xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยรับเหมาร้อง ป.ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มเรียกค่าไถ่ 5 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เสี่ยรับเหมาและซื้อขายรถยนต์มือสองร้องตำรวจกองปราบฯ ถูกชายฉกรรจ์อุ้มไปขังในเซฟเฮาส์พร้อมแฟนสาวแล้วรีดทรัพย์ แต่ได้ยินแก๊งคนร้ายเรียกขานกันเองเป็นผู้กองบ้าง สารวัตรบ้าง แจ้งตำรวจท้องที่แล้วแต่เรื่องไม่คืบ

วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. นายสุชาติ ปึงสุวรรณ อายุ 32 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง และขายรถยนต์มือสอง อยู่บ้านเลขที่ 1116/1 ถนนริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. พร้อมด้วย น.ส.อัจฉราพรรณ พิกุลขาว อายุ 23 ปี แฟนสาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 รายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ บช.ปส.อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่

นายสุชาติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น.ระหว่างที่ตนกับแฟนสาวเดินลงมาจากอพารต์เมนต์ในซอยฉลองกรุง 12 แขวงลำปะทิว เขตลาดกระบัง กทม.จะไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีเขียว ทะเบียน 2ศ 0891 กทม.ซึ่งเพิ่งซื้อมาจากเต็นท์รถยนต์มือสองย่านถนนวัชรพล ในราคา 150,000 บาท เพื่อนำมาขายทำกำไรในราคา 180,000 บาท ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินตรงเข้ามาหาตนพร้อมกับล็อกตัวไว้และใช้อาวุธปืนจี้ที่ศีรษะ พร้อมทั้งสั่งห้ามขัดขืนและไม่ให้ถามอะไรมาก จากนั้นคนร้ายได้ใช้ผ้าคลุมศีรษะตนเอาไว้ ส่วนแฟนสาวก็ถูกจับตัวไว้พร้อมกับใช้ผ้าปิดตา ก่อนทั้งหมดจะพาขึ้นไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องพัก นอกจากนี้ได้ค้นตัวและเอาทรัพย์สินของตนไปด้วย

นายสุชาติกล่าวต่อว่า เมื่อคนร้ายทั้งหมดได้ทรัพย์สินไปแล้วก็นำตนกับแฟนสาวขึ้นรถยนต์ขับออกไป แม้ว่าตนจะพยายามสอบถามว่าจะพาไปไหน ทั้งหมดก็ไม่ยอมบอก โดยระหว่างที่ถูกจับตัวขังไว้ในบ้านพักหลังหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าเป็นที่ใด ตนได้ยินเสียงเรือแล่นผ่านน่าจะอยู่ใกล้กับคลอง ต่อมาคนร้ายได้บอกว่าถ้าไม่อยากตายก็ให้คนหาเงินมาเป็นค่าไถ่จำนวน 500,000 บาท ซึ่งตนบอกไปว่าไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น คนร้ายจึงลดลงเหลือ 200,000 บาท แต่ตนต่อรองไปว่าหากเหลือสัก 20,000 บาทก็พอหาได้ หากมากกว่านั้นคงไม่มีให้ จากนั้นคนร้ายก็ถามว่ายิงปืนเป็นหรือไม่ ตนก็ตอบว่าไม่เป็น ระหว่างนั้นคนร้ายได้เรียกชื่อเพื่อนๆ ในกลุ่มโดยใช้คำนำหน้าว่าผู้กองบ้าง หรือสารวัตรบ้าง และจะยัดข้อหาพกพาอาวุธปืน ส่วนอีกคนจะยัดยาเสพติด ตนจึงบอกว่าจะทำอะไรกับตนก็ได้แต่ขอให้ปล่อยตัวแฟนสาวไป ซึ่งคนร้ายก็อ้างว่าหากไม่หาเงินมาให้จะเรียงคิวข่มขืนแฟนสาวตนอีกด้วย

“ผมบอกกับพวกเขาว่าอย่าทำอะไรแฟนผมเลย หากจะทำก็ทำกับผม สักพักหนึ่งพวกเขาก็เงียบไป จากนั้นก็มาถามรหัสบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบของผม ซึ่งบอกรหัสถูก 1 ใบ แต่อีกใบบอกผิด ต่อมาคนร้ายจึงนำบัตรเอทีเอ็มไปถอนเงินออกจากตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อย่านอ่อนนุช กทม. เป็นจำนวน 20,000 บาท วันต่อมาเขาได้เอาถุงพลาสติกคลุมหัวไว้จนหายใจไม่ค่อยออกแล้วก็จับแก้ผ้าจะเอาเครื่องช็อตไฟฟ้าเปิดเครื่องให้มีเสียงขู่เหมือนว่าจะช็อตใส่ แต่หลังจากพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานา จนคิดว่าถึงอย่างไรก็คงไม่ได้เงินจากผมแล้วเขาจึงยอมปล่อยตัวผมกับแฟนสาว โดยนำมาทิ้งไว้ที่ย่านธัญบุรี จ.ปทุมธานี ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 1 กันยายน แล้วเรียกแท็กซี่ให้ตนกับแฟน นอกจากนี้ คนร้ายได้ให้เงินตนจำนวน 1,000 บาทเป็นค่ารถอีกด้วย” นายสุชาติกล่าว

นายสุชาติกล่าวอีกว่า ขณะกำลังขึ้นรถแท็กซี่ตนพยายามมองทะเบียนรถคนร้ายแต่ไม่เห็นเพราะตามีอาการพร่าเนื่องจากโดนปิดตามา 2 วัน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ยังมืดอยู่ พอตนกลับที่ห้องพักก็พบว่าทรัพย์สินต่างๆ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง พระเครื่องเลี่ยมทอง ตะกรุดเลี่ยมทอง จี้ทองคำ กำไรนาค โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง เกมเพลย์สเตชัน ลำโพง รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีเขียว ทะเบียน 2 ศ 0891 กทม.พร้อมทะเบียนโอนลอย และคู่มือรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีกคันสูญหายไป รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 225,900 บาท ตนกับแฟนสาวจึงพากันเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ฉลองกรุง เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนจึงมาร้องทุกข์ที่ บก.ป.เพื่อให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ได้ไปขอตรวจสอบการถอนเงินจากเอทีเอ็มของตนจึงพบว่าคนร้ายไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว โดยตนได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านนี้เพื่อดูรูปพรรณของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน

รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางมายังกองปราบปราม
Latitude: 13.818707 Longitude: 100.566273


เข้าแจ้งความร้องทุกข์
เล่าเหตุการณ์ระทึกให้พนักงานสอบสวน
ภาพหนึ่งในคนร้ายที่กล้องจากร้านสะดวกซื้อจับไว้ได้

กำลังโหลดความคิดเห็น