นครบาลเตือนเสื้อแดงชุมนุมในกรอบอย่ารุนแรง เตรียมบันทึกภาพเป็นหลักฐานหากผิดพร้อมดำเนินคดี กวดขันห้ามนำเหล้าเข้าพื้นที่ชุมนุม เริ่มทยอยรวมตัวลานพระรูปประมาณ 5 พัน ตรึงกำลังเข้มหน้าบ้านสี่เสาฯ ยังไม่พบเหตุมือที่ 3 วางระเบิด
วันที่ (19 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บชน. ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปก.บช.น) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการประชุมประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และขณะนี้ได้มีการประชุมทางไกลกับ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อประสานข้อมูลข่าวสารกัน โดยตลอด
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางมา โดยส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังเป็นปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากในพื้นที่ชุมนุมเป็นเขตพระราชฐาน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยถวายความอารักขา ดูแลความปลอดภัยในเขตพื้นที่พระราชฐาน และพื้นที่ที่มีการประทับเป็นพิเศษแล้ว โดยมอบมายให้ พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น. เป็นผู้ดูแลความปลอดภัย
“อยากฝากผู้ชุมนุม ชุมนุมตามกรอบของกฎหมายอย่าใช้ความรุนแรง เพราะจะมีเจ้าหน้าที่บันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวทุกพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน หากมีการทำผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวกับศาล ก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากเข้าข่ายละเมิดคำสั่งศาลก็จะถูกดำเนินคดีทันที ในส่วนนี้จะมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.เป็นผู้ดูแล” พ.ต.อ.ปิยะ กล่าว
รอง ผบก.อก.บชน.กล่าวฝากไปยังผู้ชุมนุมด้วยว่า ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลในพื้นที่ที่ชุมนุม ทั้งบุคคล สิ่งของ ที่ไม่ชอบมาพากล หรือต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการทันที เพื่อป้องกันความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง และป้องกันมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง นอกจากนี้ได้ประสานไปยัง กอ.รมน.กทม. เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตดุสิต ให้ช่วยสอดส่องดูแลเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นพิเศษแล้ว หากพบก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนพื้นที่ควบคุมเป็นพิเศษที่ห้ามใช้เส้นทางหรือยานพาหนะผ่าน ก็ได้มีการประกาศออกไปแล้วว่ามีถนนใดบ้าง หลังจากนี้จะมีการปิดป้ายประกาศขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง และจะมีการแถลงข่าวประเมินสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะๆ
ต่อมาช่วงบ่าย ที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินตรวจกำลังตำรวจทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด ถ.ศรีอยุธยา ซึ่งมีการกั้นแผงเหล็กปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องตลอดเส้นทาง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า สถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังปกติไม่มีอะไร ส่วนผู้ชุมนุมก็เริ่มทยอยมายังบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเรื่องๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าจน ล่าสุดประเมินว่ามีจำนวนประมาณ 5 พันคน ซึ่งสามารถมาชุมนุมได้ตามสิทธิ หากไม่มีการทำอะไรที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์มีการนำแผงเหล็กมากั้นปิดไว้ 1 ช่องทางผู้ชุมนุมสามารถใช้ถนนดังกล่าวได้แต่ห้ามเข้ามาในบริเวณที่กั้นแผงเหล็ก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะมีมือที่ 3 ก่อกวนการชุมนุมด้วยการวางระเบิดนั้น พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงการข่าว แต่ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจส่งฝ่ายสืบสวนออกหาข่าว และรายงานให้ทราบเป็นระยะก็ยังไม่พบเหตุลอบวางระเบิดตามที่เป็นข่าว สำหรับสถานการณืการชุมนุมหากไม่มีอะไรก็คาดว่าจะเลิกการชุมนุมในเวลาประมาณเที่ยงคืนตามกำหนดเดิม ส่วนที่เกรงว่าจะมีเหตุก่อกวนหลังเลิกการชุมนุมนั้นทางตำรวจก็มีการวางกำลังดูแลจนกว่าผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกันหมด พร้อมมีจุดตรวจต่างๆ รอบพื้นที่ชุมนุมอยู่แล้ว พร้อมกวดขันเรื่องการนำเครื่องดืมแอลกอฮอล์เข้าพื้นที่ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อขาาวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประกาศเขตพื้นที่หวงห้าม ที่กำหนดห้ามทั้งการคมนาคม และการสื่อสาร ซึ่งเป็นไปตามผลการบังคับใช้ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จากที่คณะรัฐมนตรีได้ประกาศเขตพื้นที่หวงห้ามไว้ จุดแรกเป็นพื้นที่ถนนนครปฐม จุดที่ 2 คือตั้งแต่สี่แยกเทวกรรม ถึงแยกสะพานชมัยมรุเชฐ จุดที่ 3 คือ ถนนลูกหลวงแยกเทวกรรม แยกมัฆวานรังสรรค์ จุดที่ 4 คือ เส้นทางคู่ขนานถนนราชดำเนินนอก จุดที่ 5 คือ ถนนอู่ทองนอก ศรีอยุธยา และราชดำเนินนอก และจุดสุดท้าย คือ ถนนสามเสน 12 จนถึงท้ายซอย ถนนราชสีมา และถนนอู่ทองนอก โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขออภัยประชาชนที่ต้องใช้การสัญจรในบริเวณเส้นทางดังกล่าว และการติดต่อสื่อสารในบริเวณพื้นที่นั้น ว่าอาจจะไม่ได้รับความสะดวกในวันนี้