ตำรวจชุดสืบลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายปาระเบิดบ้านเก่า “วิชา มหาคุอ พบสลักระเบิดแบบขว้างสังหาร M-67 ใหม่เอี่ยมติดอยู่กิ่งมะม่วง ตั้ง 3 ปม คลี่คลายคดี
จากกรณีที่มีคนร้ายใช้ระเบิดแบบขว้างสังหารปาเข้าไปภายในบ้านเลขที่ 250 ซอยสิรินธร 2 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ส่งผลให้โรงรถได้รับความเสียหายแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.50 น. วันที่ 11 ก.ย.52 ตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (12 ก.ย.) ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วยฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.7 เข้าประชุมหาแนวทางการทำงานร่วมกันที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 โดย พล.ต.ต.ไพศาล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เรียกชุดทำงานเข้ามาประชุมกันตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้โดยจะเตรียมสรุปรายงานผลการทำงานให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.รับทราบในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ สน.บางพลัด
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจหาเบาะแสของคนร้ายจากการดูกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงกับบ้านที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่ามีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่บริเวณปากซอยสิรินธร 2 และปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ซึ่งเป็นเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีแต่ยังต้องรอผลการตรวจสอบสักระยะว่ากล้องสามารถบันทึกภาพอะไรไว้ได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสืบสวนจะเร่งตรวจดูกล้องที่ติดตั้งอยู่ตามเส้นทางถนนสิรินธรทั้งสายอีกด้วย เพื่อรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับตัวคนร้ายให้ได้มากที่สุด มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นของเหตุการณ์ในครั้งนี้ไว้ 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของ นายวิชา มหาคุณ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านคนเก่า 2.เรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจและเรื่องส่วนตัวของ ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยา อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เจ้าของบ้านคนใหม่ที่ซื้อบ้านต่อจากนายวิชา ซึ่งมีข้อมูลว่า ทาง ดร.ยุวลักษณ์ยังทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเรียนสอนกวดวิชาด้วย และ 3.เป็นฝีมือของพวกที่อาศัยเหตุความวุ่นวายทางการเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน
โดยหลังจากที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบในบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งก็พบกับสลักระเบิดแบบขว้างสังหาร ชนิด M-67 สภาพใหม่เอี่ยมติดอยู่บนกิ่งมะม่วง เหนือลานจอดรถในบ้านที่เกิดเหตุ จึงเชื่อได้แน่นอนว่าอาวุธที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดขว้างไม่ใช่ระเบิดแสวงเครื่องแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณร้าน 7-11 ที่อยู่ใกล้กันนั้นไม่พบภาพของคนร้าย ประกอบกับที่มีพยานระบุว่าได้ยินเสียงรถปิคอัพขับผ่านไปขณะเกิดเหตุก็ไม่น่าจะใช่ เพราะจุดดังกล่าวเป็นซอยแคบรถขนาดใหญ่วิ่งลำบาก คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้รถ จยย.มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งของ สน.บางพลัด และ กก.สืบสวน บก.น.7 ได้พยายามเร่งตรวจสอบหลักฐานด้านต่างๆ ในเชิงลึกทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่คาดว่าคนร้ายจะใช้สัญจรผ่านย้อนหลังเป็นเวลา 3 วัน อีกทั้งยังใช้เทคนิคพิเศษตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางโทรศัพท์ของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเร่งด่วน เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
