พฐ.เผยได้รับหัวกระสุนที่พบในศพหญิงนิรนามเสียชีวิตในพื้นที่ปทุมธานี 2 หัวมาตรวจพิสูจน์แล้ว คาดน่าจะเป็นกระสุนปืนลูกโม่ .38 ส่วนหัวกระสุนในศพเด็กชายถูกฆ่าหั่น ต้องให้ รพ.ศิริราช ชันสูตรศพก่อน จึงจะส่งมาเปรียบเทียบต่อไป คาดต้องใช้เวลา 5 วันรู้ผลเปรียบเทียบหัวกระสุนว่าตรงกันหรือไม่
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผบก.พฐก.กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่พบในศพหญิงนิรนามที่เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี กับศพเด็กชายอายุ 4-5 ขวบ ที่ถูกฆ่าหั่นแยกชิ้นส่วน พบในพื้นที่ สน.ตลิ่งชันว่า ขณะนี้ สภ.ลาดหลุมแก้วได้ส่งหัวกระสุนที่พบบนศพหญิงนิรนามมาตรวจจำนวน 2 หัว อยู่ในระหว่างการตรวจสอบด้วยกล้องตรวจกระสุน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนลูกโม่ขนาด .38 ส่วนหัวกระสุนที่พบในศพเด็กชายอายุ 4-5 ขวบนั้นยังอยู่กับแพทย์โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากต้องชันสูตรศพก่อน แต่มีการประสานมายังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง แล้วว่าจะส่งมาตรวจสอบเปรียบเทียบว่าเป็นหัวกระสุนชนิดเดียวกัน หรือมาจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ คาดว่าจะส่งมาถึงในช่วงเย็นวันนี้
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า สำหรับการตรวจเปรียบเทียบยืนยันหัวกระสุนทั้งสองที่ว่าตรงกันหรือไม่นั้น ต้องรอขั้นตอนการตรวจอย่างน้อยประมาณ 5 วัน เนื่องจากหัวกระสุนนั้น ตรวจสอบยากกว่าส่วนปลอกกระสุน ต้องดูสภาพหัวกระสุนที่ได้มาก่อนว่ามีสภาพอย่างไร ถ้าหากหัวกระสุนมีความสมบูรณ์ก็จะมีร่องรอยชัดเจน แต่ถ้าบี้แบนก็จะตรวจสอบยากต้องใช้เวลา ส่วนการตรวจก็จะใช้กล้องสำหรับตรวจกระสุนส่องเปรียบเทียบจากลักษณะการสับเกลียวของปืนที่ใช้ว่ามีลักษณะเหมือนกัน และทิศทางเดียวกันหรือไม่ ส่วนชนิดของหัวกระสุนนั้นภายในพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) ก็น่าจะสามารถตรวจยืนยันได้ว่าเป็นขนาดใด และปืนชนิดใด
ทั้งนี้ การฆ่าโหดสาวนิรนามทิ้งศพริมถนนวงแหวนตะวันตก เขต อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และมีคนพบศพเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาวนิรนามคนดังกล่าวโดนจ่อยิง 4 นัดที่หน้าอกทะลุหลังและลำคอ ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ลักษณะการแต่งตัวของผู้ตายที่สวมใส่กางเกงยีนส์ยี่ห้อลีวายส์ รุ่นเลดีส์ สตาร์ ราคาตัวละสี่พันบาท ส่วนข้อมือคาดว่าจะผูกนาฬิกามียี่ห้อ แต่ถูกถอดออกไป และที่ใบหูทั้งสองข้างคาดว่าใส่ต่างหูที่มีราคาเช่นกันก็ถูกถอดออกไป อีกทั้งไม่สามารถระบุลงไปได้ว่าผู้ตายจะเป็นชาวต่างชาติหรือไม่
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผบก.พฐก.กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่พบในศพหญิงนิรนามที่เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี กับศพเด็กชายอายุ 4-5 ขวบ ที่ถูกฆ่าหั่นแยกชิ้นส่วน พบในพื้นที่ สน.ตลิ่งชันว่า ขณะนี้ สภ.ลาดหลุมแก้วได้ส่งหัวกระสุนที่พบบนศพหญิงนิรนามมาตรวจจำนวน 2 หัว อยู่ในระหว่างการตรวจสอบด้วยกล้องตรวจกระสุน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนลูกโม่ขนาด .38 ส่วนหัวกระสุนที่พบในศพเด็กชายอายุ 4-5 ขวบนั้นยังอยู่กับแพทย์โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากต้องชันสูตรศพก่อน แต่มีการประสานมายังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง แล้วว่าจะส่งมาตรวจสอบเปรียบเทียบว่าเป็นหัวกระสุนชนิดเดียวกัน หรือมาจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ คาดว่าจะส่งมาถึงในช่วงเย็นวันนี้
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า สำหรับการตรวจเปรียบเทียบยืนยันหัวกระสุนทั้งสองที่ว่าตรงกันหรือไม่นั้น ต้องรอขั้นตอนการตรวจอย่างน้อยประมาณ 5 วัน เนื่องจากหัวกระสุนนั้น ตรวจสอบยากกว่าส่วนปลอกกระสุน ต้องดูสภาพหัวกระสุนที่ได้มาก่อนว่ามีสภาพอย่างไร ถ้าหากหัวกระสุนมีความสมบูรณ์ก็จะมีร่องรอยชัดเจน แต่ถ้าบี้แบนก็จะตรวจสอบยากต้องใช้เวลา ส่วนการตรวจก็จะใช้กล้องสำหรับตรวจกระสุนส่องเปรียบเทียบจากลักษณะการสับเกลียวของปืนที่ใช้ว่ามีลักษณะเหมือนกัน และทิศทางเดียวกันหรือไม่ ส่วนชนิดของหัวกระสุนนั้นภายในพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) ก็น่าจะสามารถตรวจยืนยันได้ว่าเป็นขนาดใด และปืนชนิดใด
ทั้งนี้ การฆ่าโหดสาวนิรนามทิ้งศพริมถนนวงแหวนตะวันตก เขต อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และมีคนพบศพเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาวนิรนามคนดังกล่าวโดนจ่อยิง 4 นัดที่หน้าอกทะลุหลังและลำคอ ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ลักษณะการแต่งตัวของผู้ตายที่สวมใส่กางเกงยีนส์ยี่ห้อลีวายส์ รุ่นเลดีส์ สตาร์ ราคาตัวละสี่พันบาท ส่วนข้อมือคาดว่าจะผูกนาฬิกามียี่ห้อ แต่ถูกถอดออกไป และที่ใบหูทั้งสองข้างคาดว่าใส่ต่างหูที่มีราคาเช่นกันก็ถูกถอดออกไป อีกทั้งไม่สามารถระบุลงไปได้ว่าผู้ตายจะเป็นชาวต่างชาติหรือไม่