ศาลอาญาพิพากษา ส่ง “หนุ่มยูเครน” เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับขึ้นศาลสหรัฐฯ หลังหลบเข้าไทย หนีคดีค้าภาพอนาจารเด็กผ่านเว็บลามก-ฟอกเงิน
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ เป็นโจทก์ ฟ้อง นายมาคซิมส์ ชินน์คาเรนโก (Maksym Shykarenko) อายุ 31 ปี สัญชาติยูเครน เป็นจำเลย เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2552 สรุปว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทยให้จับกุมจำเลย ซึ่งสมคบกับพวกหลายคน กระทำผิดเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.46 - ก.ค.51 โดยจัดทำเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารต่างๆ เกี่ยวกับเด็กทั้งภาพถ่าย และวิดีโอจำนวนมาก ซึ่งมีลูกค้าจากรัฐนิวเจอร์ซี และที่อื่นๆ ในสหรัฐฯสั่งซื้อภาพทางอินเทอร์เน็ต และโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-โกลด์ (E-GOLD) ให้พวกจำเลยจำนวน 300,000 เหรียญสหรัฐฯ แล้วฟอกเงินโอนเข้าบัญชีจำเลย ต่อมาวันที่ 12 ก.ย.2551 จำเลยถูกฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯประจำรัฐนิวเจอร์ซีเลขที่ 08-625 และศาลได้ออกหมายจับ ซึ่งคดียังไม่ขาดอายุความ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมายของประเทศสหรัฐฯ และสามารถลงโทษได้ตามกฎหมายไทย เทียบได้กับความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ม.14(4)(5) และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287, 83, 86 ซึ่งมีโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี มิใช่ความผิดทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร ขอให้ส่งตัวจำเลยกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯด้วย ต่อมาวันที่ 23 ม.ค.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.ภูเก็ต ตามหมายจับของศาลอาญา ขณะหลบหนีมาหลบซ่อนในประเทศไทย เบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่ภายหลังให้การรับสารภาพโดยดี และไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์แล้ว ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมจับกุม เบิกความยืนยันว่า จำเลยเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับจริง ซึ่งพยานไม่รู้จักจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะปรักปรำใส่ร้าย อีกทั้งจำเลยไม่นำพยานเข้าสืบหักล้าง พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯร้องขอ จึงมีคำสั่งให้ขังจำเลยไว้เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป แต่ไม่ให้ส่งตัวจำเลยออกนอกราชอาฯจักรก่อนครบ 30 วัน นับแต่ที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ หากจำเลยไม่ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด จะทำให้คำสั่งศาลถือเป็นที่สุด และต้องดำเนินการส่งตัวตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ เป็นโจทก์ ฟ้อง นายมาคซิมส์ ชินน์คาเรนโก (Maksym Shykarenko) อายุ 31 ปี สัญชาติยูเครน เป็นจำเลย เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2552 สรุปว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทยให้จับกุมจำเลย ซึ่งสมคบกับพวกหลายคน กระทำผิดเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.46 - ก.ค.51 โดยจัดทำเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารต่างๆ เกี่ยวกับเด็กทั้งภาพถ่าย และวิดีโอจำนวนมาก ซึ่งมีลูกค้าจากรัฐนิวเจอร์ซี และที่อื่นๆ ในสหรัฐฯสั่งซื้อภาพทางอินเทอร์เน็ต และโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-โกลด์ (E-GOLD) ให้พวกจำเลยจำนวน 300,000 เหรียญสหรัฐฯ แล้วฟอกเงินโอนเข้าบัญชีจำเลย ต่อมาวันที่ 12 ก.ย.2551 จำเลยถูกฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯประจำรัฐนิวเจอร์ซีเลขที่ 08-625 และศาลได้ออกหมายจับ ซึ่งคดียังไม่ขาดอายุความ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมายของประเทศสหรัฐฯ และสามารถลงโทษได้ตามกฎหมายไทย เทียบได้กับความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ม.14(4)(5) และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287, 83, 86 ซึ่งมีโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี มิใช่ความผิดทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร ขอให้ส่งตัวจำเลยกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯด้วย ต่อมาวันที่ 23 ม.ค.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.ภูเก็ต ตามหมายจับของศาลอาญา ขณะหลบหนีมาหลบซ่อนในประเทศไทย เบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่ภายหลังให้การรับสารภาพโดยดี และไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์แล้ว ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมจับกุม เบิกความยืนยันว่า จำเลยเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับจริง ซึ่งพยานไม่รู้จักจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะปรักปรำใส่ร้าย อีกทั้งจำเลยไม่นำพยานเข้าสืบหักล้าง พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯร้องขอ จึงมีคำสั่งให้ขังจำเลยไว้เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป แต่ไม่ให้ส่งตัวจำเลยออกนอกราชอาฯจักรก่อนครบ 30 วัน นับแต่ที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ หากจำเลยไม่ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด จะทำให้คำสั่งศาลถือเป็นที่สุด และต้องดำเนินการส่งตัวตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
