พ่อแม่พลทหาร รับไม่รู้สาเหตุลูกชายยิงโชเฟอร์แท็กซี่ดับ คาด อาจเครียดทะเลาะกับเพื่อนในกรมทหาร ไม่น่าเกี่ยวกับหาเงินแต่งงาน เพราะเจ้าตัวยังไม่มีแฟน ด้านผู้บังคับบัญชา เผย ผู้ก่อเหตุมีประพฤติกรรมดี ไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องติดยา ด้าน ตร.นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมรอผลตรวจปัสสาวะ หลังพบมีประวัติถูกจับคดียาเสพติด
จากกรณี พลทหาร กิตติเชษฐ์ แดงเนียม พลทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) กรมอากาศโยธิน ก่อเหตุขโมยปืน HK จากต้นสังกัดไปยิง นายชนะ ใสสะอาด อายุ 32 ปี โชเฟอร์แท็กซี่เสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 60 แยก 9 ก่อนชิงรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทว 4218 กทม.ของผู้ตายไปเพื่อเตรียมจะจี้ชิงทรัพย์ปั๊มแก๊ส ที่ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงและเขตสายไหม แต่เครื่องดับเสียก่อน จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (19 ต.ค.) นายโกมล แดงเนียม อายุ 42 ปี และนางทัศนีย์ แดงเนียม อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของ พลทหาร กิตติเชษฐ์ แดงเนียม เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่ สน.หัวหมาก โดย นางทัศนีย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายตนเคยมีงานทำ แต่ต่อมาเกิดติดยา สูบกัญชา พอออกจากงานก็เสพหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ลูกชายก็หาวิธีบำบัดด้วยตัวเองจนอาการดีขึ้น ก่อนจะเข้ามาสมัครเป็นทหารเกณฑ์ โดยปีแรกก็ปกติดี แต่พอมาระยะหลังลูกชายเริ่มบ่นว่าเครียด ทะเลาะกับเพื่อน มีปัญหากับเพื่อนและไม่อยากอยู่ในกรมทหารแล้ว
นางทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ลูกชายได้เข้ามาหาที่บ้าน เพื่อมาขอเงินไปตัดชุดเครื่องแบบ แต่ตนไม่มีเงิน จึงไม่ได้ให้เงินไป หลังจากนั้น นายทหารเวรก็โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชายหนีเวรออกมา จนกระทั่งมาทราบเรื่องที่ลูกชายมาก่อเหตุดังกล่าว ส่วนที่ลูกชายตนบอกว่าจะนำเงินมาแต่งงานนั้น ก็ไม่เห็นว่า ลูกชายเคยมีแฟนมาก่อน ตนจึงไม่รู้ว่าสาเหตุที่ลูกชายลงมือก่อเหตุในครั้งนี้มาจากเรื่องอะไร และตนคงไม่ยื่นประกันตัว ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใคร และถ้าครอบครัวผู้เสียชีวิตจะเรียกร้องเงินค่าเสียหายตนก็คงไม่มีให้
ด้าน ร.อ.วีรพัทร์ ภักดี ผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ พลทหาร กิตติเชษฐ์อยู่ในกรม ก็มีความประพฤติดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร เพราะเป็นคนเงียบขรึม แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าตัวเคยหนีออกจากกรมไปครั้งหนึ่ง อ้างว่า คิดถึงพ่อแม่ แต่ก็ไปตามตัวกลับมาได้ ส่วนเรื่องติดยานั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะช่วงที่ผ่านมามีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหารทุกนายต้องเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งไม่สามารถออกไปเสพยาข้างนอกได้
ต่อมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.เดินทางมา สน.หัวหมาก ก่อนเรียกประชุมพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผบก.น.4 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. โดยมีนายทหารรัฐธรรมนูญ ร่วมทำการสอบสวนผู้ต้องหาโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า พลทหาร กิตติเชษฐ์ ขโมยปืนพร้อมกระสุนและหนีออกมาจากค่ายทหารขณะเข้าเวร และได้ออกมาเรียกรถแท็กซี่ของผู้ตายให้มาส่งในซอยที่เกิดเหตุ ก่อนยิงคนขับรถแท็กซี่เสียชีวิตแล้วจึงขับรถหลบหนี แต่ระหว่างทางผู้ต้องหากลับขับรถไปชนกับรถแท็กซี่อีกคันหนึ่ง จนกระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสผ่านรายการวิทยุ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวไว้ได้ ซึ่งต้องขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส คดีนี้คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์โดยตั้งใจก่อเหตุชิงรถเพื่อจะไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ต่อที่ปั๊มแห่งหนึ่ง แต่โชคดีที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ก่อนที่จะไปก่อเหตุที่อื่น
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่า เคยถูกดำเนินคดีเสพยา และถูกจับในท้องที่ สน.หัวหมาก มาแล้ว แต่คดีนี้ผู้ต้องหาอ้างว่า ขณะก่อเหตุไม่ได้เมายาหรือมีอาการทางประสาท แต่ก่อเหตุเพื่อจะนำเงินที่ได้จากการปล้นไปแต่งงานกับคนรัก ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวไปตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจดูว่ามีสารเสพติดหรือไม่
“คดีนี้ไม่เกี่ยวกับกองทัพ ต้นสังกัด หรือเรื่องการเมือง เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ทหารคนหนึ่งทำผิดเพียงคนเดียวเท่านั้น หลังจากนี้จะตั้งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก กับ สน.สายไหม ทำงานร่วมกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่เกิดเหตุที่เชื่อมโยงกัน” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
ต่อมาเวลา 13.00 น.พ.ต.อ.วัฒนา ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานให้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้พบปลอกกระสุนปืนเพียง 3 ปลอก ยังเหลืออีก 2 ปลอก ที่ยังหาไม่พบ ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถค้นปลอกกระสุนปืนที่เหลือได้ครบทั้ง 2 ปลอก จากนั้นเวลา 17.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยตามจุดเกิดเหตุต่างๆ ต่อไป
รวบ “ไอ้เณร” รัว HK ดับโชเฟอร์แท็กซี่! ชิงรถปล้นปั๊ม
