หัวหน้ากองสอบสวนการรถไฟแห่งประเทศไทย ร้องกองปราบ ให้สอบสวนดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รถไฟที่ประท้วงหยุดเดินรถ โดยแนบซีดีเป็นหลักฐานมัดเอาผิด ขณะที่ตำรวจรับเรื่องไว้ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องหน้าเบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น.นายวิรัตน์ จันทรัตน์ หัวหน้ากองสอบสวน สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าพบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รถไฟ ที่ทำการหยุดเดินรถ ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนอย่างหนัก โดยนำหลักฐานเป็นซีดีบันทึกภาพขณะที่พนักงานก่อเหตุประท้วงหยุดเดินรถจำนวน 2 แผ่น มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย
นายวิรัตน์ กล่าวว่า เส้นทางสายใต้ที่เสียหายจากการหยุดงาน ได้แก่ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ทุ่งสง และ ปากน้ำโพธิ์ รวมยอดค่าเสียหายเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาทต่อวัน และนอกจากนี้ ทางบริษัทที่จ้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ขนส่งสินค้าจากภาคใต้มาส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะดำเนินการฟ้องร้องตามมา เนื่องจากสินค้าไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยจะถึงขั้นไล่ออกหรือไม่ คงต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม การที่กล่าวอ้างว่า หัวรถจักรอยู่ในสภาพที่ชำรุดนั้น ทางช่างเทคนิคของการรถไฟฯได้ออกมายืนยันแล้ว ว่า ยังอยู่ในสภาพใช้การได้ เพราะหัวรถจักรทางเส้นทางสายเหนือ สายอีสาน ยังวิ่งอยู่ ซึ่งเป็นข้องอ้างของพวกเขาเท่านั้น
“ขอให้เพื่อนๆ ที่ก่อเหตุหยุดเดินรถเข้ามาทำงานปกติเถิด เพราะขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก และภาพลักษณ์ของรถไฟเสีย เราพลอยเสียหายไปด้วย ที่ผ่านมา เราถูกตำหนิจากทั้งสื่อมวลชนและประชาชน ว่า นิ่งเฉยไม่ออกมาดำเนินการอะไรเลย ซึ่งขอบอกว่าทางการรถไฟฯมีกฏระเบียบวินัยอยู่ หากใครทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ” นายวิรัตน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ นายวิรัตน์ ไว้ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้รับมาพิจารณาการกระทำดังกล่าว ว่า เข้าข่ายความผิดใดบ้าง จากนั้นจะดำเนินการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบว่ามีใครเป็นผู้สั่งการ หรืออยู่เบื้องหลังการหยุดเดินรถ
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น.นายวิรัตน์ จันทรัตน์ หัวหน้ากองสอบสวน สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าพบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รถไฟ ที่ทำการหยุดเดินรถ ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนอย่างหนัก โดยนำหลักฐานเป็นซีดีบันทึกภาพขณะที่พนักงานก่อเหตุประท้วงหยุดเดินรถจำนวน 2 แผ่น มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย
นายวิรัตน์ กล่าวว่า เส้นทางสายใต้ที่เสียหายจากการหยุดงาน ได้แก่ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ทุ่งสง และ ปากน้ำโพธิ์ รวมยอดค่าเสียหายเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาทต่อวัน และนอกจากนี้ ทางบริษัทที่จ้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ขนส่งสินค้าจากภาคใต้มาส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะดำเนินการฟ้องร้องตามมา เนื่องจากสินค้าไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยจะถึงขั้นไล่ออกหรือไม่ คงต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม การที่กล่าวอ้างว่า หัวรถจักรอยู่ในสภาพที่ชำรุดนั้น ทางช่างเทคนิคของการรถไฟฯได้ออกมายืนยันแล้ว ว่า ยังอยู่ในสภาพใช้การได้ เพราะหัวรถจักรทางเส้นทางสายเหนือ สายอีสาน ยังวิ่งอยู่ ซึ่งเป็นข้องอ้างของพวกเขาเท่านั้น
“ขอให้เพื่อนๆ ที่ก่อเหตุหยุดเดินรถเข้ามาทำงานปกติเถิด เพราะขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก และภาพลักษณ์ของรถไฟเสีย เราพลอยเสียหายไปด้วย ที่ผ่านมา เราถูกตำหนิจากทั้งสื่อมวลชนและประชาชน ว่า นิ่งเฉยไม่ออกมาดำเนินการอะไรเลย ซึ่งขอบอกว่าทางการรถไฟฯมีกฏระเบียบวินัยอยู่ หากใครทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ” นายวิรัตน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ นายวิรัตน์ ไว้ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้รับมาพิจารณาการกระทำดังกล่าว ว่า เข้าข่ายความผิดใดบ้าง จากนั้นจะดำเนินการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบว่ามีใครเป็นผู้สั่งการ หรืออยู่เบื้องหลังการหยุดเดินรถ
