xs
xsm
sm
md
lg

จับทันควันแท็กซี่หัวหมอหลอกรถเสียเชิดทรัพย์ต่างชาติ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รวบแท็กซี่หัวใสออกอุบายรถเสียวานให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติช่วยเข็น อาศัยจังหวะเผลอเร่งเครื่องเผ่นหนีกลางทางด่วน พร้อมหอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่องไปด้วย พลเมืองดีผ่านมาเห็นแจ้งตำรวจสกัดจับได้ทันควัน เจ้าตัวยังปากแข็งอ้างถึงเวลาส่งรถที่อู่ กลัวไปไม่ทันจึงคิดแผนลวง แต่ไม่รู้มีทรัพย์อยู่บนรถ

วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.ชวลิตต์ สืบสายไทย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งว่ามีคนขับรถแท็กซี่ลักทรัพย์ชาวต่างชาติ เหตุเกิดบริเวณจุดลงทางด่วนอาจณรงค์ ถนนอาจณรงค์ แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจเมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ที่บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลการท่าเรือ แขวงและเขตคลองเตย กทม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัญชา ไชยโย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 8 ต.โพนทราย อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมพาหนะรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร 8554 กทม. ของอู่สหกรณ์สหมิตร จำกัด

นอกจากนี้ยังพบโน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง บรรจุอยู่ในกระเป๋าและเอกสารสำคัญหลายชิ้น อยู่ภายในรถแท็กซี่ที่บริเวณเบาะด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่โรงพัก

จากการสอบสวนนายบัญชาให้การอ้างว่า ตนขับรถแท็กซี่ออกจากอู่มาตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา และจะต้องส่งรถคืนให้อู่เวลา 12.00 น.จนกระทั่งถึงเวลา 11.00 น. มีผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ 2 คน โบกรถตนจากหน้าโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ซอยสุขุมวิท 22 ให้ไปส่งที่ไบเทค บางนา ตนจึงรับขึ้นรถ เมื่อขับผ่านมาถึงบริเวณทางด่วนอาจณรงค์ ตนเห็นว่าใกล้เวลาที่จะต้องส่งรถคืนแล้วเกรงว่าจะไม่ทันจึงออกอุบายว่ารถเสียให้ผู้โดยสารลงจากรถไปช่วยเข็นแล้วขับหนี โดยไม่เห็นว่ามีทรัพย์สินวางอยู่ที่เบาะด้านหลัง

“ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมยทรัพย์สินแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการจะไปส่งรถที่อู่ให้ทันเวลาเท่านั้น ผมรู้สึกผิดที่ตัดสินใจออกอุบายไล่ผู้โดยสารลงไปแบบนั้น ส่วนที่ผมไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงข้อมูลประจำตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ติดอยู่ที่รถนั้น เนื่องผมก่อนหน้านี้เพิ่งจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดเอาไป” นายบัญชากล่าว

ต่อมา นายประยุทธ สว่างใจ อายุ 48 ปี ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ได้เดินทางมาที่ สน.ท่าเรือ พร้อมเปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 ราย คือนายเจมส์ การ์เรท อายุ 49 ปี และนายยัสเซอร์ อิสสัม อายุ 44 ปี ซึ่งเดินทางมาพักที่โรงแรมเป็นเวลา 2 วันแล้ว โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนได้เรียกแท็กซี่จากหน้าโรงแรม เพื่อเดินทางไปประชุมที่ไบเทค บางนา โดยให้เงินจำนวน 100 บาท แก่คนขับเพื่อเป็นค่าทางด่วน แต่คนขับแท็กซี่ได้พาเลี้ยวไปอีกทางพร้อมกับบอกว่ารถเสีย ชาวต่างชาติทั้ง 2 คนจึงลงจากรถไปช่วยเข็น ก่อนที่จะถูกขับหนีทิ้งเอาไว้บนทางด่วน

นายประยุทธกล่าวอีกว่า ระหว่างที่กำลังเข็นรถอยู่นั้น คนขับแท็กซี่ได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่มีพลเมืองดีนั่งรถแท็กซี่อีกคันผ่านมาพอดีจึงได้ให้รถแท็กซี่ที่นั่งมาขับตามไป ก่อนโทรศัพท์แจ้ง สวพ.ให้ช่วยกระจายข่าว เมื่อขับตามไปสักระยะก็เจอป้อมตำรวจจราจร โดยพลเมืองดีได้แจ้งตำรวจให้วิทยุสกัดจับ จนกระทั่งสามารถจับคนร้ายเอาไว้ได้ ส่วนชาวต่างชาติทั้ง 2 รายได้เดินทางกลับไปที่โรงแรมและแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่ สวพ.จนทราบว่าตำรวจจับคนร้ายไว้ได้แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาประทุษร้ายต่อทรัพย์ แต่ที่ต้องออกอุบายไล่ลง เพราะต้องการนำรถไปส่งที่อู่ ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อย่างไรก็ตามจะต้องเชิญตัวผู้เสียหาย และพลเมืองดี คือ นายมนทา ศรีแก้ว มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะต่อนายบัญชา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางไปสน.ท่าเรือ


นายบัญชา ไชยโย อายุ 35 ปี คนขับแท๊กซี่เชิดทรัพย์นักท่องเที่ยว
ผู้ต้องหาอ้างต้องการไปส่งรถให้ทันกะเท่านั้น ไม่คิดลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

กำลังโหลดความคิดเห็น