รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ชัดติดใจการแถลงข่าวการจับกุมของตำรวจ ร่วมแถลงผลงานจับกุมยาบ้า 4 แสนเม็ด และยาไอซือีก 17 กก.มีบิ๊ก ตร.ร่วงแถลงกันพรึบ
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในภาคกลาง มีผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญศรี บุญสม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที 5 ม.2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายอุดม อินทร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย น.ส.สุวารีย์ ปันวารี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/110 ม.2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา และนายเสน่ห์ แซ่ลี้ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/1 ม.8 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ยาบ้า 430,000 เม็ด และ ยาไอซ์ 18 กก.หากแพร่กระจายไปจะมีมูลค่าถึง 190 ล้านบาท
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.จับกุม เครือขายยาบ้ารายใหญ่ในภาคกลาง ที่มี นายมานะ หรือ นะ อภิเรืองฤทธิ์ ชาวเกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นหัวหน้า จำนวน 1.7 ล้านเม็ด เมื่อเดือน ส.ค.2551 ที่ผ่านมา เมื่อขยายผลไป พบว่า มีกลุ่มของนายบุญศรี แบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยนายบุญศรี และนายอุดม จะเป็นคนติดต่อยาเสพติดมาจากชาวไทยใหญ่ทางชายแดน จ.เชียงราย ซึงมีแม่น้ำขนาดเล็กกั้นพรมแดน จำนวน 4 แสนเม็ด ก่อนลำเลียงยามาทางรถยนต์มาพักยาไว้ที่โรงแรมสุภาพ ย่านสะพานควาย โดยมี น.ส.สุวารีย์ เป็นผู้ดำเนินการ
จากนั้นจะนัดให้ นายเสน่ห์ ผู้ต้องหาที่ 4 ที่ ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สะกดรอยอย่างใกล้ชิด พบว่า นายเสน่ห์ เตรียมขนยาซึ่งเป็นของกลางทั้งหมดไปให้สายลับที่ห้างโลตัส พระราม 2 เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลาวบยาบ้าทั้ง 4 แสนเม็ด และยาไอซ์อีก 18 กก.จากนั้นเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 210 ตึก 10 โครงการพาร์คแลนด์ ถ.บางนาตราด แขวงและเขตบางนา ของนายเสน่ห์ พบยาบ้าอีก 30,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่
ด้าน นายบุญศรี เจ้าหน้าที่จับกุมได้หน้าบ้านเลขที่ 118/1 ซ.มหาวิทยาลัยหอการค้า แขวงและเขตดินแดง และประสานหน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิ จับกุมนายอุดมและน.ส.สุวารีย์ ขณะกำลังเดินทางกลับภาคเหนือ ได้ที่อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายมานะ ขณะนี้ยังหลบหนี หากใครพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ บช.ปส. สายด่วน 1688
ด้าน นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผลงานของ ตำรวจ บช.ปส.และพิสูจน์ได้ว่าแม้ไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถทำงานได้ตามปกติ เพราะเป็นตำรวจต้องรู้หน้าที่ของตนเองดีอยู่แล้ว และขอให้ทราบว่าหากตำรวจเขาไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ย่อมมีโทษหนักกว่าประชาชนทั่วไป ซึ่งทางรัฐบาลเตรียมสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจในการทำงาน ให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จะได้ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงมองว่ายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ขณะนี้ตำรวจและรัฐบาลจะร่วมกันทำงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดตามแผน 5 รั้วป้องกันอย่างเต็มที่