พ.ต.ต.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สารวัตรเม้าส์ อายุ 34 ปี เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2518 เป็นชาวกรุงเทพ ฯ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบูรพา ผ่านการอบรม หลักสูตรการอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจระดับสัญญาบัตร รุ่นที่ 18 พ.ศ.2543 หลักสูตรสารวัตรรุ่นที่ 93 ปี พ.ศ.2550 อบรมหลักสูตร FBI รุ่นที่ 233 ประเทศสหรัฐอเมริกา มี.ค.-มิ.ย. พ.ศ.2551 และอบรมหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย พ.ศ.2552
ชีวิตในวัยเด็ก...
สารวัตรเม้าส์ เล่าว่า เธอเติบโตในครอบครัวตำรวจ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของพล.ต.อ.คำรณ ลียะวณิช อดีตผู้ช่วยผบ.ตร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน พ่อ-แม่ พยายามตั้งชื่อให้ลูกๆ ให้เป็นมิคกี้เม้าส์ คนโตเป็นพี่สาวชื่อมิค คนกลางเป็นพี่ชายชื่อกี้ ส่วนเธอน้องนุชคนสุดท้องจึงได้ชื่อว่าเม้าส์
ในวัยเด็กเธอชื่นชอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ดูรายการสารคดี ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ และเป็นแฟนตัวยงของนิตยสารคดี จึงทำให้จุดประกายความฝันในวัยเด็ก คือ ต้องการเป็นนักบินอวกาศ หญิง ทำงานในองค์การนาซ่า ต่อมาเมื่อเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จึงเลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์ และเอ็นทรานซ์เข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
“การมีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่แล้วทำให้เราเหลิงหรือถูกตามใจจนนอกลู่นอกทางมั้ย ? ต้องขอบอกว่าไม่เลย เพราะคุณพ่อท่านเข้มงวดมาก มีระเบียบวินัยสูงตามแบบฉบับของตำรวจตระเวนชายแดน ลูกๆทุกคนจึงอยู่ในกรอบ มีระเบียบวินัย ซึ่งก็เป็นผลดีทำให้เราเป็นคนมีระบัยบวินัยจนถึงทุกวันนี้”
ก้าวแรกในการในการเข้าสู่รั้วปทุมวัน
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในตอนนั้นได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อ ให้มาสมัครเป็นข้าราชการตำรวจ ในสังกัดกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) โดยได้รับการบรรจุครั้งแรกในตำแหน่งรองสว.งาน 3 กก.4 พฐ. เมื่อ พ.ศ.2543 ก่อนย้ายไปเป็นรองสว.ฝอ.1 บก.อก.บช.ส. ก่อนติดยศพ.ต.ต.ในตำแหน่งสารวัตรฝ่ายการเงินและงบประมาณ ในหน่วยงานเดียวกันเมื่อปีพ.ศ. 2550
ได้รับเลือกเป็นรองโฆษกตร.หญิง
พ.ต.ต.หญิงฉันฉาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับพิจารณาจากผู้ใหญ่ ให้ส่งประวัติส่วนตัวไปให้ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังหาเฟ้นหา รองโฆษกตร.ผู้หญิง 1 คน เพื่อขึ้นมาทำหน้าที่อยู่ในทีมโฆษกตร.ซึ่งในตอนนั้นรู้สึกว่า ตนเป็นเพียงแคนดิเดตคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้รับการคัดเลือก
“ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้รับการคัดเลือก หลังจากนั้นได้ทราบว่าได้รับการพิจารณาเลือกให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ ก็รู้สึกีดใจและภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นความกรุณาของผู้ใหญ่หลายท่าน ที่ให้โอกาส และคิดว่าเราน่าจะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้”
พ.ต.ต.หญิงฉันฉาย กล่าวว่า แรกๆจะมีความตื่นเต้น แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ไม่กดดันเลย เพราะได้รับเสียงตอบรับและกำลังใจที่ดีจากพื่อนๆสื่อมวลชน ทำให้รู้สึกอบอุ่น และมีกำลังใจในการทำงานในหน้าที่นี้ และมองว่าการที่ให้ผู้หญิงมาทำหน้าที่โฆษกตร.แสดงให้เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญให้โอกาสกับผู้หญิงได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะผู้หญิงก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม การที่มีรองโฆษกตร.ที่เป็นผู้หญิงจะทำให้การสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆไปยังผู้หญิงสามารถทำได้ดีขึ้น
เป็นหญิงไทยคนที่ 3 ที่เข้าอบรมเอฟบีไอ
นอกจากนี้จากการที่เธอเคยได้รับเลือกให้เข้าอบรมหลักสูตรเอฟบีไอ รุ่นที่ 233 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มี.ค.-มิ.ย. พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกให้เข้าอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เธอเล่าว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการคัดเลือก เพราะจากการที่เธอทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยโดยตลอด ทำให้มีโอกาสได้รับการพิจารณา
“ความรู้ที่ได้รับตรงนี้เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่รองโฆษก เป็นอย่างมาก เพราะมีการอบรมเกี่ยวกับการพูดในที่สาธารณะ ความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนกับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหากตำรวจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชน ก็จะทำให้งานของตำรวจ แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ก็สามารถสำเร็จได้โดยง่าย อย่างกรณี นายเสนอ วงษ์กวน ซึ่งเป็นคนไทย ก่อเหตุฆ่าภรรยาที่สหรัฐอเมริกา ก่อนหนีมากบดานอยู่ในประเทศไทยถึง 12 ปี พล.ต.อ.อิสระพันธ์ รองผบ.ตร. ในขณะนั้น ได้ประสานเอารูปผู้ต้องหารายนี้ไปออกโทรทัศน์ ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถจับกุมตัวได้ ทั้งที่ติดตามตัวมา 12 ปี”
พ.ต.ต.หญิง ฉันฉาย กล่าวว่า ตำรวจเองต้องช่วยสื่อมวลชน ให้ข้อมูลที่เขาต้องการ ขณะเดียวกัน เมื่อถึงคราวตำรวจต้องการความช่วยเหลือ สื่อมวลชนก็จะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ มองว่าการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ทำงานตั้งรับแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการทำงานเชิงรุก มีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชนควบคู่ไปด้วย ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับองค์กรและประชาชน
ชีวิตครอบครัว เป็นคุณแม่ของลูกสามคน
ปัจจุบันเธอไม่ใช่สาวโสด แต่ได้สมรสกับ นาวาอากาศโทดนุภพ รัตนพานิช ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบแต่งงานครบ 7 ปี นอกจากนี้ยังมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกันถึง 3 คน คนเป็นลูกสาวอายุ 6 ขวบ คนกลางเป็นลูกสาวอายุ 5 ขวบ และลูกชายคนเล็กอายุ 2 ขวบ ในบทบาทของความเป็นแม่ พยายามให้ความรักความอบอุ่น พยายามให้เวลากับลูกมากที่สุด ณ ขณะนี้หวังให้เขาเติบโตสมวัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งกายและจิตใจ
"ความฝันในวัยเด็กก็เป็นความฝันที่เกินเอื้อม แต่ ณ ปัจจุบันก็มีความภูมิใจ ไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เป็นอยู่ และต้องทำหน้าที่ให้ดีสุด"
ชีวิตในวัยเด็ก...
สารวัตรเม้าส์ เล่าว่า เธอเติบโตในครอบครัวตำรวจ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของพล.ต.อ.คำรณ ลียะวณิช อดีตผู้ช่วยผบ.ตร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน พ่อ-แม่ พยายามตั้งชื่อให้ลูกๆ ให้เป็นมิคกี้เม้าส์ คนโตเป็นพี่สาวชื่อมิค คนกลางเป็นพี่ชายชื่อกี้ ส่วนเธอน้องนุชคนสุดท้องจึงได้ชื่อว่าเม้าส์
ในวัยเด็กเธอชื่นชอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ดูรายการสารคดี ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ และเป็นแฟนตัวยงของนิตยสารคดี จึงทำให้จุดประกายความฝันในวัยเด็ก คือ ต้องการเป็นนักบินอวกาศ หญิง ทำงานในองค์การนาซ่า ต่อมาเมื่อเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จึงเลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์ และเอ็นทรานซ์เข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
“การมีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่แล้วทำให้เราเหลิงหรือถูกตามใจจนนอกลู่นอกทางมั้ย ? ต้องขอบอกว่าไม่เลย เพราะคุณพ่อท่านเข้มงวดมาก มีระเบียบวินัยสูงตามแบบฉบับของตำรวจตระเวนชายแดน ลูกๆทุกคนจึงอยู่ในกรอบ มีระเบียบวินัย ซึ่งก็เป็นผลดีทำให้เราเป็นคนมีระบัยบวินัยจนถึงทุกวันนี้”
ก้าวแรกในการในการเข้าสู่รั้วปทุมวัน
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในตอนนั้นได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อ ให้มาสมัครเป็นข้าราชการตำรวจ ในสังกัดกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) โดยได้รับการบรรจุครั้งแรกในตำแหน่งรองสว.งาน 3 กก.4 พฐ. เมื่อ พ.ศ.2543 ก่อนย้ายไปเป็นรองสว.ฝอ.1 บก.อก.บช.ส. ก่อนติดยศพ.ต.ต.ในตำแหน่งสารวัตรฝ่ายการเงินและงบประมาณ ในหน่วยงานเดียวกันเมื่อปีพ.ศ. 2550
ได้รับเลือกเป็นรองโฆษกตร.หญิง
พ.ต.ต.หญิงฉันฉาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับพิจารณาจากผู้ใหญ่ ให้ส่งประวัติส่วนตัวไปให้ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังหาเฟ้นหา รองโฆษกตร.ผู้หญิง 1 คน เพื่อขึ้นมาทำหน้าที่อยู่ในทีมโฆษกตร.ซึ่งในตอนนั้นรู้สึกว่า ตนเป็นเพียงแคนดิเดตคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้รับการคัดเลือก
“ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้รับการคัดเลือก หลังจากนั้นได้ทราบว่าได้รับการพิจารณาเลือกให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ ก็รู้สึกีดใจและภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นความกรุณาของผู้ใหญ่หลายท่าน ที่ให้โอกาส และคิดว่าเราน่าจะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้”
พ.ต.ต.หญิงฉันฉาย กล่าวว่า แรกๆจะมีความตื่นเต้น แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ไม่กดดันเลย เพราะได้รับเสียงตอบรับและกำลังใจที่ดีจากพื่อนๆสื่อมวลชน ทำให้รู้สึกอบอุ่น และมีกำลังใจในการทำงานในหน้าที่นี้ และมองว่าการที่ให้ผู้หญิงมาทำหน้าที่โฆษกตร.แสดงให้เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญให้โอกาสกับผู้หญิงได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะผู้หญิงก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม การที่มีรองโฆษกตร.ที่เป็นผู้หญิงจะทำให้การสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆไปยังผู้หญิงสามารถทำได้ดีขึ้น
เป็นหญิงไทยคนที่ 3 ที่เข้าอบรมเอฟบีไอ
นอกจากนี้จากการที่เธอเคยได้รับเลือกให้เข้าอบรมหลักสูตรเอฟบีไอ รุ่นที่ 233 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มี.ค.-มิ.ย. พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกให้เข้าอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เธอเล่าว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการคัดเลือก เพราะจากการที่เธอทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยโดยตลอด ทำให้มีโอกาสได้รับการพิจารณา
“ความรู้ที่ได้รับตรงนี้เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่รองโฆษก เป็นอย่างมาก เพราะมีการอบรมเกี่ยวกับการพูดในที่สาธารณะ ความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนกับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหากตำรวจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชน ก็จะทำให้งานของตำรวจ แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ก็สามารถสำเร็จได้โดยง่าย อย่างกรณี นายเสนอ วงษ์กวน ซึ่งเป็นคนไทย ก่อเหตุฆ่าภรรยาที่สหรัฐอเมริกา ก่อนหนีมากบดานอยู่ในประเทศไทยถึง 12 ปี พล.ต.อ.อิสระพันธ์ รองผบ.ตร. ในขณะนั้น ได้ประสานเอารูปผู้ต้องหารายนี้ไปออกโทรทัศน์ ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถจับกุมตัวได้ ทั้งที่ติดตามตัวมา 12 ปี”
พ.ต.ต.หญิง ฉันฉาย กล่าวว่า ตำรวจเองต้องช่วยสื่อมวลชน ให้ข้อมูลที่เขาต้องการ ขณะเดียวกัน เมื่อถึงคราวตำรวจต้องการความช่วยเหลือ สื่อมวลชนก็จะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ มองว่าการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ทำงานตั้งรับแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการทำงานเชิงรุก มีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชนควบคู่ไปด้วย ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับองค์กรและประชาชน
ชีวิตครอบครัว เป็นคุณแม่ของลูกสามคน
ปัจจุบันเธอไม่ใช่สาวโสด แต่ได้สมรสกับ นาวาอากาศโทดนุภพ รัตนพานิช ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบแต่งงานครบ 7 ปี นอกจากนี้ยังมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกันถึง 3 คน คนเป็นลูกสาวอายุ 6 ขวบ คนกลางเป็นลูกสาวอายุ 5 ขวบ และลูกชายคนเล็กอายุ 2 ขวบ ในบทบาทของความเป็นแม่ พยายามให้ความรักความอบอุ่น พยายามให้เวลากับลูกมากที่สุด ณ ขณะนี้หวังให้เขาเติบโตสมวัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งกายและจิตใจ
"ความฝันในวัยเด็กก็เป็นความฝันที่เกินเอื้อม แต่ ณ ปัจจุบันก็มีความภูมิใจ ไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เป็นอยู่ และต้องทำหน้าที่ให้ดีสุด"