ปิดซ่อมสะพานข้ามแยกบางพลัดวันแรก ฝั่งมุ่งหน้าซังฮี้ติดหนัก

เริ่มปิดซ่อมสะพานข้ามแยกบางพลัดแล้ว ใช้เวลา 90 วัน เริ่มจากฝั่งมุ่งหน้าถนนสิรินธรก่อน ตั้งแต่ 16 ก.ย.-30 ต.ค. จากนั้นสลับมาปิดฝั่งมุ่งหน้าถนนราชวิถีในวันที่ 31 ต.ค-15 ธ.ค. ผู้ว่าฯ กทม.ยอมรับกระทบการจราจรชั่วโมงเร่งด่วนแน่นอน วอนประชาชนอดทน เพราะหากทิ้งไว้อาจเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ด้านตำรวจระดมกำลังระบายรถ แนะหลีกเลี่ยงไปใช้สะพานปิ่นเกล้า-พระราม 8 และพระราม 7

เมื่อเวลา 00.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม.ลงพื้นที่บริเวณสี่แยกบางพลัด (ถนนจรัญสนิทวงศ์-ถนนราชวิถี) เพื่อตรวจการปิดปรับปรุงสะพานข้ามแยกบางพลัด และรับฟังแผนงานซ่อมแซมสะพาน พร้อมแนะนำเส้นทางเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า การปิดซ่อมสะพานข้ามแยกบางพลัดจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาที่ได้วางแผนไว้อย่างแน่นอน แต่ในช่วงที่มีการปิดสะพาน ทางกทม.ต้องขออภัยผู้ใช้รถเส้นทางนี้ เพราะยอมรับว่าจะเกิดผลกระทบกับการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนอย่างแน่นอน แต่กทม.ก็มีความจำเป็นที่ต้องปิดถนนเพื่อซ่อมแซมสะพานที่มีความเสียหาย และเสื่อมสภาพบริเวณฐานสะพานและผิวจราจรชำรุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้สะพานได้ กทม.จึงจำเป็นต้องปิดซ่อมแซมโดยเร่งด่วน จึงขอให้พี่น้องประชาชนอดทน ซึ่งหลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้ว จะได้สะพานเหมือนสร้างใหม่แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสะพานข้ามแยกบางพลัดนั้น เป็นสะพานข้ามแยกแห่งที่ 2 ในกทม.ที่จะปิดซ่อมแซมเป็นเวลา 90 วัน โดยจะเริ่มปิดสะพานฝั่งขาออกมุ่งหน้าถนนสิรินธร เป็นเวลา 45 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-30 ต.ค. สำหรับการจัดการจราจรนั้นจะจัดให้เดินรถทางเดียวให้ฝั่งขาเช้าใช้สะพาน 2 ช่องทางตลอดเวลา ยกเว้นช่วงเวลา 15.30-20.00 น.จะกลับทิศทางจราจรตรงกันข้าม เพื่อระบายรถออกเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเย็น

จากนั้นตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.-15 ธ.ค. จะปิดสะพานฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าถนนราชวิถี อีก 45 วัน โดยการจัดการจราจรนั้น จะเปิดสะพานฝั่งที่ปิดไว้ให้รถฝั่งขาออกวิ่งบนสะพานได้ 2 ช่องทางตลอดเวลา ยกเว้นช่วง 05.30-15.00 น.จะเปลี่ยนให้ฝั่งขาเข้าวิ่งบนสะพานได้ทั้ง 2 ช่องทาง เพื่อระบายรถเข้าเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเช้า ทั้งนี้ระหว่างปิดซ่อมสะพานทั้งสองฝั่งนั้น จะห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปและรถจยย.ขึ้นสะพานดังกล่าว

ต่อมาเวลา 06.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.จร.ได้เดินทางมาตรวจสอบสภาพการจราจรที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง โดย พล.ต.ต.วิมล เปิดเผยว่า ทาง บก.จร.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง กับตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ จำนวน 30 นาย ตำรวจจราจรของ สน.บางพลัด จำนวน 10 นาย และเทศกิจอีก 10 นาย ช่วยกันเร่งระบายรถจากถนนสิรินธรข้ามแยกบางพลัดไปจนถึงสะพานกรุงธน และเมื่อลงจากสะพานกรุงธนไปแล้ว จะมีตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ 45-60 นาย คอยอำนวยความสะดวกไปจนถึงแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อให้การจราจรสามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ

“ส่วนในช่วงเวลาบ่ายสามโมงครึ่งถึงสองทุ่ม จะให้รถขาออกจากสะพานซังฮี้มุ่งหน้าถนนสิรินธรใช้สะพานทั้งสองช่องทาง ส่วนรถขาเข้าเมืองจากถนนสิรินธรนั้นต้องมาผ่านไฟแดงที่แยกบางพลัด แต่อย่างไร็ตามจะต้องพิจารณาสภาพการจราจรในช่วงนั้นอีกครั้ง เนื่องจากอาจจะเปิดให้มีการจราจรทั้งขาเข้าและขาออกฝั่งละ 1 ช่องทางก็ได้” ผบก.จร.กล่าว

พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า ส่วนช่วงกลางคืนจะมีสายตรวจจราจรประมาณ 6-7 คัน คอยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาอยู่บริเวณนี้ เนื่องจากรถมีจำนวยน้อย ซึ่งทางตำรวจจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแบบนี้ไปตรอดระยะเวลาที่มีการปิดสะพานข้ามแยก อย่างไรก็ตามหากหลีกเลี่ยงได้ก็แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้สะพานปิ่นเกล้า สะพานพระราม 8 หรือสะพานพระราม 7 แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางนี้ ก็จะมีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา

พล.ต.ต.วิมล กล่าวด้วยว่า บริเวณคอสะพานข้ามแยกบางพลัดจะมีป้ายรถเมล์อยู่ แต่ในช่วงที่มีการปิดสะพานเพื่อซ่อมแซมนั้น จะยกเลิกป้ายรถเมล์บริเวณนี้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากหากมีรถโดยสารประจำทางจอดรับส่งผู้โดยสารติดต่อกันหลายคันก็อาจจะทำให้การจราจรมีปัญหา รบกวนประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางเดินไกลอีกนิด