รับศพ "เด็กออทิสติก" ถูกไฟคลอกตาย

พี่สาวหลั่งน้ำตารับศพ "น้องหลง" เด็กออทิสติก วัย 13 ขวบ ที่ถูกไฟคลอกเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้บ้าน เผยชีวิตเศร้าอยู่กัน 4 พี่น้อง หลังพ่อตาย แม่ติดคุกคดียาบ้า ชาวบ้านชุมชนเย็นอากาศ สมทบทุนช่วยเหลือ

วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีเด็กชายพิการทางสมอง อายุ 13 ปี เสียชีวิตจากการถูกเพลิงไหม้ เมื่อกลางดึกวานนี้ (14 ต.ค.) โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ก่อนได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วานนี้ (14 ต.ค.) ร.ต.ท.จักรพันธุ์ เหมือนแก้ว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนเย็นอากาศ 2 ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงอยู่ประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ บ้านต้นเพลิงก็ได้รับความเสียหายเพียงบ้านหลังเดียว ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็น เพิงไม้ขนาด 4 คูณ 3 เมตร เท่านั้น

พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยกันอยู่ 4 คนพี่น้อง เป็น หญิง 2 ชาย 2 โดยผู้ชายทั้ง 2 คน มีลักษณะพิการซ้ำซ้อน และขณะเกิดเหตุอยู่บ้านกันเพียง 2 คน ส่วนพี่สาวกำลังออกไปซื้อขนมมาให้กิน แลช่วงเกิดเหตุนั้น พี่ชายคนที่ 2 ที่พิการตาบอด และเป็นออทิสติก ได้มีชาวบ้านช่วยกันออกมาแล้ว ส่วน ด.ช.ไชยา หรือน้องหลง อ่อนจันทร์ น้องคนเล็กที่เป็นออทิสติกนั้นหวาดกลัววิ่งเข้าห้องน้ำแล้วล็อกประตู จนได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวก ซึ่งหลังจากนั้นชาวบ้านและพี่สาวได้ช่วยกันออกมาแล้ว แต่ได้น้องหลงรับบาดเจ็บสาหัส ก่อนนำตัวนำส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อรักษาตัวแล้ว แต่มาทราบจากญาติว่าเสียชีวิตในภายหลัง

ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวก็รู้สึกสงสาร เพราะอยู่กัน 4 คนพี่น้อง พ่อก็เสียชีวิต ส่วนแม่ก็มาถูกจับข้อหาค้ายาบ้า 1,400 เม็ด เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องว่ากันไปตามคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาตรวจพิสูจน์แล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ คงต้องรอผลพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดระหว่างประมาท หรืออุบัติเหตุ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น คิดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุมากกว่า เพราะบ้านหลังดังกล่าวมีขนาดเล็ก และมีเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่กี่ชิ้น อีกทั้งเป็นห้องเล็กมาก แค่นอนกัน 4 คนก็เต็มแล้ว ทำให้ไม่มีห้องครัว

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็พบ น.ส.วาสนา หรือนุ้ย อ่อนจันทร์ อายุ 27 ปี พี่สาวคนโต เดินทางมารับศพน้องหลง ผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าตัวยังอยู่ในอาการเศร้าโศก ร้องไห้ตลอดเวลา ก่อนจะเปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่กันมาตั้งแต่เกิด โดยปัจจุบันอยู่กัน 4 คนพี่น้อง ตนเป็นคนโต ส่วนคนที่ 2 เป็นผู้ชาย ชื่อนายพรเทพ หรือแกะ อ่อนจันทร์ อายุ 22 ปี พิการซ้ำซ้อน ตาบอด และมีอาการออทิสติกด้วย ส่วนน้องคนที่ 3 เป็นหญิง ชื่อน.ส.วิชุดา หรือแน็ต อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ปวช.วิทยาลัย เอี่ยมละออ คนสุดท้องก็คือ น้องหลง อายุ 13 ปี พ่อเสียชีวิตไป 8 ปีก่อนจากโรคมะเร็งลำไส้ ส่วนแม่ถูกจับคดียาบ้าเมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้พวกตนต้องอยู่กันตามลำพัง

น.ส.วาสนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ก็อยู่กันอย่างไม่เดือดร้อน เพราะพ่อทำงานบริษัท เอสโซ่ แต่ตั้งแต่พ่อเสียชีวิต ตนก็ต้องรับภาระหาเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด เนื่องจากแม่ป่วยเป็นโรคตับแข็งและไบไวรัส มีอาการผอม แต่ท้องกับขาบวม ต้องคอยพาไปหาหมอตลอด เลยให้อยู่ดูน้องพิการทั้ง 2 คน ส่วนตนก็ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย โดยทำงานเป็นช่างเพนต์เล็บที่ร้านโยเนา ย่าน ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท เพื่อหาเลี้ยงงครอบครัว และเรียนศึกษาที่ราชภัฎสวนสุนันทา โดยทำแบบนั้นมา 2 ปีก็เริ่มไม่ไหว เพราะต้องส่งน้องเรียน 2 คน คือน้องแน็ต เรียนวิทยาลัยเอี่ยมละออ ส่วนน้องหลงก็เรียนประถม ซึ่งตอนนี้จบชั้น ป.6 แล้ว แต่ไม่มีเงินส่งเรียนต่อได้

น.ส.วาสนา กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา ตนกลับมาจากทำธุระกับเพื่อน ได้สักพักน้องสาวตนก็อยากกินน้ำอัดลม ตนจึงเดินออกไปซื้อมาให้ จากนั้นน้องหลงก็ร้องอยากกินไส้กรอกอีก ตนจึงเดินออกไปซื้อให้ที่หน้าปากซอย ระหว่างนั้นก็ได้มีคนวิ่งมาบอกว่าบ้านไฟไหม้จึงวิ่งกลับมา ก็พบว่าน้องสาวคนที่ 3 ได้นำตัวน้องชายคนที่ 2 ที่พิการตาบอดออกมาแล้ว แต่น้องหลง คนเล็กที่พิการเป็นออทิสติกยังไม่สามารถออกมาได้

“นึกขึ้นได้ว่าเวลาน้องหลงตกใจหรือกลัวอะไรก็จะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแ ล้วล็อกประตู ก็เลยไปหยิบค้อนปอนด์วิ่งเข้าไปทุบกำแพงห้องน้ำจากด้านนอกจนทะลุเป็นรูโหว่ จนเจอน้องหลงอยู่ในสภาพหัวทิ่มอยู่ในอ่างน้ำ แต่ก็ไม่สามารถเอาตัวออกมาทางช่องที่ทุบได้ ชาวบ้านจึงช่วยกันเข้าไปนำตัวออกมา จากนั้นจึงวิ่งพาน้องออกมาที่ถนนใหญ่ เรียกให้รถกระบะที่ผ่านมาช่วยพาส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ หมอก็พยายามปั๊มหัวใจขึ้นมา 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตน้องชายเอาไว้ได้” น.ส.วาสนา กล่าว

น.ส.วาสนา กล่าวด้วยว่า ปกติเวลาตนและน้องสาวอีกคนออกไปเรียน ก็จะมีป้ามาช่วยดูน้องชายที่พิการทั้ง 2 คน โดยป้าตนพักอยู่ที่ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ ตอนเช้าป้าต้องออกมาทำงานกวาดขยะที่ย่านอ่อนนุชทุกวัน พอเที่ยงป้าก็จะมาช่วยดูน้องให้ เมื่อตนกลับจากเรียน ป้าจึงก็จะกลับบ้านที่พระประแดง เป็นอย่างนี้อยู่ประจำ

“น้องหลงเองก็จะคอยช่วยเหลือเช็ดก้นพี่ชายที่ตาบอดและเป็นออทิสติก และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็พาน้องหลงไปเยี่ยมแม่ที่เรือนจำ น้องหลงยังถามแม่ว่าเป็นไงบ้าง หลงรักแม่ แม่ก็ตอบว่าสบายดี แม่ก็รักหลงเหมือนกัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ หลังจากนี้จะนำศพน้องหลงไปบำเพ็ญกุศลที่วัดช่องลม เป็นเวลา 2 วัน แล้วจะทำพิธีเผาเลย เนื่องจากเงินไม่ค่อยมี” น.ส.วาสนา กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังเกิดเหตุได้มีชาวบ้านภายในชุมชนเย็นอากาศ ขับรถประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในชุมชนระวังเรื่องไฟไหม้ และช่วยกันหาเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของน้องหลงด้วย โดยบรรยากาศภายในชุมชนก็เป็นที่น่าสลด เพราะชาวบ้านต่างเกิดความสงสารครอบครัวดังกล่าวที่ต้องมาประสบปัญหาที่รุนแรง และกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก

เพลิงไหม้ชุมชนเย็นอากาศ 2 คลอกเด็กออทิสติกดับอนาถ