“พัชรวาท” แค้นฝังหุ่น ปิดหูหลับตา! ฟ้อง “เอเอสทีวี” ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน-หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นสำนวนที่สามหลังแฉข้อเท็จจริงมีรีสอร์ตหรู 100 ล้าน และซุกคอกม้ากลางหุบเขาแก่งคอย มูลค่า 100 ล้าน
วันที่ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญาฯ ม.136, 326, 328 และ ม.332
ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. - 7 ก.ย.52 จำเลยทั้งสองซึ่งโจทก์ได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทหมายเลขดำที่ อ.2660/2552 และ อ.2994/2552 ได้กระทำผิดซ้ำซากในลักษณะเดียวกันโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันตีพิมพ์ข้อความลงในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 1-7 ก.ย.2552 ต่อเนื่องกันทำนองว่าโจทก์มีรีสอร์ตหรู ราคา 100 ล้านบาท ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยใส่ชื่อบุตรสาวถือครองแทน ทำนิติกรรมอำพราง ทุจริต ได้ทรัพย์สินโดยมิชอบ บีบบังคับผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิดกฎหมาย บริหารงานตกต่ำ และไร้ประสิทธิภาพ และลงข่าวโจทก์มีหุ้นในกิจการคอกม้าชื่อดัง ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน และทุจริตงบประมาณ งบประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 18 ล้านบาท
โดยการลงข้อความดังกล่าวนั้นเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่เสื่อมเสียชื่อเสียง และเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าโจทก์ทุจริต เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ การกระทำดังกล่าวจึงไม่ใช่การติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่ได้รับการยกเว้นกฎหมาย ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยให้นับโทษต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.2660/2552 และอ.2994/2552 พร้อมทั้งให้ร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 7 ฉบับ เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน โดยศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป