คนร้ายลอบปาระเบิดบ้านเก่า “วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช. โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เจ้าตัวบอกขายบ้านให้คนรู้จักไปแล้ว ยังไม่ปักใจเชื่อเหตุที่เกิดเกี่ยวกับการตัดสินสลายม็อบ 7 ต.ค. ด้านอาจารย์เจ้าของบ้านพูดติดตลกเตรียมเอาป้ายมาติดบอกเจ้าของเก่าขายบ้านให้แล้ว ตร.เชื่อแค่ข่มขู่ เร่งหาสาเหตุสอบกล้องวงจรปิดหามือปา
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (11 ก.ย.) ร.ต.ท.บุรัสกร ลาผ่าน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางพลัด รับแจ้งมีคนร้ายปาระเบิดใส่บ้านของนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตั้งอยู่เลขที่ 250 ซอยสิรินธร 2 ถนนสิรินธร แขวงและเขตบางพลัด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 เจ้าหน้าที่หน่วยงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 85 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด แต่ไม่มีคนพักอาศัย ซึ่งจากการตรวจภายในบ้านหลังดังกล่าวพบว่ากันสาดบริเวณด้านหน้าถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย กระจกประตูด้านหน้าและหน้าต่างแตกกระจาย และพบกระเดื่องระเบิดชนิด M-213 ตกอยู่ด้านบนกันสาด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ แรงระเบิดยังทำให้กระจกรถยนต์และกระจกหน้าต่างของบ้านใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถามนางจุฬารัตน์ อื้อพรรณรังษี อายุ 44 ปี ผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมแลนด์มาร์ค เจ้าของบ้านข้างเคียงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 04.00 น.ตนนอนอยู่บนชั้นสองของบ้านซึ่งติดกับบ้านหลังเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงรถคล้ายรถกระบะขับผ่านมาจากทางซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 โดยขณะที่รถผ่านไปนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดจึงได้ออกมาดูทางหน้าต่าง แต่เห็นเพียงรถกระบะคันดังกล่าวขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนไม่เห็นรายละเอียดของรถกระบะคันดังกล่าวมากนักเพราะเป็นช่วงเช้ามืด
ต่อมา ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ได้เดินทางยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่าเดิมบ้านดังกล่าวเป็นของนายวิชา มหาคุณ แต่ตนเพิ่งซื้อต่อมาเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ในราคา 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีเรื่องอะไรกับใคร คาดว่าคนร้ายน่าจะคิดว่าบ้านหลังดังกล่าวยังเป็นของนายวิชาอยู่ เพราะก่อนหน้าที่ตนจะซื้อบ้านหลังดังกล่าว นายวิชาเคยมาดูแลต้นไม้ภายในบ้านเป็นประจำ นอกจากนี้ยังทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกคนร้ายยิงใส่ตัวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยหลังจากนี้จะต้องเอาป้ายมาติดไว้ว่าเจ้าของเก่าได้ขายแล้ว เพื่อป้องกันเหตุร้าย
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นระเบิดแบบใช้ขว้าง ระยะหวังผลประมาณ 3-4 เมตร โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะต้องการข่มขู่ ไม่ได้หวังผลเอาชีวิต เพราะคนร้ายมีช่องทางในการปาให้ถึงตัวบ้าน แต่กลับขว้างมาเพียงกันสาดบ้านเท่านั้น ส่วนประเด็นในการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ได้ให้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามปากซอยทางเข้าออกและบ้างข้างเคียงแล้ว
ด้าน นายวิชา มหาคุณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่ต่างจังหวัดจึงไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่เบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเก่าของตน ซึ่งเพิ่งขายให้กับคนที่รู้จักกันไป ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางการเมือง จากการตัดสินคดีสลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ต.ค.51 หรือไม่นั้น นายวิชากล่าวว่า ตนยังไม่ขอออกความเห็นเนื่องจากต้องการขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่าบ้านหลังดังกล่าวมีตู้แดงแจ้งเหตุอยู่หน้าบ้านอยู่ด้วย แต่เหตุใดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นได้
ด้าน พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางพลัด กล่าวว่า จากการสืบสวนในขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุก่อน พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนเรื่องที่จะต้องเรียกตัวนายวิชา มาทำการสอบปากคำหรือไม่นั้น ตอนนี้คงจะยังไม่ต้องเรียกมา แต่ในเบื้องต้นคงจะต้องเรียกตัว ดร.ยุวลักษณ์ มาทำการสอบปากคำก่อน ในฐานะเป็นเจ้าของบ้านคนปัจจุบัน
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (11 ก.ย.) ร.ต.ท.บุรัสกร ลาผ่าน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางพลัด รับแจ้งมีคนร้ายปาระเบิดใส่บ้านของนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตั้งอยู่เลขที่ 250 ซอยสิรินธร 2 ถนนสิรินธร แขวงและเขตบางพลัด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 เจ้าหน้าที่หน่วยงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 85 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด แต่ไม่มีคนพักอาศัย ซึ่งจากการตรวจภายในบ้านหลังดังกล่าวพบว่ากันสาดบริเวณด้านหน้าถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย กระจกประตูด้านหน้าและหน้าต่างแตกกระจาย และพบกระเดื่องระเบิดชนิด M-213 ตกอยู่ด้านบนกันสาด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ แรงระเบิดยังทำให้กระจกรถยนต์และกระจกหน้าต่างของบ้านใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถามนางจุฬารัตน์ อื้อพรรณรังษี อายุ 44 ปี ผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมแลนด์มาร์ค เจ้าของบ้านข้างเคียงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 04.00 น.ตนนอนอยู่บนชั้นสองของบ้านซึ่งติดกับบ้านหลังเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงรถคล้ายรถกระบะขับผ่านมาจากทางซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 โดยขณะที่รถผ่านไปนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดจึงได้ออกมาดูทางหน้าต่าง แต่เห็นเพียงรถกระบะคันดังกล่าวขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนไม่เห็นรายละเอียดของรถกระบะคันดังกล่าวมากนักเพราะเป็นช่วงเช้ามืด
ต่อมา ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ได้เดินทางยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่าเดิมบ้านดังกล่าวเป็นของนายวิชา มหาคุณ แต่ตนเพิ่งซื้อต่อมาเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ในราคา 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีเรื่องอะไรกับใคร คาดว่าคนร้ายน่าจะคิดว่าบ้านหลังดังกล่าวยังเป็นของนายวิชาอยู่ เพราะก่อนหน้าที่ตนจะซื้อบ้านหลังดังกล่าว นายวิชาเคยมาดูแลต้นไม้ภายในบ้านเป็นประจำ นอกจากนี้ยังทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกคนร้ายยิงใส่ตัวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยหลังจากนี้จะต้องเอาป้ายมาติดไว้ว่าเจ้าของเก่าได้ขายแล้ว เพื่อป้องกันเหตุร้าย
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นระเบิดแบบใช้ขว้าง ระยะหวังผลประมาณ 3-4 เมตร โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะต้องการข่มขู่ ไม่ได้หวังผลเอาชีวิต เพราะคนร้ายมีช่องทางในการปาให้ถึงตัวบ้าน แต่กลับขว้างมาเพียงกันสาดบ้านเท่านั้น ส่วนประเด็นในการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ได้ให้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามปากซอยทางเข้าออกและบ้างข้างเคียงแล้ว
ด้าน นายวิชา มหาคุณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่ต่างจังหวัดจึงไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่เบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเก่าของตน ซึ่งเพิ่งขายให้กับคนที่รู้จักกันไป ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางการเมือง จากการตัดสินคดีสลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ต.ค.51 หรือไม่นั้น นายวิชากล่าวว่า ตนยังไม่ขอออกความเห็นเนื่องจากต้องการขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่าบ้านหลังดังกล่าวมีตู้แดงแจ้งเหตุอยู่หน้าบ้านอยู่ด้วย แต่เหตุใดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นได้
ด้าน พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางพลัด กล่าวว่า จากการสืบสวนในขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุก่อน พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนเรื่องที่จะต้องเรียกตัวนายวิชา มาทำการสอบปากคำหรือไม่นั้น ตอนนี้คงจะยังไม่ต้องเรียกมา แต่ในเบื้องต้นคงจะต้องเรียกตัว ดร.ยุวลักษณ์ มาทำการสอบปากคำก่อน ในฐานะเป็นเจ้าของบ้านคนปัจจุบัน