สองคนร้ายขับ จยย.ชิงทรัพย์กระเป๋าถือนักธุรกิจจิวเวลรี ขณะพยุงมารดาลงจากรถเข้าบ้านพัก ภายในซอยสุขุมวิท 65 สูญเงินสด เครื่องเพชรมูลค่ากว่า 1 ล้าน
วานนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.ท.สุรศักดิ์ คชภักดี ร้อยเวร สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์เป็นกระเป๋าถือใส่เงินสด และเครื่องเพชร เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 276 และ 286/3 ซอยสุขุมวิท 65 แยกซอยชัยพฤกษ์ 2/1 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.คลองตัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝดสูง 4 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณหน้าบ้านพบ น.ส.ศิริพันธ์ กมลรัตนพิบูลย์ พร้อมด้วยญาติ ยืนรอให้การกับตำรวจ โดย น.ส.ศิริพันธ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับมารดาไปทำธุระด้วยกัน 2 คน จากนั้นได้แวะซื้ออาหารที่ภัตตาคาร และเข้ามาส่งมารดาที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยจอดรถยนต์ยี่ห้อจากัวร์ไว้ที่หน้าประตู ก่อนจะมีคนในบ้านซึ่งเป็นญาติกันกำลังออกมาเปิดประตูให้ ขณะที่กำลังพยุงมารดาลงจากรถ ซึ่งขณะนั้นตนได้ถือกระเป๋าหนังแบบสะพายไว้ที่มือขวา ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน คนขับสวมเสื้อสีแดง สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำทับ ใส่กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีดำ ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ขี่รถมาจอดใกล้กับรถยนต์แล้วคนซ้อนท้ายก็ลงจากรถมากระชากเอากระเป๋าในมือไป
“ระหว่างที่คนร้ายมาดึงเอากระเป๋านั้น ดิฉันก็พยายามสู้ จึงถูกคนร้ายผลัก ขณะที่คนในบ้านพยายามออกมาช่วย คนร้ายก็ทำท่าเหมือนจะคว้าเอาอาวุธออกมา ก่อนวิ่งเข้าไปทำร้ายชกต่อยและกระทืบกลุ่มญาติๆ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่น ขับขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว” น.ส.ศิริพันธ์ กล่าว และว่าในกระเป๋ามีเงินสดกว่า 1 แสนบาท แหวนเพชร ซึ่งมารดาเพิ่งถอดเก็บใส่กระเป๋าขนาดน้ำหนัก 3 กะรัต และยังมีทรัพย์สินของมีค่าส่วนใหญ่เป็นเครื่องเพชร เนื่องจากครอบครัวของตนประกอบธุรกิจจิวเวลรี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 1 ล้านกว่าบาท
น.ส.ศิริพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตนพยายามขับรถตามคนร้ายไปแต่ตามไม่ทันเนื่องจากคนร้ายขับรถออกไปเร็วมาก ประกอบกับละแวกดังกล่าวมีซอยทะลุกันหลายซอย ตนจึงโทรศัพท์แจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยส่งกำลังสกัดจับคนร้าย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะสะกดรอยตน และเคยก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้งในย่านนี้ โดยปีที่ผ่านมาน้องสาวของตนก็เคยถูกก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้
ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด ขณะเดียวกันได้ให้ผู้เสียหายตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีสิ่งใดสูญหายไปบ้าง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจสน.คลองตัน ช่วยกันสกัดจับคนร้ายต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน โดยพยานใกล้กับที่เกิดเหตุแจ้งว่าสังเกตเห็นทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายทะเบียน วนฉ 448 กทม.พร้อมทั้งตรวจกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง