้เกิดความล่าช้า" นายประเสริฐ กล่าว
ต่อมาเวลา 14.30 น.พล.ต.ท.พงศพัศ ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ พร้อมกับ นายประเสริฐ และ นายอภิเชษฐ์ ก็พบว่า ทางร้านได้ทำการขนย้ายข้าวของออกจากร้านไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงห้องเปล่าๆ ก่อนที่จะพากันเดินขึ้นไปในห้องคาราโอเกะวีไอพี ชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นห้องที่ ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใช้บริการในวันเกิดเหตุ ก็พบว่าถูกขนย้ายข้าวของออกไปแล้วเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีนี้ขอยกเป็นกรณีตัวอย่างที่ทางผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบ ซึ่งก็ไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ยังมีอีกหลายแห่งที่มีผู้ใช้บริการเจอแบบนี้ โดยกรณีที่มาเที่ยวสถานบริการแบบนี้แล้วถูกเรียกค่าบริการอย่างไม่ถูกต้อง หรือคิดราคาแพงเกินจริง ก็ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีได้เลย ถ้ามีเงินติดตัวก็ไม่ต้องจ่ายให้เข้ามาแจ้งความที่โรงพักเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากมีผู้เสียหายรายใดต้องการร้องเรียนก็ให้ร้องเรียนไปได้ที่ ตู้ ปณ.1234
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า สำหรับในส่วนของร้านราคาโอเกะที่เปิดโดยไม่มีใบอนุญาตนั้นถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายที่แพงเกินกว่าเหตุ ไม่ติดป้ายราคา ก็จะให้ทาง สคบ.เข้าตรวจสอบ และอยากจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการทุกท้องที่ ถ้าจะเปิดสถานบริการก็ต้องขอใบอนุญาตให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะเปิดบริการได้
เหยื่อโอเกะโหดโผล่อีก! นั่ง 4 ชม.โดนฟันหัวแบะ 47,000
ตร.ยังบ้อท่าเอาผิดโอเกะโหด-เหยื่อ นศ.โผล่เป็นพยาน ชี้กรรโชกทรัพย์
ตร.ประสาน สคบ.สอบคาราโอเกะหน้าเลือดโขก 3 ชม.3 หมื่น!
ร้านอาหารสุดโหด! นั่ง 3 ชั่วโมงเก็บตังค์ 3 หมื่น
